อดีตทหารเกณฑ์-คนขับรถรับส่งนักเรียน ถูกยิงตายสองรายในโคกโพธิ์
2018.04.16
ปัตตานี

เจ้าหน้าที่ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวว่า ได้เกิดเหตุซุ่มยิงรถยนต์เก๋งของอาสาสมัครรักษาดินแดน และรถยนต์สองแถวรับส่งนักเรียนโรงเรียนตาดีกาบ้านคลองช้าง ในพื้นที่ตำบลนาเกต อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี เมื่อหลังเวลาตีสองของวันจันทร์นี้ จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตสองราย และมีผู้รอดชีวิตเป็นอาสาสมัครรักษาดินแดนหนึ่งราย โดยเจ้าหน้าที่และเจ้าตัวเชื่อว่าเป็นฝีมือของกลุ่มขบวนการก่อความไม่สงบ
ร.ต.อ.สุขวัฒน์ ไชยมณี พนักงานสอบสวน สภ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี กล่าวว่า จากการสอบสวนทราบว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 02:21 น. ของวันจันทร์นี้ บนพื้นที่เขตรอยต่อ ม.3 บ้านควนลาแม กับ ม.4 บ้านคลองช้าง ต.นาเกต อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี โดยคนร้ายใช้อาวุธปืนเอ็ม.-16 ปืนเอชเค และปืนลูกซอง ยิ่งใส่รถเก๋งฮอนด้าซีวิค ของ อส.ฮาหมัดรอรี เจ๊ะเด็ง ที่มีนายอับดุลการีม บือซา อดีตทหารเกณฑ์นั่งมาด้วย ซึ่งทั้งสองกำลังเดินทางกลับจากภารกิจรักษาความปลอดภัยที่โรงเรียนตาดีกาบ้านคล้องช้าง และในขณะถูกยิงถล่มนั้น อส.ฮาหมัดรอรี เจ๊ะเด็ง ยิงโต้ตอบจนคนร้ายหลบหนีไป
แต่ในขณะเดียวกัน นายสาบูดิง นิเฮง อายุ 32 ปี ได้ขับรถสองแถว เพื่อไปรับนักเรียนที่โรงเรียนตาดีกา ผ่านมาพอดีจนทำให้รถยนต์ทั้งสองคันชนกันและถูกยิงไปด้วย
ร.ต.อ.สุขวัฒน์ กล่าวว่า นายอับดุลการีม บือซา ถูกยิงเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ และนายสาบูดิง นิเฮง เสียชีวิตที่โรงพยาบาลโคกโพธิ์ ส่วน อส.ฮามัดรอรี ได้รับบาดเจ็บอาการเล็กน้อย และถูกนำส่งโรงพยาบาลโคกโพธิ์ จ.ปัตตานี
อส.ฮาหมัดรอรี เจ๊ะเด็ง ที่ได้รับบาดเจ็บ รวมทั้งเคยผ่านการถูกซุ่มยิงมารวมสี่ครั้งแล้ว ได้กล่าวแก่เบนาร์นิวส์ว่า คนร้ายได้เขียนภาษายาวีในเชิงข่มขู่ที่รถยนต์ของตนที่จอดที่โรงเรียนแล้วในงานตาดีกาครั้งที่ 18 ซึ่งจัดชมรมตาดีกานาเกตุ
“พวกเขามาเขียนที่รถแล้ว ตอนที่จอดอยู่ที่งานตาดีกา เป็นภาษายาวี มีความหมายว่า ความเจ็บปวดเกิดจากการทำงาน ก็ไม่คิดอะไร พอมาเจอเหตุถึงรู้ว่าคือการเตือน” อส.ฮาหมัดรอรี กล่าว
“เมื่อคืนได้กลับมาก่อนที่ตาดีกาจะเลิก ประมาณ 02.00 น. กว่าๆ มาถึงบริเวณจุดเกิดเหตุ เขาใช้อาวุธสงครามยิงมาจากฝั่งขวา รัวเข้ามา ผมก็ยิงใส่ 10 กว่านัด แล้วหาช่วงจังหวะออกจากรถ หลบที่มืดในสวนยาง แล้วก็เดินไปหลบที่บ้านของชาวบ้านแจ้งเจ้าหน้าที่ ประมาณ 30 นาที ทหารที่ฐานและเจ้าหน้าที่ก็มาถึงพร้อมเพื่อน อส.จากยะลาและจากปัตตานี มาสมทบ ไล่ล่าคนร้าย” อส.ฮาหมัดรอรี กล่าว
“ผมย้อนมาที่เกิดเหตุ เห็นเพื่อนที่นั่งมาด้วยกัน รู้สึกเสียใจมาก คิดว่าทำไมเขายังไม่เลิกอีก รู้ว่าเป็นแนวร่วมในพื้นที่ ผมไม่เจาะจงใคร แต่เจ้าหน้าที่ก็มีข้อมูลแล้ว จริงๆ ผมขอให้เขาเลิกตั้งนานแล้วแต่เขาไม่เลิก” อส.ฮาหมัดรอรี กล่าวเพิ่มเติม
อส.ฮาหมัดรอรี กล่าวเพิ่มเติมว่า พบรอยเลือดบนถนนฝั่งซ้ายของรถยนต์ของตน เชื่อว่าน่าจะเป็นเลือดของคนร้ายที่ตนเองยิงจนได้รับบาดเจ็บ
ด้านนายกูเฮง สะอิ กำนันตำบลนาเกตุ กล่าวว่า คนมั่นใจว่าคนร้ายเป็นกลุ่มก่อความไม่สงบในชายแดนใต้
“มั่นใจคนร้ายเป็นกลุ่มขบวนการ ที่มีคนในพื้นที่ร่วมกับคนนอกพื้นที่มากันทั้งหมดไม่ต่ำกว่า 6 คน ที่ซุ่มยิงข้างทาง และมีการดูต้นทางอีก สังเกตความเคลื่อนไหวของ อส.มะ (อส.ฮาหมัดรอรี) จากที่เขาจัดกิจกรรมที่โรงเรียนตาดีกา เพื่อส่งสัญญาณให้กับคนร้ายที่รอก่อเหตุ” นายกูเฮง กล่าว
นายกูเฮง ยังกล่าวเบนาร์นิวส์ อีกว่า อส.มะ ประสบเหตุความไม่สงบมา เป็นครั้งที่ 4 แล้ว ครั้งแรกเมื่อปี 2549 ตอนที่ตนเองยังเป็นผู้ใหญ่บ้าน คนร้ายเข้ามาซุ่มยิงใส่บ้านของตน และได้ยิงคนร้ายเสียชีวิต 2 ราย ครั้งที่ 2 เมื่อปี 2550 อส.มะ และตนเองโดนคนร้ายวางระเบิด แต่ไม่มีใครเจ็บ ครั้งที่สาม เมื่อปี 55 อส.มะ ถูกซุ่มยิง เพื่อนเขาเสียชีวิต 1 ราย และครั้งนี้ เป็นครั้งล่าสุด ซึ่งมีเพื่อนถูกยิงเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ รวมทั้งนายสาบูดิง นิเฮง คนขับรถรับส่งนักเรียน
นางสาวฮาสูรา สาอุ อายุ 27 ปี ภรรยาคนขับรถโดยสาร กล่าวว่า เมื่อสามีเสียชีวิตลง ตนเองก็ต้องรับภาระเลี้ยงดูบุตรที่อายุยังน้อยอีกสองคน โดยที่ยังไม่รู้อนาคต
“สามีทำงานคนเดียว วันๆ มีรายได้จากการขับรถโดยสารรับจ้าง โคกโพธิ์-ปัตตานี มีรายได้ วันละ 200 บาท เรามีฐานะยากจนหาเช้ากินค่ำ ลูกๆ ยังเรียนอยู่ ไม่มีแฟนก็ยังไม่รู้จะทำอะไรต่อไป ถ้าเป็นไปได้ก็อยากทำงาน แต่ก็ยังไม่รู้จะทำอะไร ถ้ามีคนอยากช่วยก็ถือว่า ดีมาก เพราะยังมี ลูกอีกสองคน ที่จะต้องเลี้ยงดู” นางสาวฮาสูรา กล่าวแก่เบนาร์นิวส์
ด้าน พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบก.ภ.จว.ปัตตานี และผู้บังคับบัญชา กล่าวแก่ผู้สื่อข่าว เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างสอบสวนและสืบสวนคดีนี้อยู่
“เบื้องต้นคาดว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ ก็ได้สั่งการให้ดำเนินการตรวจสอบบริเวณจุดเกิดเหตุให้ละเอียดเพื่อประโยชน์ในทางคดี” พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ กล่าวแก่ผู้สื่อข่าว