กลุ่มแฮกเกอร์มุสลิม โจมตีเว็บไซต์ของทางการไทย

ปรับปรุงข้อมูลล่าสุด 16:45 ET 2015-08-26

จันทร์ที่ 24 ส.ค. 2558 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา จนถึงเช้าวันจันทร์นี้ “ทีมฟาลลากา” (Fallaga Team) กลุ่มแฮกเกอร์มุสลิมจากตูนิเซีย ได้โจมตีเว็บไซต์ส่วนราชการจังหวัดของไทย 6 แห่งด้วยกัน

เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เว็บไซต์ของส่วนราชการ อย่างน้อย 3 แห่ง ถูกแฮก ได้แก่ เว็บไซต์ของจังหวัดลำพูน เว็บไซต์สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยมหาสารคาม และเว็บไซต์ของโรงพยาบาลลำลูกกา จ.ปทุมธานี โดยระบุว่า "เพื่อมุสลิมในพม่า" จากรายงานข่าวจากเว็บไซต์ประชาไท

และเช้าวันจันทร์ มีรายงานเพิ่มเติมว่า เว็บไซต์ส่วนราชการประจำจังหวัด อีก 3 แห่ง ได้แก่ เว็บไซต์จังหวัดสิงห์บุรี จังหวัดสระแก้ว และจังหวัดตาก ไม่สามารถใช้การได้ แต่ยังยืนยันไม่ได้ว่าถูกโจมตีโดย ทีมฟาลลากา หรือไม่ รายงานข่าวจากประชาไท

“เวบไซต์ เราโดนโจมตีเมื่อวันเสาร์และวันอาทิตย์ เขาเข้ามาที่หน้าเวบเฉยๆ ไม่ได้รบกวนข้อมูลอื่นๆ ตอนนี้ เราปิดเว็บ และกำลังเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จ” นายบำรุง รื่นบันเทิง หัวหน้าฝ่ายบำรุงเว็บไซต์ของจังหวัดลำพูน กล่าวแก่ เบนาร์นิวส์ เมื่อวันอังคารที่ 25 ส.ค.

จากข่าวสารในเว็บไซต์ของ สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) (สพธอ.) หรือ เอ็ตด้า (ETDA) ของ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (กระทรวงไอซีที) เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2558 ได้แจ้งว่า ไทยเซิร์ต (ThaiCERT) หน่วยงานที่ทำหน้าที่เฝ้าระวังเว็บไซต์ของหน่วยงานภาครัฐ ดำเนินการภายใต้ สพธอ. นั้น ทราบว่า กลุ่มแฮกเกอร์ที่เรียกตนเองว่า ทีมฟาลลากา ได้เจาะเข้าระบบ และทำการเปลี่ยนหน้าเว็บ (Web defacement) บนเว็บไซต์หน่วยงานราชการ ในประเทศไทยหลายแห่ง เพื่อทำลายความน่าเชื่อถือของหน่วยงานเจ้าของเว็บไซต์นั้นๆ

ไทยเซิร์ต ได้รวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการโจมตีเว็บไซต์ของหน่วยงานรัฐ และได้ประสานไปยังผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือวิเคราะห์หาช่องโหว่ของเว็บไซต์ที่ถูกโจมตี เพื่อเพิ่มการเฝ้าระวังในการป้องกันต่อไป

จากการตรวจสอบทางสถิติถึงการโจมตีเว็บไซต์ย้อนหลังไปตั้งแต่วันที่ 25 พฤษภาคม 2558 ที่เกี่ยวข้องกับการโจมตีของ "ทีมฟาลลากา” (Fallaga Team) พบว่ามีการโจมตีเว็บไซต์ในประเทศไทยมากกว่า 106 เว็บไซต์

โดยกลุ่มแฮกเกอร์นี้ เรียกตนเองว่า "Fallag Gassrini and Dr. Lamouchi" แต่เป็นที่รู้จักกันในชื่อ "ทีมฟาลลากา" (Fallaga team) ก่อนหน้านี้ กลุ่มแฮกเกอร์ดังกล่าว เคยปฏิบัติการร่วมกับกลุ่มอิสลามอื่นๆ และเคยโจมตีเว็บไซต์ของอิสราเอล และเว็บไซต์ฝรั่งเศส หลังจาก เกิดเหตุการณ์บุกยิงที่สำนักงานนิตยสารชาร์ลี เอบโด

รายงานของประชาไท กล่าวว่า เว็บไซต์ทางการของจังหวัดลำพูน ถูกแฮกและลงข้อความระบุรายละเอียดมากที่สุด ในจำนวนเว็บไซต์ที่ถูกแฮกทั้งหมด โดยมีข้อความว่า "ถูกแฮกโดย Fallag Gassrini & Dr Lamouchi กลุ่มต่อต้านไซเบอร์ชาวตูนิเซีย Fallaga Team!..." ตามด้วยข้อความอีกมากว่า "... ข้อความของเราไม่ได้ฝากไปถึงแอดมินเท่านั้น แต่ฝากไปยังชาวโลก ..."

แฮกเกอร์ยังทิ้งข้อความไว้ว่า “คุณต้องเคารพคนของเรา”  “เราทีมฟาลลากา เป็นชาวมุสลิม” ตามรายงาน บางกอกโพสต์

ขณะเดียวกัน ยังไม่มีรายงานข่าวของการโจมตีในโลกไซเบอร์ โดยกลุ่มเดียวกันที่ประเทศอื่น ๆ ตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ผ่านมา

บางกอกโพสต์อ้างอิง กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ว่า เป็นการแฮกที่ "ดำเนินการพร้อมกันทั่วโลก โดยใช้บรรทัดคำสั่ง Linux"

ขณะที่ สำนักข่าวรอยเตอร์อ้างอิง โฆษกกระทรวง ที่กล่าวว่า แฮกเกอร์ไม่ได้เข้าถึงข้อมูลของเว็บไซต์ทางการ และ ตำรวจไม่เชื่อว่าการโจมตีในโลกไซเบอร์นี้ จะมีส่วนเชื่อมโยงกับระเบิดที่ศาลพระพรหมเอราวัณ ในกรุงเทพฯ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ที่มีผู้เสียชีวิต 20 ราย และ บาดเจ็บอีกร่วม 125 ราย

ขณะรายงานข่าวนี้ เว็บไซต์ส่วนราชการไทยอีก 2 แห่ง ยังคงไม่สามารถใช้การได้เป็นปกติ คือ  โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยมหาสารคาม และเว็บไซต์จังหวัดสิงห์บุรี

ใครคือ ฟาลลากา

ทีมฟาลลากา เป็นกลุ่มแฮกเกอร์มุสลิมชาวตูนิเซีย ที่มีเป้​​าหมายที่ได้โจมตีก่อนหน้านี้คือ เว็บไซต์ของฝรั่งเศส ตูนิเซีย และอิสราเอล ตามรายงานของ ไซเบอร์และจิฮาดแล็บ (CJL) เว็บไซต์ที่ติดตามการปฏิบัติการโจมตีโลกไซเบอร์ ของกลุ่มอิสลามจิฮาด

ทีมฟาลลากา มีผู้ติดตามหลายพันคนบนสื่อสังคมออนไลน์ ดังเห็นได้จากประวัติของ ของกลุ่มบนเว็บไซต์ ไซเบอร์และจิฮาดแล็บ (CJL)

"ตามที่มีการประกาศต่อสาธารณชน โดยหนึ่งในสมาชิกของทีมฟาลลากา โพสต์บนเฟซบุ๊ก ว่า ฟาลลากา เป็นกลุ่มที่ต่อต้านแนวทางรัฐฆราวาส และกลุ่มที่ไม่เชื่อว่ามีพระเจ้า แต่ยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มรัฐอิสลาม (ISIS) [... ], หน้า Facebook ของทีม ยังระบุว่า มีอุดมการณ์ทางศาสนาและการเมืองที่เหมือนกัน" CJL กล่าว

"ฟาลลากา (Fallaga team) มีส่วนร่วมในการปฏิบัติการ #OpCharlieHebdo บนทวิตเตอร์ และมีการสนับสนุนค่อนข้างชัดเจน จากการโจมตีที่ผ่านมา ในกรุงปารีส" CJL กล่าว ซึ่งหมายถึง การสังหารหมู่ โดยผู้ต้องสงสัย ชาวมุสลิม ที่สำนักงานของนิตยสารชาร์ลี เอบโด (Charlie Hebdo) ในฝรั่งเศส ถูกมือปืนบุกกราดยิง เมื่อ 7 มกราคม 2558 หลังตีพิมพ์การ์ตูนล้อเลียน นบี มูฮัมหมัด เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 12 ราย