สถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ยังไม่คลี่คลาย 11 จังหวัดยังจมน้ำ

ทีมข่าวเบนาร์นิวส์
2017.01.09
ภาคใต้
TH-flood-1000 ครอบครัวที่บ้านเรือนประสบภัยน้ำท่วมสูงเกือบถึงหลังคาบ้านหลังฝนตกหนัก ทำความสะอาดหลังคาบ้าน ในอำเภอสุไหงโกลก จังหวัดนราธิวาส วันที่ 2 มกราคม 2560
เอเอฟพี

ในวันจันทร์(9 มกราคม 2560)นี้ สถานการณ์น้ำท่วมในเขตภาคใต้มีความรุนแรงจากฝนที่ยังคงตกอย่างต่อเนื่อง ทำให้พื้นที่ประสบภัยขยายจาก 9 จังหวัด เมื่อสุดสัปดาห์ก่อน เป็น 11 จังหวัดในสัปดาห์นี้ และมีผู้เสียชีวิตจากอุทกภัยแล้ว 21 คน เฉพาะในเดือนมกราคม 2560 ปัจจุบัน หลายภาคส่วนกำลังระดมกำลังช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน

นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย เปิดเผยต่อเบนาร์นิวส์ว่า ปัจจุบัน สถานการณ์น้ำท่วมในภาคใต้ยังคงมีความรุนแรง มีเพียงจังหวัดยะลาเพียงที่เดียวเท่านั้นที่สถานการณ์พ้นวิกฤต ขณะที่จังหวัดอื่นๆยังต้องการความช่วยเหลือ

“ปัจจุบัน ผมยังอยู่ในพื้นที่จังหวัดที่ได้รับผลกระทบเพิ่มขึ้น เพิ่มกระบี่ ระนองคลี่คลายแล้วแต่กลับมาอีก แล้วก็ประจวบคีรีขันธ์ จาก 9 จังหวัดเป็น 11 จังหวัด เพราะยะลาคลี่คลายไปแล้ว ผู้เสียชีวิตมี 21 คน นับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2560 ถึงปัจจุบัน” นายฉัตรชัยกล่าว

ข้อมูลของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทยระบุว่า หลังจากมีฝนตกอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2560 ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก และน้ำท่วมฉับพลันใน 12 จังหวัด ได้แก่ พัทลุง นราธิวาส ยะลา สงขลา ปัตตานี ตรัง สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ชุมพร ระนอง กระบี่ และประจวบคีรีขันธ์ ในพื้นที่ 96 อำเภอ 588 ตำบล 4,277 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 330,415 ครัวเรือน 958,602 คน มีผู้เสียชีวิตสะสม 21 ราย สูญหาย 2 ราย

 

พื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหายประกอบด้วยพื้นที่ปลูกข้าว 251,348 ไร่ พืชไร่ 2,1673 พืชสวนและอื่น 709,673 ไร่ รวม 982,694 ไร่ พื้นที่เลี้ยงสัตว์ได้รับความเสียหาย 28,368 ไร่ และสัตว์บกที่ได้รับผลกระทบ 5,736,349 ตัว สถานที่ราชการ 5 แห่ง ถนน 218 จุด คอสะพาน 59 แห่ง ได้รับความเสียหาย ปัจจุบันสถานการณ์น้ำท่วมคลี่คลายแล้ว 1 จังหวัด คือ จังหวัดยะลา

ด้านการช่วยเหลือหน่วยราชการ ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง มูลนิธิ ภาคธุรกิจ และเอกชนได้ระดมความช่วยเหลือต่างๆ เช่น ระดมทุนบริจาคอาหาร และน้ำ เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม และได้อำนวยความสะดวกในการเดินทางให้กับประชาชนที่ติดอยู่ในพื้นที่อุทกภัย เป็นต้น

พ.อ.ชลัช ศรีวิเชียร ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจทหารพราน 47 เปิดเผยว่า ประชาชนในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ได้บริจาคสิ่งของ เครื่องใช้ และอาหารให้กับเจ้าหน้าที่และครอบครัวของเจ้าหน้าที่ทหารที่ปฎิบัติภารกิจในพื้นที่ จังหวัดพัทลุง จังหวัดนครศรีธรรมราช จังหวัดสุราษฎรธานี และ จังหวัดสงขลาด้วย

“จากกรณีที่ชาวบ้านร่วมบริจาคสิ่งของมาช่วยครอบครัวกำลังพลที่ปฏิบัติภารกิจอยู่ในพื้นที่ ทำให้เราเห็นว่า สิ่งที่ทหารทำมาตลอดเริ่มได้ผล ชาวบ้านเห็นความสำคัญที่ทหารไปช่วยเหลือเขา วันนี้ครอบครัวทหารเดือดร้อนเขาจึงส่งของมาช่วย” พ.อ.ชลัชกล่าว

พ.อ.ชลัช เพิ่มเติมว่า เจ้าหน้าที่ทหารและครอบครัวรู้สึกดีใจ และขอบคุณน้ำใจที่ชาวบ้านมีให้

นางนิซง สาและ ชาวจังหวัดยะลา เปิดเผยว่า ได้บริจาคสิ่งของให้กับครอบครัวของทหารที่ปฎิบัติหน้าที่ในเขตภาคใต้ตอนบน เพราะแม้จังหวัดยะลาจะถูกน้ำท่วม แต่ถือว่ามีผลกระทบไม่มากเท่าจังหวัดภาคใต้ตอนบน

“ได้บริจาคน้ำมันพืช ข้าวสาร และน้ำดื่มให้กับทหารไปมอบให้กับครอบครัวทหารที่ประสบภัยน้ำท่วม และชาวบ้านด้วย ชาวบ้านที่นี่ก็ประสบภัยน้ำท่วมเหมือนกันก็ลำบาก แต่คนที่หนักกว่าพวกเราคือ คนแถวภาคใต้ตอนบนที่ประสบภัยน้ำท่วมหนักกว่าพวกเรา” นางนิซงกล่าว

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง