เจ้าหน้าที่ยิงกลุ่มขบวนการบนเขาเมาะแต นราฯ ได้รับบาดเจ็บหลายราย

ในวันศุกร์นี้ เจ้าหน้าที่ทหารพราน ได้ยิงปะทะกับฝ่ายขบวนการก่อเหตุรุนแรง ในขณะเข้าปิดล้อมบนเขาเมาะแต จังหวัดนราธิวาส ตามนโยบายแม่ทัพภาคที่ 4 ที่ให้จำกัดเสรีการก่อการร้ายในหมู่บ้านเชิงเขาและหมู่บ้าน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้พี่น้องประชาชนก่อนเข้าสู่เดือนรอมฎอน ปีฮิจเราะห์ 1440 ซึ่งเมื่อวานนี้ เจ้าหน้าที่ยังได้ยิงมือปล้นฆ่าเต๊นท์รถ อำเภอนาทวี สงขลา เมื่อปี 2560

พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวว่า เมื่อเวลา 08.00 น. หน่วยความมั่นคงในพื้นที่รายงาน ว่าเจ้าหน้าที่ทหารพรานได้ร่วมสนธิกำลังเดินทางขึ้นไปพิสูจน์ ทราบแหล่งซ่อนตัวบนเทือกเขาเมาะแต ซึ่งตั้งอยู่บ้านรือเปาะ ม.4 ต.ดุซงญอ อ.จะแนะ จ.นราธิวาส และได้เกิดปะทะนานกว่า 10 นาที จนสามารถควบคุมสถานการณ์ได้

“จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบรอยเลือดจำนวนมาก คาดว่าคนร้ายบาดเจ็บหลายคน ตรวจยึดอุปกรณ์เครื่องสนาม ซองกระสุนและเสบียงอาหารจำนวนหนึ่ง ปัจจุบันยังคงปิดล้อมพื้นที่และเข้าติดตามคนร้ายที่หลบหนี” พ.อ.ปราโมทย์ กล่าวแก่ผู้สื่อข่าว

ด้านพันเอกธนาวีร์ สุวรรณรัตน์ รองโฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า แถลงรายละเอียดในการปะทะเมื่อวานนี้ ซึ่งหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 43 ได้สนธิกำลัง 3 ฝ่าย เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายหลายจุด ในพื้นที่ หมู่ 2 บ้านบากง ตำบลบางเขา อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี

พันเอกธนาวีร์ กล่าวว่า ตามที่ได้รับรายงานจากแหล่งข่าวว่า มีการเคลื่อนไหวของกลุ่มบุคคลไม่ทราบกลุ่ม เตรียมก่อเหตุในพื้นที่ จึงได้เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 41 หมู่ 2 บ้านบากง ได้ตรวจพบห้องลับหลังด้านหลังบ้าน ซึ่งบุคคลเป้าหมายหลบซ่อนอยู่ เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่จึงใช้อาวุธปืนพกยิงใส่เพื่อเปิดทางหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงใช้อาวุธประจำกายยิงตอบโต้ เกิดการปะทะกัน

พันเอกธนาวีร์ กล่าวว่า จากนั้น เจ้าหน้าที่ได้ประสานผู้นำท้องที่ และผู้นำศาสนา มาช่วยเจรจาให้คนร้ายออกมามอบตัว แต่คนร้ายไม่ยอม จนมีการยิงกันอีกครั้ง คนร้ายเสียชีวิตหนึ่งราย หลบหนีไปได้สองราย

“คนร้ายได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่ก่อน อีกทั้งประวัติของคนร้ายได้สร้างความสูญเสียทั้งชีวิต และทรัพย์สินเป็นจำนวนมาก หลังเหตุการณ์สงบ ตรวจพบก่อเหตุรุนแรงเสียชีวิต 1 นาย ทราบชื่อ นายซารีซานอัมรี ดือราแม อายุ 37 ปี ภูมิลำเนาบ้านล่องควน หมู่ 6 ตำบลคูหา อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา ข้างศพผู้เสียชีวิตพบอาวุธปืนพกสั้น ชนิดออโตเมติกขนาด .45 จำนวน 1 กระบอก โดยมีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บจำนวน 1 นาย คือ ดาบตำรวจ ยอดชาย เกตุแก้ว ผู้บังคับหมู่กองกำกับการ 5 กองบัญชาการตำรวจสันติบาล ได้นำส่งโรงพยาบาลหนองจิก" พันเอกธนาวีร์กล่าว

