นักศึกษา “หอศิลป์” ปฏิเสธการมอบตัวต่อตำรวจ
2015.06.24

ในวันพุธที่ 24 มิ.ย. 2558 กลุ่มนักศึกษา “หอศิลป์” ที่ถูกหมายจับฐานขัดคำสั่ง ห้ามชุมนุมทางการเมืองของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ด้วยการประท้วงการครบรอบการรัฐประหารเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม ที่หน้าหอศิลปะและวัฒธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ย่านใจกลางเมืองหลวง ได้เดินทางไปยังสถานีตำรวจปทุมวัน เพื่อแสดงการปฏิเสธการมอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ และยังประกาศ จะฟ้องกลับเจ้าหน้าที่ตำรวจในความผิดต่อเสรีภาพ และร่างกาย
ศาลทหารกรุงเทพ ได้ขออนุมัติหมายจับ “นักศึกษาหอศิลป์” จำนวน 8 คน ซึ่งหนึ่งในแปดคนนั้น คือ น.ส. นัชชชา กองอุดม นักศึกษามหาวิทยาลัยกรุงเทพ ได้ถูกตำรวจจับกุมตัว ในขณะเดินทางไปยังโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในก่อนหน้านี้ ซึ่งได้ถูกนำตัวไปยังศาลทหารกรุงเทพ
กลุ่มนักศึกษากลุ่มดังกล่าว ได้แสดงเจตจำนงค์ว่าจะไม่หลบหนี แต่ได้ต่อรองกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า จะยินยอมเดินทางเข้าสถานีตำรวจ ก็ต่อเมื่อทางตำรวจรับแจ้งความกลับต่อเจ้าหน้าที่เท่านั้น
ทั้งนี้ นักศึกษาหอศิลป์ ได้เดินทางมายังสถานีตำรวจปทุมวัน ตั้งแต่ตอนกลางวัน และได้ทำกิจกรรมต่อต้านรัฐบาลจนกระทั่งถึงตอนค่ำ โดยมีกลุ่มนักศึกษากลุ่มดาวดิน 7 คน ซึ่งเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยขอนแก่น ที่เคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลของ คสช. มาร่วมให้กำลังใจ
ตำรวจจับกุมมือปล่อยข่าวลือรัฐประหารซ้อน
พล.ต.ท ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และพล.ต.ต. ศิริพงษ์ ติมุลา ผู้บังคับการ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ได้แถลงข่าวการจับกุม นางชญาภา โชคพรบุศศรี อายุ 49 ปี ซึ่งถูกหมายจับในวันที่ 22 มิย. ที่ผ่านมา เนื่องจากได้สร้างข้อมูลเท็จ เพื่อปลุกปั่นว่าจะมีการทำรัฐประหารซ้อน โพสต์ทางเฟซบุค รวมทั้งได้โพสต์ ข้อความหมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์อีกด้วย
พล.ต.ท ประวุฒิ กล่าวว่า กลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมือง เพื่อต่อต้านรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา มีการจัดตั้งเป็นสามระดับ คือระดับผู้บงการ ระดับผู้ปฏิบัติการ และระดับแนวร่วม ที่มีเครือข่ายโยงใย ทั้งในและนอกประเทศ โดยนางชญาภา อยู่ในระดับปฏิบัติการ ถูกจับกุมได้ที่บ้านพักในจังหวัดสมุทรปราการ ตั้งแต่เมื่อวาน
นางชญาภา ที่ได้ถูกนำตัวมาแถลงข่าว ได้ยอมรับว่าตนได้เอารูปรถถังจากเวบไซต์กลุ่มคนเสื้อแดงมาแต่งแล้วโพสต์ข้อความ ทางเฟซบุคของตน แต่ไม่ได้ตอบคำถามของผู้สื่อข่าวที่ถามถึงเหตุผลในการกระทำการดังกล่าว และในช่วงท้ายของการแถลงข่าวได้มีอาการหน้ามืดจนต้องถูกนำส่งโรงพยาบาลตำรวจ
พล.ต.ต. ศิริพงษ์ กล่าวว่า จากการสืบสวนพบว่านางชญาภา ยังมีความเชื่อมโยงกับกลุ่ม นายเอนก ซานฟราน ซึ่งเป็นผู้ต้องสงสัยจ้างวานขว้างระเบิดศาลอาญา เมื่อวันที่ 8 มีนาคม ที่ผ่านมาอีกด้วย