ผช.ผญ.บ้านถูกยิงเสียชีวิต 1 ราย อส.โดนระเบิดสาหัส 1 นาย ในชายแดนใต้
2018.06.06
ยะลา และนราธิวาส

ในคืนวันพุธนี้ เจ้าหน้าที่สถานีตำรวจภูธรบาเจาะ จังหวัดนราธิวาส ได้แจ้งว่า อดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ถูกคนร้ายยิงเสียชีวิตในที่เกิดเหตุบนถนน อำเภอบาเจาะ ส่วนในช่วงเช้าก่อนหน้านั้น ได้มีเหตุลอบวางระเบิดอาสารักษาดินแดนชุดคุ้มครองความปลอดภัยครู ที่อำเภอเมือง จังหวัดยะลา จนได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 ราย และบาดเจ็บเล็กน้อยอีก 5 ราย
ร.ต.อ.พนม อำพะวันรอง สว.สอบสวน สภ.บาเจาะ จ.นราธิวาส รับแจ้งเหตุวันพุธ เวลาก่อนสี่ทุ่ม มีคนร้ายยิง นายมือลี มูซอ อดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน เสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ บริเวณถนนหมายเลข 42 บ้านส้มป่อย ม.4 ต.กาเยาะมาตี อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส จากการสืบสวนทราบว่า เหตุเกิดขณะที่ผู้ตายกำลังขับขี่รถจักรยานยนต์เดินทางจะกลับบ้านพัก หลังกลับจากละหมาดที่มัสยิดในชุมชน ระหว่างทางได้มีคนร้ายไม่ทราบกลุ่มใช้อาวุธปืน ไม่ทราบชนิดและขนาด ยิงใส่ก่อนหลบหนี ส่วนประเด็นและสาเหตุยังอยู่ระหว่างสอบสวนและสืบสวน
และช่วงเช้าในวันเดียวกันนี้ เจ้าหน้าที่สถานีตำรวจภูธรเมืองยะลา ได้แจ้งว่า เกิดเหตุลอบวางระเบิดชุดคุ้มครองอาสารักษาดินแดนชุดคุ้มครองความปลอดภัยครู จนได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 ราย และบาดเจ็บเล็กน้อยอีก 5 ราย
ร.ต.ท.เอกพงษ์ รัตนชัย รอง สว.สอบสวน สภ.เมือง จ.ยะลา ได้รับแจ้งเหตุ คนร้ายลอบวางระเบิดริมถนนห่างจากโรงเรียนบ้านสาคอ ม.4 ต.ท่าสาป อ.เมือง จ.ยะลา 100 เมตร โดยแรงระเบิดทำให้ อส.ภราดร กลับใหม่ เจ้าหน้าที่ อส.เมืองยะลา ถูกสะเก็ดระเบิดได้รับบาดเจ็บบริเวณลำตัว ถูกนำส่งโรงพยาบาลศูนย์ยะลา ส่วนที่เหลือได้รับผลกระทบจากแรงอัด แต่มีอาการปลอดภัย
จากการสอบสวนทราบว่า อาสาสมัครทั้ง 6 นาย มาทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้ครูและนักเรียน โดยนั่งรถจักรยานยนต์มา 3 คัน ก่อนที่คนร้ายจะจุดระเบิดแสวงเครื่องที่ประกอบขึ้นเอง โดยซ่อนไว้ในพงหญ้าใกล้เสาไฟฟ้าริมถนน
"คาดว่าคนร้ายได้เฝ้าสังเกตพฤติกรรมอยู่ในบริเวณใกล้เคียงที่เกิดเหตุ ก่อนกดชนวนระเบิดเพื่อต้องการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ ทำร้ายเจ้าหน้าที่จนทำให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว" ร.ต.ท.เอกพงษ์ รัตนชัย กล่าวแก่ผู้สื่อข่าว
นายอนุชิต ตระกูลมุทุตา ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา กล่าวว่า ได้นำนายเจษฎา จิตรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ปลัดจังหวัดยะลา คณะเหล่ากาชาดจังหวัดยะลา แม่บ้านมหาดไทยเดินทางไป ที่โรงพยาบาลยะลา เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจ มอบกระเช้าเยี่ยม และเงินช่วยเหลือเยียวยาของศูนย์ปฎิบัติการเยียวยาจังหวัดยะลา จำนวน 10,000 บาท เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการปฎิบัติหน้าที่
"ยังได้มอบกระเช้าให้เจ้าหน้าที่ อส.อีก 5 นาย ที่ได้รับบาดเจ็บ มีอาการหูอื้อ และได้เข้ารับการตรวจรักษาที่โรงพยาบาลยะลา ขณะนี้ผู้บาดเจ็บทั้งหมดปลอดภัย เห็นชัดว่าคนร้ายตั้งใจที่จะก่อเหตุช่วงนี้" นายอนุชิต กล่าว
ด้าน อส.ภราดร ที่โดนสะเก็ดระเบิด กล่าวว่า "ผมอาการปลอดภัยแล้ว พร้อมปฏิบัติภารกิจต่อไป หลังจากหายดีแล้ว เพื่อความสงบสุขของพี่น้องในพื้นที่"
เจ้าหน้าที่ทหารด้านความมั่นคงในพื้นที่รายหนึ่ง กล่าวว่า ตนเชื่อว่า คนร้ายยังคงมุ่งหวังก่อเหตุในห้วง 10 วันสุดท้ายของเทศกาลถือศีลอดของพี่น้องมุสลิม ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และสร้างความไม่สงบให้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งที่ผ่านมา ในวันจันทร์ที่ 4 มิ.ย. มีการลอบยิงเครื่องยิงระเบิดเอ็ม.-79 ใส่ฐานปฏิบัติการทหารพราน ร้อย 3311 ฉก.ทพ.33 บ้านบาเจาะ ต.บาเจาะ อ.บันนังสตา จนเป็นเหตุให้ เจ้าหน้าที่ทหารพรานบาดเจ็บ 2 นาย
นราธิวาสใช้รถเกราะนำพระบิณฑบาต
บรรยากาศการดูแลรักษาความปลอดภัย ในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส เป็นไปด้วยความเข้มข้น ทั้งใน 13 อำเภอ ซึ่งได้มีกองกำลังเจ้าหน้าที่สามฝ่าย ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง กระจายกำลังกันเฝ้าระวังเหตุร้าย อย่างต่อเนื่อง ตลอด 24 ชั่วโมง โดยเน้นร้านค้า ย่านชุมชน สถานที่ราชการ
สำหรับบรรยากาศในช่วงเช้าของวันนี้ พระสงฆ์จากหลายวัดยังคงออกมาบิณฑบาตตามจุดต่างๆ ในตลาดสดของเขตเทศบาล โดยมีเจ้าหน้าที่ ตำรวจ และทหาร คอยดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด มีประชาชนออกมาทำบุญค่อนข้างบางตา เนื่องจากมีกระแสข่าวการแจ้งเตือนการก่อเหตุร้ายในช่วงรอมฏอน มาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ประชาชนต่างหวาดกลัว ไม่กล้าออกมาทำบุญ
ที่วัดอุไรรัตนาราม ต.บาเจาะ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส เจ้าหน้าที่ทหารพรานนาวิกโยธิน ได้จัดรถหุ้มเกราะรับ-ส่งพระสงฆ์ เพื่อรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด
พระสมุห์จิรพนธ์ ธรรมจาโร เจ้าอาวาสวัดอุไรรัตนาราม ได้นำพระลูกวัดจำนวน 5 รูป ออกเดินบิณฑบาต ภายในเขตเทศบาลอำเภอบาเจาะ กล่าวว่า วัดอยู่ในพื้นที่สีแดง ที่เคยเกิดเหตุร้ายกับพระสงฆ์ขณะออกบิณฑบาต จนมรณภาพมาแล้ว และมีการยิงก่อกวนเข้าไปภายในวัดหลายครั้ง โดยเฉพาะเส้นทางระหว่างเดินทาง ซึ่งเช้าวันนี้ มีชาวบ้านไทยพุทธมายืนรอทำบุญตามจุดต่างๆ เพียง 5 ครอบครัวเท่านั้น เนื่องจากหลังมีเหตุการณ์ ได้พากันย้ายครอบครัวไปอยู่ที่อื่นนานแล้ว จึงเหลือเพียงไม่กี่ครอบครัว
“หลังจากนี้ จะไม่ออกมาบิณฑบาตในตลาดทุกวันเหมือนเช่นเคย แต่จะสลับวันออกมา เพียงสัปดาห์ละ 2 วัน เท่านั้น ซึ่งเป็นการปรับแผนตามความเหมาะสม ในการออกบิณฑบาตแต่ละครั้ง และสะดวกในการดูแลรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่มากขึ้น” พระสมุห์จิรพนธ์ กล่าว