คนร้ายยิงชาวบ้านเสียชีวิต 1 ราย ที่บาเจาะ นราธิวาส

ในวันพุธนี้  เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงชาวบ้าน จนเสียชีวิต 1 ราย ในอำเภอบาเจาะ จังหวัดนราธิวาส นับเป็นเหตุการณ์รุนแรงครั้งที่ 20 ตั้งแต่กลุ่มบีอาร์เอ็นออกมาประกาศหยุดยิง เมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา เพื่อให้เจ้าหน้าที่ดูแลสถานการณ์การระบาดของโรคโควิดโดยสะดวก จนถึงล่าสุดวันนี้ สถานการณ์ความรุนแรงยังคงเกิดขึ้น ในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ โดยห้วงสองเดือนที่ผ่านมา มีทั้งเจ้าหน้าที่หน่วยความมั่นคงและชาวบ้าน เสียชีวิตจากเหตุรุนแรงแล้ว 9 ราย

พ.ต.ต.ลัทธวิชย์ แคยิหวา สารวัตรสถานีตำรวจภูธร ปะลุกาสาเมาะ อ.บาเจาะ เปิดเผยแก่ผู้สื่อข่าวว่า เมื่อเวลา 07.00 น. ตนได้รับแจ้งเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงชาวบ้านเสียชีวิต ที่บริเวณใต้สะพานลอดถนน สาย 42 ม.5 บ.มะยูง ต.ปะลุกาสาเมาะ จึงรายงานผู้บังคับบัญชา และนำกำลังไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ

“ตรวจสอบในที่เกิดเหตุพบ นายรีดูวัน เจ๊ะแต อายุ 22 ปี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนที่ศีรษะเสียชีวิต จากการสอบสวนทราบว่า เหตุเกิดขณะที่ผู้ตายมาทำธุระในพื้นที่ ระหว่างทางมีคนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจำนวน ใช้อาวุธปืนพกสั้นไม่ทราบขนาด ยิงใส่ก่อนหลบหนีไป โดยประเด็นและสาเหตุจูงใจในการก่อเหตุครั้งนี้ ยังอยู่ระหว่างการสอบสวน” พ.ต.ต.ลัทธวิชย์ กล่าว โดยไม่ได้ตัดประเด็นการสร้างความรุนแรง

ทั้งนี้ จากตัวเลขรายงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ นับตั้งแต่ วันที่ 3 เมษายน 2563 ที่กลุ่มบีอาร์เอ็นประกาศหยุดยิง จนถึงวันนี้ ในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ มีเหตุการณ์ยิงทั้งหมด 20 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 9 ราย ได้รับบาดเจ็บ 34 ราย ในจำนวนนี้ เป็นผู้ต้องหาเสียชีวิตจากการปะทะ จำนวน 3 ราย ส่วนที่เหลือเป็นทั้งเจ้าหน้าที่ และชาวบ้าน

เจ้าหน้าที่ยึดถังแก๊สจากปอเนาะดารุลฟรุกอน ตรวจสอบหวั่นใช้ทำระเบิด

ในวันนี้ พล.ต.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 กล่าวว่า เมื่อเวลา 16.00 น. ฉก.ตชด.43 ร่วมกับ ตำรวจภูธร สะบ้าย้อย ได้ทำการตรวจยึดถังแก๊สปิคนิค จากสถาบันศึกษาปอเนาะดารุลฟรุกอน ม.3 บ้านดารู ต.ธารคีรี อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา จำนวน 27 ถัง สภาพเก่าใช้การไม่ได้ เก็บรักษาไว้ เบื้องต้นผู้ครอบครองอ้างว่า ไม่มีวัตถุประสงค์อื่นใด แต่เพราะไม่สามารถคืนทางบริษัทได้ มีนายอับดุลอาซิ แวลาแม อุสตาส ประจำปอเนาะ ยินยอมให้ตรวจยึดให้นำไปเก็บรักษาไว้ที่ สภ.สะบ้าย้อย และให้นายอับดุลเลาะ สาและ กำนันตำบลธารคีรี เป็นพยานในการตรวจยึด

"การปฏิบัติในครั้งนี้ เป็นผลมาจากชาวบ้านได้พบเจอถังแก๊สเป็นจำนวนมาก ในโรงเรียนปอเนาะดังกล่าว เกรงว่าอาจถูกนำไปก่อเหตุร้าย จึงได้แจ้งตรงที่สายด่วนแม่ทัพ 061-1732999 จึงได้สั่งการให้ ฉก.ตชด.43 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.สะบ้าย้อย เข้าทำการตรวจสอบและตรวจยึดของกลางนำมาเก็บไว้ที่ สภ.สะบ้าย้อย ยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาใด ๆ กับผู้ครอบครอง" พล.ต.ปราโมทย์ กล่าว

“ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จะทำการสืบสวนสอบสวนข้อมูลเชิงลึก หากพบเจตนาครอบครองที่ไม่สุจริต ก็อาจจำเป็นต้องดำเนินการทางกฏหมายต่อไป ในห้วงที่ผ่านมา กอ.รมน.ภาค 4 สน. ได้มีประกาศและคำสั่งให้ประชาชนที่ครอบครองถังแก๊สเหล็ก ให้นำมาแลกเปลี่ยนเป็นถังคอมโพสิต เพื่อป้องกันคนร้ายนำไปประกอบระเบิด สร้างความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินดังที่ผ่าน ๆ มา” พล.ต.ปราโมทย์ กล่าวเพิ่มเติม

อย่างก็ตาม นายอับดุลอาชิ แวละแม อุสตาสในพื้นที่ กล่าวว่า ถังปิคนิคเป็นของปอเนาะ ที่ให้เด็กในปอเนาะนำไปปรุงอาหารในที่พักแต่ละหลัง แต่ในปัจจุบันไม่มีเด็กในปอเนาะ จึงได้นำมาเก็บรวมไว้ เพื่อให้ง่ายในการควบคุม เก็บรักษา ซึ่งทางปอเนาะได้ประสานงานกับสถานประกอบการที่จ่ายค่ามัดจำไว้ เพื่อขอเงินคืน แต่สถานประกอบการไม่รับคืน เนื่องจากเป็นถังเก่าและผิดกฎหมาย เนื่องจากว่าในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้ง 4 อำเภอ ในสงขลานั้น ทางราชการให้ใช้ถังคอมโพซิตแทนถังเหล็กแล้ว