พ่อเมืองนราธิวาส สร้างบ้านให้ชาวบ้านที่ถูกคลื่นซัดบ้านพัง

ในวันศุกร์ (29 ม.ค. 2559) นี้ จังหวัดนราธิวาส สร้างที่อยู่อาศัยใหม่ให้แก่ชาวบ้าน-ชาวประมง ที่บ้านเรือนถูกคลื่นลมซัดเสียหาย เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาเช่าหรือเช่าซื้อในราคาถูก โดยล็อตแรกจำนวน 22 หลัง จะส่งมอบได้ในปลายเดือนกุมภาพันธ์

นายสิทธิชัย ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ได้ประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และตัวแทนกลุ่มชาวบ้าน-ชาวประมง ที่โดนคลื่นซัดสาดจนบ้านเรือนเสียหายเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ซึ่งที่ประชุมลงความเห็นว่า ต้องหาที่อยู่ใหม่ให้กับชาวบ้าน โดยที่ไม่กระทบต่ออาชีพทำประมง บนที่ดิน 2 แปลง รวมเนื้อที่ 99 ไร่เศษ เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาระยะยาว

นายสิทธิชัยกล่าวว่า แปลงที่หนึ่ง อยู่บ้านบาเฆะ ม.2 ต.โคกเคียน ซึ่งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุ ประมาณ 350 เมตร สามารถสร้างบ้านให้ชาวบ้านได้ 22 ราย เนื้อที่รายละ 80 ตร.วา เป็นบ้านแบบชั้นเดียวยกสูง โดยจัดรูปแบบการเช่าระยะ 3 ถึง 5 ปี โดยเสียค่าเช่าในราคาแปลงละหนึ่งบาทต่อวัน หรือรูปแบบการเช่าซื้อ ระยะ 15 ปี จ่ายปีละ 8,360 บาทต่อแปลง

ส่วนแปลงที่สอง อยู่บ้านบือราเป๊ะ ม.3 ต. โคกเคียน ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 3 กิโลเมตร สามารถสร้างบ้านได้ 28 หลัง เนื้อที่รายละ 1 ไร่ ซึ่งเป็นบ้านลักษณะเดียวกัน คือชั้นเดียวยกสูง ซึ่งเป็นลักษณะการเช่าและเช่าซื้อเช่นกัน ซึ่งจุดนี้ยังไม่ได้มีการก่อสร้าง

ด้านนายสิทธิชัย ศักดา ผวจ.นราธิวาส เปิดเผยว่า การสร้างบ้านในครั้งนี้ใช้เจ้าหน้าที่ 4 หน่วย คือ ทหารช่าง นาวิกโยธิน ตำรวจภูธรและอาสาสมัครรักษาดินแดน ร่วมกันสร้างบ้านในแปลงที่หนึ่ง ซึ่งปัจจุบันสร้างแล้วเสร็จ 18 หลัง ส่วนอีก 4 หลังจะแล้วเสร็จภายในวันที่ 5 ก.พ. 2559 และจะมีการส่งมอบบ้านให้แก่ชาวบ้านที่ถูกคลื่นซัดในวันที่ 25 ก.พ. 2559

นายสิทธิชัย กล่าวว่า ทางจังหวัด ได้มีการเตรียมการเพื่อแก้ไขปัญหาไว้ล่วงหน้าหนึ่งปีแล้ว หลังจากในปี พ.ศ. 2558 ที่ผ่านมา กลุ่มชาวบ้านดังกล่าว ได้ถูกคลื่นซัดมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ความเสียหายไม่มากเท่าครั้งนี้ โดยได้วางแนวทางในการแก้ปัญหาความสูญเสียของชาวบ้านแบบยั่งยืน

สำหรับความคืบหน้าเกี่ยวกับปัญหาคลื่นลมแรงที่พัดถล่มฝั่งทะเลด้าน ต.โคกเคียน อ. เมืองนราธิวาส ในช่วงวันที่ 25 ม.ค. 2558 ที่ผ่านมา ส่งผลทำให้บ้านเรือนของชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ 3 หมู่บ้าน และ 4 ชุมชน จำนวน 127 ครัวเรือน รวม 508 คน ได้รับความเดือดร้อนจากคลื่นลมแรงซัดบ้านพังเสียหาย แถมยังสร้างความสูญเสียต่อรายได้ของชาวบ้าน ที่ยึดอาชีพทำบูดูอันลือชื่อขาย จนต้องมีการประกาศพื้นที่ดังกล่าวเป็นเขตพื้นที่ภัยพิบัตินั้น

ล่าสุดปัญหาคลื่นลมแรงได้คลี่คลายลงแล้ว และชาวบ้านที่ได้อพยพไปอยู่ที่ศูนย์อพยพชั่วคราวภายในอาคารเด็กเล็กของ อบต.โคกเคียน ได้กลับไปอาศัยอยู่ที่บ้านตามปกติแล้ว ในส่วนของชาวบ้านที่บ้านเรือนได้รับความเสียหายทั้งหลังนั้น ก็ได้ขยับขยายไปอาศัยอยู่ที่บ้านของเครือญาติเป็นการชั่วคราว เพื่อรอความช่วยเหลือจากทางการต่อไป

โรงเรียนจังหวัดนราธิวาส ปิด 9 แห่ง

ลมมรสุมตะวันออกเฉียงใต้ ได้ทำให้น้ำท่วมจากพื้นที่ จังหวัดนราธิวาส หลังจากจากฝนตกติดต่อกันมาตั้งแต่ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา รวมทั้ง น้ำป่าบนเทือกเขาสันกาลาคีรี ที่มีกำเนิดอยู่ในพื้นที่อำเภอสุคิริน ได้ไหลทะลักลงสู่แม่น้ำสุไหงโกลก อย่างรวดเร็วจนล้นตลิ่ง เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา ทำให้บ้านเรือนของราษฎรที่ปลูกสร้างอยู่แนวริมตลิ่ง ช่วงบริเวณชุมชนท่าประปา เขตเทศบาลเมืองสุไหงโกลก จำนวน 25 ครัวเรือน ถูกน้ำท่วมขัง ซึ่งมีระดับสูงประมาณ 30 ถึง 40 ซม.

ราษฎรต้องใช้เรือเป็นพาหนะในการสัญจรไปมา และส่วนใหญ่จะอาศัยอยู่ที่ชั้น 2 ของบ้านพัก และมีแนวโน้มระดับน้ำที่ท่วมขังจะลดลงอย่างต่อเนื่อง อันเป็นผลพวงมาจากฝนได้หยุดตกลงแล้ว

นอกจากนี้ สภาวะน้ำท่วมขังบ้านเรือนของราษฎรวานนี้ ในพื้นที่ 2 อำเภอ คือ อำเภอระแงะ จำนวน 6 ตำบล และ 27 หมู่บ้าน ส่วนอำเภอเจาะไอร้อง มีน้ำท่วมขัง 3 ตำบล และ 8 หมู่บ้านด้วยกัน

ล่าสุดในวันนี้พบว่า สถานการณ์น้ำท่วมได้คลี่คลายลงแล้ว และมวลน้ำดังกล่าวได้ทยอยไหลลงสู่พื้นที่ราบ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสวนยางพารา และผลไม้ และคาดว่าหากฝนหยุดตก สถานการณ์น้ำท่วมทั้ง 2 อำเภอจะกลับคืนสู่สภาวะปกติ

อย่างไรก็ตาม จากผลพวงของสภาวะน้ำท่วม 2 อำเภอ คือ เจาะไอร้อง และระแงะวานนี้ ก็ยังส่งผลทำให้โรงเรียนในสังกัดสำนักงานพื้นที่การประถมศึกษานราธิวาส เขต 3 ได้ประกาศปิดการเรียนการสอน จำนวน 9 แห่ง แม้บางแห่งจะกลับคืนสู่สภาวะปกติ และจะเปิดการเรียนการสอนในวันจันทร์ที่ 1 ก.พ. 2559