ศาลอนุมัติหมายจับผู้ต้องหาอีก 1 ราย คดียิง 15 ชรบ. ยะลา

มารียัม อัฮหมัด
2019.11.14
ปัตตานี
191114-TH-deepsouth-attacks-1000.jpg เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ระเบิดตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุยิงถล่ม โดยกลุ่มคนร้าย จนมีผู้เสียชีวิตถึง 15 ราย ที่ตำบลลำพะยา ในจังหวัดยะลา วันที่ 6 พฤศจิกายน 2562
เอเอฟพี

ในวันพฤหัสบดีนี้ ศาลจังหวัดยะลาได้อนุมัติหมายจับ นายอาดัม มูสอดี ผู้ต้องหาในคดีที่คนร้ายก่อเหตุบุกยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจ อาสาสมัคร และชาวบ้าน ในจังหวัดยะลา เสียชีวิต 15 คน เมื่อคืนวันที่ 5 พฤศจิกายน 2562 โดยเป็นการออกหมายจับ หลังจากเจ้าหน้าที่ตรวจพบดีเอ็นเอของนายอาดัมในที่เกิดเหตุ ด้านเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงเชื่อ เหตุโจมตีครั้งนี้ อาจเพื่อตอบโต้การจับกุมอุสตาซ ที่สตูล เมื่อต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา

พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร้องขออำนาจศาลออกหมายจับนายอาดัม เนื่องจากเจ้าหน้าที่พบเลือดของนายอาดัมในที่เกิดเหตุ ซึ่งนายอาดัมถือเป็นผู้ต้องหารายที่ 3 ซึ่งถูกออกหมายจับจากเหตุการณ์ครั้งนี้

“ขณะนี้ เจ้าหน้าที่ได้ออกหมายจับในคดีดังกล่าวนี้ไปแล้ว 3 หมาย และกำลังหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม เชื่อว่าในเร็วๆ นี้จะสามารถออกหมายจับผู้ก่อเหตุได้อีกหลายราย คนล่าสุด คือ นายอาดัม มูสอดี จากหลักฐานในที่เกิดเหตุคือ เลือด วานนี้ เจ้าหน้าที่ได้สนธิกำลังเข้าปิดล้อมเป้าหมาย 9 จุด ควบคุมตัวอีก 5 คน คดีโจมตีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านลำพะยา ปัจจุบัน รวมควบคุมแล้ว 11 คน ออกหมายจับ 3 คน” พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ กล่าว

พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ ระบุว่า เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้เข้าปิดล้อมเขาจันทร์ ซึ่งเป็นพื้นที่ใกล้จุดเกิดเหตุโจมตี ขอให้ชาวบ้านงดเข้าไปในบริเวณดังกล่าว และเจ้าหน้าที่ตำรวจ-ทหารได้เข้าปิดล้อมตรวจค้น 9 จุด ใน 3 อำเภอ คือ อำเภอเมือง กรงปินัง และบันนังสตา จังหวัดยะลา กระทั่งนำไปสู่การคุมตัวผู้ต้องสงสัยเพื่อเข้ากระบวนการซักถาม 5 คน

“หนึ่งในเป้าหมายที่เข้าตรวจค้น คือ หมู่บ้านต้นหยี หมู่ 7 ตำบลลำพะยา ซึ่งห่างจากจุดเกิดเหตุโจมตีป้อม ชรบ. ราว 5 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่ใช้อำนาจตามกฎอัยการศึกเชิญตัวผู้ต้องสงสัย 1 คน ซึ่งพยานหลักฐานชี้ว่า เป็นมือประกอบระเบิดแสวงเครื่องเข้าโจมตี ชรบ. แต่ละเป้าหมายที่เข้าปิดล้อมตรวจค้นในวันนี้ มีข้อมูลว่า เป็นบ้านของแนวร่วมระดับปฏิบัติการ ที่ทำหน้าที่เข้าโจมตีป้อม ชรบ. ซึ่งเชิญตัวมาซักถามทั้งหมด 5 คน” พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ กล่าวเพิ่มเติม

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2562 ศาลจังหวัดยะลาได้อนุมัติหมายจับ นายซะอุดี ติงอูเซ็ง และนายนัสรูเลาะห์ สะมะ เนื่องจากพบเลือด ซึ่งมีดีเอ็นเอตรงกับบุคคลทั้งคู่ โดยจากข้อมูล ทั้งคู่มีหมายจับคดีความมั่นคง ซึ่งเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุในพื้นที่หลายหมายด้วย

ด้าน เจ้าหน้าที่หน่วยงานด้านความมั่นคงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ (สงวนชื่อและนามสกุล) กล่าวว่า เหตุบุกยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจ อาสาสมัคร และชาวบ้าน ในจังหวัดยะลา จนมีผู้เสียชีวิต 15 คน เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2562 อาจเพื่อเป็นการตอบโต้การที่เจ้าหน้าที่จับกุมตัวอุสตาซรายหนึ่ง ในจังหวัดสตูล ต้นเดือนตุลาคม 2562

“น่าจะเป็นการตอบโต้ กรณีเจ้าหน้าที่จับกุมตัวอุสตาซรายหนึ่ง ในพื้นที่ จ.สตูล เมื่อวันที่ 3 ตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งมีหมายจับคดีความมั่นคง และมีความเชื่อมโยงกับเหตุลอบวางระเบิด อส. อำเภอโคกโพธิ์ ปัตตานี เสียชีวิต 2 นาย เมื่อวันที่ 16 กันยายน ซึ่งอุสตาซคนดังกล่าว เดิมมีภูมิลำเนาอยู่ที่ ต.ลำพะยา อ.เมืองยะลา และเคยสอนอยู่โรงเรียนปอเนาะแห่งหนึ่งในยะลา ก่อนที่จะถูกออกหมายจับของกรมสอบสวนคดีพิเศษ ข้อหากบฏ ก่อการร้าย อั้งยี่ ซ่องโจร และได้หลบหนีกบดาน อยู่ในโรงเรียนปอเนาะในพื้นที่ อ.ควนกาหลง จ.สตูล เป็นเวลา 14 ปี ก่อนจะถูกเจ้าหน้าที่จับกุม และรับว่าเคยเป็นแกนนำบีอาร์เอ็น” เจ้าหน้าที่รายนี้ระบุ

“หลังการจับกุมอุสตาซรายดังกล่าว ทำให้แกนนำกลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่ยะลา ซึ่งเป็นบุคคลใกล้ชิดระดมแกนนำระดับปฏิบัติการณ์หลายคนที่เคยก่อเหตุ และแนวร่วมในพื้นที่ ยะลา ปัตตานี และรอยต่อ สงขลา เข้ามาวางแผนการและเลือกเป้าหมายที่จะก่อเหตุได้ง่าย และอยู่ในพื้นที่ รวมไปถึงเส้นทางหลบหนีออกนอกพื้นที่ ป้อมดังกล่าวจึงเป็นเป้าหมายที่ใช้ก่อเหตุ” เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงรายเดิมระบุ

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง