ภาค ปชช. นราธิวาส ร้องรองผู้ว่าฯ ขอมีบทบาทร่วมการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ

รพี มามะ
2016.08.16
นราธิวาส
TH-SEZ-800 นายไกรศร วิศิษฎ์วงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส นั่งรับฟังข้อเรียกร้องเรื่องเขตเศรษฐกิจพิเศษจากภาคประชาสังคม วันที่ 16 ส.ค. 2559
เบนาร์นิวส์

ในวันอังคาร (16 ส.ค. 2559) นี้ ภาคประชาชนในพื้นที่ 13 อำเภอ ของจังหวัดนราธิวาส ได้เข้าพบรองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ตัวแทน ศอ.บต. และกอ.รมน.ภาค 4 เพื่อยื่นแถลงการณ์ผ่านไปยังนายกรัฐมนตรี ให้ทบทวนผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นจากโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษนราธิวาส

นายวิกรม ประชุมกาเยาะมาต นายมะสูดิง วามะ และน.ส.นูรหม๊ะ วี ได้เป็นแกนนำภาคประชาชนจำนวนประมาณร้อยคน เข้าพบนายไกรศร วิศิษฎ์วงศ์ รอง ผวจ.นราธิวาส ที่ศาลากลางจังหวัด พร้อมยื่นแถลงการณ์ 18 ข้อ ที่มีเนื้อหาเรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินโครงการ “สามเหลี่ยมแห่งความมั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืน” โดยขอให้ระวัง ไม่ให้กระทบต่อวัฒนธรรม วีถีชีวิต และอัตลักษณ์ของพื้นที่

“ชาวบ้านเขาห่วงใยว่าวัฒนธรรม วีถีชีวิต และอัตลักษณ์ของพื้นที่ จะถูกกลืนจากการพัฒนา ซึ่งเป็นวัฒนธรรมที่มีมาตั้งแต่เดิมทั้งชุมชนวิถีชีวิตและศาสนา และเรื่องของทรัพยากรธรรมชาติที่อาจจะไม่เพียงพอ ถ้าไม่มีการควบคุมและการจัดหาไว้ล่วงหน้า” นางสุจิตรา สุทธิพงศ์ ประธานคณะทำงานเสริมสร้างและพัฒนาการเมืองภาคพลเมือง เปิดเผยกับเบนาร์นิวส์

ด้านนายอดุลย์ แวมามะ ตัวแทนภาคประชาชน อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส ว่า ประชาชนทุกคนต้องการ เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ซึ่งไม่มีใครปฎิเสธ และ คัดค้านแต่อย่างใด เพราะนั้นคือ การพัฒนาพื้นที่และเกิดความเจริญ แต่ที่เราห่วงใยมาก คือ การรับรู้ข่าวสารของประชาชนและการมีส่วนร่วมของประชาชน ถือว่ามีน้อยมาก

“ดังนั้น ข้อที่เสนอ 18 ข้อ ส่งเสนอไปยังภาครัฐ จึงสมควรที่ภาครัฐต้องศึกษา และทบทวน ในการเดินหน้า ควบคู่กับความเข้าใจกับวัฒนธรรม และ อัตลักษณ์ ของคนในพื้นที่” นายอดุลย์ กล่าวแก่เบนาร์นิวส์

ทั้งนี้ ข้อแถลงการณ์ 18 ข้อหลักๆ ได้กล่าวถึง ผลกระทบต่อวิถีชีวิตของประชาชน วัฒนธรรมอันดีงาม และมีมาตรการควบคุมดูแลทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง รวมทั้ง ข้อเสนอแนะให้มีการจำหน่ายสินค้าปลอดภาษี และลดสภาวะคนว่างงานให้มีงานทำมากขึ้น โดยจ่ายค่าแรงงานขั้นต่ำตามกฎหมายกำหนด

ทางกลุ่มภาคประชาชนฯ ได้อ้างเหตุผลถึงความคล่องตัวในการทำงาน ตัวแทนทั้งหมด จึงได้มีมติ ให้ตั้งคณะกรรมการมา 1 ชุดทำงาน เรียกว่า “คณะกรรมการส่งเสริมการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ นราธิวาส ภาคประชาชน” เพื่อรับทราบความเป็นไปได้ของการขับเคลื่อนเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ร่วมแสดงความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม และนำความคืบหน้าต่างๆ ถ่ายทอดต่อชุมชน เพื่อการพัฒนาจังหวัดนราธิวาส อย่างตรงไปตรงมา โดยไม่ขัดแย้งกับภาครัฐ

และขอให้ทางจังหวัดนราธิวาส อนุมัติแต่งตั้งตัวแทนภาคประชาชนชุดนี้ เป็นคณะกรรมการส่งเสริมการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษนราธิวาส เพื่อให้คณะกรรมการชุดนี้ มีส่วนร่วมในการประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ เพื่อเป็นปากเป็นเสียงแทนพี่น้องประชาชนในครั้งนี้ด้วย

จังหวัดนราธิวาส เป็นจังหวัดที่มีรายได้เฉลี่ยต่อครัวเรือนต่อเดือนอยู่ในระดับต่ำ จังหวัดหนึ่งในประเทศไทย โดยในปี พ.ศ. 2558 ที่มีตัวเลขอยู่ที่ 19,890 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน โดยกรุงเทพมีตัวเลขสูงสุดที่ 41,002 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน ตามข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติ

คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ (กนพ.) ได้มีมติเมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2558 เห็นชอบกำหนดพื้นที่เป้าหมายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษนราธิวาส รวม 5 ตำบล ในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ ตำบลสุไหงโก-ลก ตำบลเจ๊ะแก ในอำเภอตากใบ ตำบลโต๊ะจูด ในอำเภอแว้ง ตำบลละหาร ในอำเภอยี่งอ และตำบลโคกเคียน ในอำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส

และเมื่อวันที่ 16 มกราคม 2559 กนพ. มีมติเห็นชอบ มอบหมายการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) พิจารณาความเป็นไปได้ในการจัดซื้อที่ดินเอกชน จังหวัดนราธิวาส 2,277 ไร่ ในตำบลละหาร อำเภอยี่งอ และตำบลโคกเคียน จังหวัดนราธิวาส เพื่อนำมาจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรม

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง