ตำรวจทางหลวงจับขบวนการป่วนใต้หนึ่งราย พร้อมระเบิด 41 ลูก

ในตอนบ่ายของวันพฤหัสบดีนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงสามารถจับตัวขบวนการป่วนใต้ขนระเบิดได้หนึ่งราย พร้อมด้วยระเบิดแสวงเครื่องแบบขว้าง จำนวน 41 ลูก ในขณะที่เพื่อนร่วมขบวนการอีกรายหลบหนีไปได้

เจ้าหน้าที่กล่าวว่า เกิดเหตุในขณะที่ ด.ต.กมล ทองคำ และเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงอีกสองนาย ขับรถเพื่อลาดตระเวนมาตามเส้นทางสุไหงโกลก-ตากใบ จนมาถึงพื้นที่บ้านสะหริ่ง หมู่ที่ 1 ตำบลโฆษิต อำเภอตากใบ นราธิวาส ได้พบรถยนต์กระบะ อีซูซุ รุ่นดีแม็ค สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน บท-2788 ปัตตานี ที่มีคนขับและผู้โดยสารนั่งมาสองรายแสดงอาการพิรุธ และเมื่อเห็นรถยนต์ตำรวจทางหลวงที่ดักอยู่ระหว่างเส้นทาง จึงจอดรถแล้วพยายามวิ่งหนี แต่เจ้าหน้าที่จึงวิ่งไล่ติดตามจับกุมคนขับรถได้หนึ่งคน ส่วนอีกรายหลบหนีไปได้

พล.ต.ต.มนัส ศิกษมัต ผบก.ภ.จว.นราธิวาส กล่าวว่า เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมคนขับได้หนึ่งราย คือนายซานูซี ยาแต และส่วนอีกรายที่หลบหนีไปได้ คือ นายอับดุลอาซิ สาเมาะ อายุ 21 ปี ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างติดตามไล่ล่าอย่างต่อเนื่อง

จากการตรวจสอบ พบระเบิดแสวงเครื่องทำเป็นไปป์บอมบ์แบบขว้าง จำนวน 40 ลูก ระเบิดท่อเหล็กอีก 1 ลูก ชุดวงจรวิทยุ 2 กล่อง ชุดวงจรตั้งเวลา 5 นาที 36 กล่อง ชุดวงจรตั้งเวลา 10 นาที 1 กล่อง ชุดวงจรตั้งเวลา 30 นาที 2 กล่อง วิทยุสื่อสาร 2 เครื่อง และไฟฉาย 4 อัน

"ระเบิดแสวงเครื่องที่จับได้ในครั้งนี้ เป็นวัตถุระเบิดที่คนร้ายลำเลียงมาจากประเทศเพื่อนบ้าน เป้าหมายก่อเหตุรุนแรงพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้" พล.ต.ต.มนัส กล่าวแก่ผู้สื่อข่าว

พล.ต.ต.มนัส กล่าวว่า นายซานูซี ให้การรับสารภาพต่อเจ้าหน้าที่ในเบื้องต้นว่า เป็นคนทำหน้าที่ขนย้ายวัตถุระเบิดจากพื้นที่อำเภอสุไหงโก-ลก เพื่อไปมอบให้กับบุคคลอีกกลุ่มหนึ่ง ที่จะมารอรับในพื้นที่อำเภอยี่งอ จังหวัดนราธิวาส

ด้าน พล.ท.เกื้อกูล อินนาจักร รอง ผอ.รมน.ภาค 4 กล่าวว่า ได้สั่งการให้กำลังในพื้นที่ยกระดับการคุมพื้นที่อย่างเข้มงวดเป็นพิเศษ หลังจากกรณีตรวจยึดวัตถุระเบิดขึ้น

เจ้าหน้าที่จับตัวผู้ต้องหาระเบิดสี่จังหวัดแดนใต้ได้ 9 ราย

ส่วนความคืบหน้าในคดีผู้ร้ายวางระเบิดอย่างต่อเนื่องในทั้งสี่จังหวัดชายแดนใต้ เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม นั้น พล.ต.จตุพร กลัมพสุต ผบ.ฉก.ปัตตานี กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ทราบชื่อผู้ต้องสงสัย 14 ราย และสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้แล้ว 9 ราย ซึ่งเป็นกลุ่มที่ลงมือในจังหวัดปัตตานีและจังหวัดสงขลา ทั้งนี้ ยังมี 4 รายที่รอออกหมายจับ

