คนร้ายยิงครอบครัวอดีต อส. เสียชีวิต 3 ราย ที่ทุ่งยางแดง

ร.ต.ท.บุญเทพ เกิดมุด รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.ทุ่งยางแดง รับแจ้งในช่วงค่ำของวันพุธที่ 10 มกราคม 2560 ว่า มีเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงครอบครัวอดีตอาสาสมัครรักษาดินแดนเสียชีวิต 3 ราย ที่ อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี ซึ่งนับว่าเป็นคดีสังหารคดีแรกในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ ของปี 2561 นี้ โดยในอีกเหตุการณ์ของเช้าวันเดียวกัน มีเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดใส่เจ้าหน้าที่ทหารพรานได้รับบาดเจ็บ 6 นาย ขณะเข้าตรวจพื้นที่ ต.บางเขา อ.หนองจิก

“คนร้ายใช้อาวุธปืนยิงภายในบ้านเลขที่ 140 ม.4 บ้านบือแนยามู ต.น้ำดำ อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี เป็นเหตุให้ น.ส.ฮาสานะ หะมะ อายุ 29 ปี นายนัสรี เจะแมง อายุ 32 ปี นายยูโซ๊ะ นิและ อายุ 73 ปี เสียชีวิต จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุได้มีคนร้าย 4 ราย ใช้รถจักรยานยนต์ 2 คัน เข้าไปยิงคนทั้ง 3 ภายในบ้าน ประเด็นและสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวน” ร.ต.ท.บุญเทพกล่าว

ในวันเดียวกัน พ.ต.อ.ฐมฌ์พงศ์ เพ็ชรพิรุณ ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธร อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เปิดเผยว่า มีเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดใส่เจ้าหน้าที่ทหารพราน ขณะเข้าตรวจพื้นที่ เหตุคนร้ายเผากล้องวงจรปิดที่โรงเรียนบ้านสายหมอ เป็นเหตุให้ มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 6 นาย เหตุระเบิดเกิดขึ้นขณะที่ เจ้าหน้าที่ทหารพราน กองร้อย ทพ. 4303 หน่วยเฉพาะกิจทหารพราน 43 เดินทางด้วยรถยนต์ไปยังพื้นที่ บ้านสายหมอ ม.6 ต.บางเขา อ.หนองจิก แรงระเบิดทำให้เจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวได้รับบาดเจ็บ 6 นาย

“เหตุเกิดขณะที่เจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวกำลังเข้าตรวจสอบเหตุคนร้ายลอบวางเพลิงเผากล้องวงจรปิด ได้รับความเสียหาย 2 ตัว บริเวณโรงเรียนบ้านสายหมอ ทำให้ 1. ส.ท.สุรเดช อีดเหล็ก 2. อส.ทพ.ยุทธนา สมบูรณ์ 3. อส.ทพ.สุชาติ อ่องสุข 4. อส.ทพ.เชิงชาย มีชนะ 5. อส.ทพ.กิตติชัย หมัดโซ๊ะ 6. อส.ทพ.สมคิด หกหนู ได้รับบาดเจ็บ และถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลหนองจิก” พ.ต.อ.ฐมฌ์พงศ์กล่าว

ด้าน พ.อ.คมกฤช รัตนฉายา ผู้บังคับการกองกำลังทหารพรานจังหวัดชายแดนภาคใต้ ระบุว่า เหตุจูงใจในการก่อเหตุน่าจะเป็นการจงใจสร้างสถานการณ์ ของกลุ่มก่อความไม่สงบ

“เขาก่อเหตุเพื่อที่ต้องการแสดงให้รู้ว่าเขายังอยู่ที่นี่ เพื่อหวังให้เราเข้าไปจับ แต่ทุกวันนี้ เรารู้ทางหมดแล้ว ที่สำคัญพื้นที่นี้ ประชาชนให้ความร่วมมือกับเรามาดีโดยตลอด หลังจากที่มีการทลายฐานจนสามารถสร้างพื้นที่นี้ให้เป็นพื้นที่มั่นคงทางด้านเศรษฐกิจได้ ในน้ำมีปลากุเลาที่หายากมากในอดีต แต่ทุกวันนี้ชาวบ้านจับมาขายพวกเรา” พ.อ.คมกฤชกล่าว

สาม ใน 21 ผู้ต้องสงสัยคนร้ายเผารถโดยสารสารภาพ

ขณะที่ พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 เปิดเผยในวันเดียวกันว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองได้เดินหน้า หาตัวผู้กระทำผิดในเหตุคนร้ายเผารถโดยสารประจำทางปรับอากาศสายเบตง-กรุงเทพฯ ที่ จ.ยะลา เมื่อ 17 ธันวาคม 2560 ทำให้เจ้าหน้าที่ใช้อำนาจตามกฎอัยการศึก เข้าควบคุมตัวผู้ที่เชื่อว่าเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุจำนวน 21 โดยในนั้นมี 3 รายที่รับสารภาพแล้วว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุจริง

“ทำการตรวจค้นมาตั้งแต่วันที่ 4 มกราคม 2561 ปัจจุบัน ผู้ต้องสงสัยที่ถูกควบคุมตัว ให้การรับสารภาพว่าร่วมกันก่อเหตุในครั้งนี้แล้ว 3 คน โดยได้รับคำสั่งจาก นายอับดุลเลาะ ตาเป๊าะโต๊ะ ร่วมกับนายอาหะมะ ลือแบซา แกนนำก่อเหตุรุนแรงระดับปฎิบัติการ ที่เคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่” พล.ต.ท.รณศิลป์กล่าว

ขณะที่ พ.อ.ธนาวีร์ สุวรรณรัตน์ รองโฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) ภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า กลุ่มผู้เห็นต่างจากรัฐยังพยายามก่อเหตุเพื่อสร้างสถานการณ์ความไม่สงบอย่างต่อเนื่อง จึงขอให้ประชาชนร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เพื่อแจ้งเบาะแส

“จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นความพยายามในการสร้างสถานการณ์ความรุนแรง ให้เกิดขึ้น ในพื้นที่โดยไม่คำนึงถึง ความปลอดภัย และความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน  ตลอดจนเป็นการทำลายบรรยากาศ โดยเฉพาะการพัฒนาด้านเศรษฐกิจ ทำให้ประชาชนในพื้นเกิดความเบื่อหน่าย ต่อการกระทำของกลุ่มผู้ไม่หวังดี ได้สร้างสถานการณ์ความรุนแรง ในห้วงหลายปีที่ผ่านมา จึงได้ร่วมมือกับเจ้าหน้าที่แจ้งเบาะแสนำไปสู่การขยายผลเป้าหมาย” พ.อ.ธนาวีร์กล่าว