สำหรับประวัตินายซารีซานอัมรี ดือราแม นั้น พันเอกธนาวีร์กล่าวว่า มีพฤติกรรมเป็นสมาชิกก่อเหตุรุนแรง ระดับปฏิบัติการ ในพื้นที่อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี มีหมายจับ ป.วิอาญา รวม 3 หมาย ได้แก่ หมายจับคดี ลอบวางระเบิด สถานีตำรวจภูธรหาดใหญ่ และ ลอบวางระเบิดร้านค้าสะดวกซื้อ ในพื้นที่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เมื่อ 6 พฤษภาคม 2557 หมายจับคดี ปล้นรถยนต์บ้านวังโต้ อำเภอนาทวี จังหวัดสงขลา เมื่อ 16 สิงหาคม 2560 ซึ่งเป็นทั้งผู้สั่งการและเข้าร่วมปล้นรถยนต์ และยังเป็นผู้ต้องสงสัยก่อเหตุ ในพื้นที่อีกหลายเหตุการณ์จากกรณีดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้ปฏิบัติตามขั้นตอนของการบังคับใช้กฎหมาย

ด้านแม่ทัพภาคที่ 4 ได้สั่งการให้รวบรวมวัตถุพยาน และขยายผลไปยังบุคคลที่เกี่ยวข้อง สำหรับเจ้าของบ้านที่ให้ที่พักพิงต่อกลุ่มคนร้ายจะดำเนินการเอาผิดตามกฎหมายทุกรายต่อไป

6 องค์กร นำศาสนาอิสลาม แถลงรวมพลังสร้างความสงบ ช่วงรอมฎอน

ที่ห้องโถง บก.กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ตำบลเขาตูม อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี พลเรือตรีสมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ร่วมในพิธีมอบสิ่งของอุปโภคบริโภค ต้อนรับเดือนรอมฏอนอันประเสริฐ ฮ.ศ. 1440 โดยครั้งนี้มี พลตรีสมพล ปานกุล รองแม่ทัพภาคที่ 4 เป็นประธานมอบสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภค ประกอบด้วย น้ำตาล ข้าวสาร น้ำดื่ม อินทผาลัม และกระเช้าของขวัญ ให้กับหน่วยงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประกอบด้วย หน่วยเฉพาะกิจยะลา ปัตตานี นราธิวาส สงขลา หน่วยเฉพาะกิจสันติสุข กองกำลังทหารพรานจังหวัดชายแดนภาคใต้ หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธิน กองทัพเรือ และกองกำลังตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อนำไปมอบให้กับประชาชนชาวไทยมุสลิมในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อต้อนรับเดือนรอมฎอนอันประเสริฐ ประจำปี ฮ.ศ. 1440

ผู้นำศาสนาอิสลามประจำจังหวัดชายแดนภาคใต้ ประกอบด้วย ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดยะลา ปัตตานี นราธิวาส และจังหวัดสงขลา นายกสมาคมสถาบันปอเนาะ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประธานสภาอูลามาอฺฟาฎอนีย์ดารุสสลาม และนายกสมาคมโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้ร่วมแถลงการณ์รวมพลังมวลชน และขอดุอาร์จากเอกองค์อัลลอฮฺ ให้ “รอมฎอน อ.ศ. 1440 นี้ เป็นเดือนแห่งสันติสุขปราศจากความรุนแรงและยาเสพติด” อีกด้วย

"ขอให้รอมฏอนปีนี้เป็นรอมฏอนสู่สันติสุขและสันติภาพแก่พวกเรา และขอให้เด็ก เยาวชน และชาวมุสลิมทุกคนกระทำความดีในเดือนรอมฏอนให้ดีที่สุด พวกเราถึงเวลาแล้วที่ต้องหันหน้าเข้าหากัน จับมือกันเพื่อแก้ปัญหาและพัฒนาบ้านเมืองของเรา" นายซาฟีอี เจ๊ะเลาะ ประธานกรรมการอิสลามประจำจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า

ด้าน พันเอกปราโมทย์ กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายได้มีมาตรการในการรักษาความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายอำนวยความสะดวกให้กับพี่น้องชาวไทยมุสลิม ในการประกอบศาสนกิจในห้วงเดือนรอมฎอนนี้ด้วย และขอให้พี่น้องประชาชนได้มีความเชื่อมั่นต่อการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่