พันเอกปราโมทย์ กล่าวอีกว่า เจ้าหน้าที่จับตัวคนร้ายรายแรก ชื่อ นายแวกอยี ตะเละ อายุ 28 ปี ได้หลังเกิดเหตุ นายแวกอยี เป็นแนวร่วมอาร์เคเค กลุ่มเดียวกับนายบูคอรี หลำโสะ ที่เป็นแกนนำก่อเหตุระเบิดในจังหวัดสงขลา

จากนั้น ศาลจังหวัดปัตตานีได้ออกหมายจับหมาย ป.วิอาญาแล้ว 10 ราย ซึ่งสามารถควบคุมตัวได้แล้ว 8 ราย คือ นายมูฮัมหมัด แวอุเซ็ง นายซูไฮมี มะแซ นายอาแว หะยีเด็ง นายอับดุลรอนิง เปาะลี นายอิสดิน สะอิ นายนูริดิน เจ๊ะอุเซ็ง นายอิสมาแอล อาแซ และนายมะยูโซ๊ะ มะแซ

พล.ต.จตุพร กล่าวว่า ในจำนวน 8 รายนี้ ให้การยอมรับสารภาพ 4 ราย ส่วนอีก 4 ราย ให้การปฏิเสธ แต่สารภาพว่าเป็นผู้ก่อการร้ายและเคยก่อเหตุอื่นๆ ที่ผ่านมา ในพื้นที่อำเภอเมืองปัตตานี

ในวันนี้ นายวีรนันทน์ เพ็งจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี พล.ต.จตุพร กลัมพสุต และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้นำตัวนายมะยูโซะ มาแซ กับนายซูไฮมี มะแซ ไปทำแผนประกอบคำสารภาพ ตามคำให้การยอมรับสารภาพในฐานะพยานต่อพนักงานสอบสวนในคดีลอบวางระเบิดตู้ ATM จำนวน 10 กว่าจุด ในพื้นที่อำเภอเมืองจังหวัดปัตตานี

พล.ต.จตุพร กล่าวว่า สำหรับจุดประกอบคำสารภาพที่กำหนดให้ทำแผนในวันนี้ คือ จุดที่ผู้ต้องหาร่วมประชุมเสนอเป้าหมายและแบ่งมอบหน้าที่ก่อนเกิดเหตุ 7 วัน ที่บริเวณร้านน้ำชา บ้านพงสตา หมู่ที่ 5 ตำบลยะรัง อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี และที่ใช้เป็นจุดที่สอนการต่อสายไฟและเปิดสวิตช์ระเบิดแสวงเครื่องและการแนะนำการปฏิบัติก่อนเกิดเหตุ 1 วัน ที่บริเวณร้านก๋วยเตี๋ยว ในหมู่ที่ 6

นายมะยูโซ๊ะ มะแซ หนึ่งในสองผู้ต้องหาที่เจ้าหน้าที่นำมาทำแผนประกอบคำสารภาพในวันนี้ กล่าวว่า ทางกลุ่มได้ใช้ที่บ้านเป็นที่พบปะ โดยมีนายซูไฮมี มะแซ มาสอนวิธีใช้ระเบิด รวมทั้ง วิธีนำไปวางบริเวณจุดต่างๆ ที่ได้รับคำสั่งตามที่เกิดเหตุ

"เขาบอกให้กดสวิตช์แล้วไฟจะขึ้น สอนการต่อวงจร วิธีการเขาจะสอนเป็นรายบุคคล พอสอนเราเสร็จเราออกไป มูฮัมหมัดและ อิสมาแอล ก็เข้ามาทีละคน เพื่อฝึกและฟังตามที่ซูไอมีบอก" นายมะยูโซ๊ะ กล่าวแก่ผู้สื่อข่าว

"เขาเรียนปอเนาะ ไม่เคยรู้เลยว่าเขาเข้าร่วมทำแบบนี้กับพวกนี้ ถ้ารู้ก็ไม่ให้ทำ และเรื่องที่มาทำอะไรในบ้านก็ไม่รู้เลย พึ่งมารู้ตอนที่ไปพบเขาที่บ่อทอง เขาบอกว่าทำร่วมกับพวกนี้"  นางแมะ มะแซ มารดาของนายมะยูโซ๊ะกล่าว

"สรุปแล้ว การดำเนินการด้านกฎหมาย ปัจจุบันอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานวัตถุ ภาพจากกล้องวงจรปิดคำให้การของพยานหลักฐานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องรวมถึงการให้การยอมรับสารภาพประกอบการทำแผนประกอบ ในวันนี้ส่งฟ้องต่ออัยการ ซึ่งมั่นใจว่าจะลงโทษผู้กระทำตามกระบวนการยุติธรรมได้อย่างแน่นอน" พล.ต.จตุพรกล่าว