ชาวปัตตานีและสงขลาเสียชีวิตจากน้ำท่วม 3 ราย ในวันนี้
2017.11.27
ปัตตานี

ในวันจันทร์ (27 พฤศจิกายน 2560) นี้ เจ้าหน้าที่รายงานผู้เสียชีวิตจากเหตุน้ำท่วมในพื้นที่ปัตตานี และสงขลา จำนวน 3 ราย รวมทั้งเด็กหญิงอายุขวบกว่า 1 ราย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ประชาชนได้รับผลกระทบแล้วกว่า 3 พันหลังคาเรือน ในจำนวนนี้ มีอยู่ 300 หลังคาเรือนที่ต้องอพยพหนีน้ำท่วม
ร.ต.ท.ประเดิมศักดิ์ คงทน รองสารวัตรสอบสวน สถานีตำรวจภูธรบ้านโสร่ง อ.ยะรัง จ.ปัตตานี เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเขาตูมว่า มีเด็กจมน้ำเสียชีวิต 1 ราย จึงได้นำเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ และชันสูตรพลิกศพ
“เมื่อไปถึงพบนางฮามีดะห์ บือแน กำลังร้องไห้กอดร่างของ ด.ญ.ฮัยฟาอ์ บือแน อายุ 1 ปี 2 เดือน ที่เสียชีวิตจากการจมน้ำ โดยเหตุเกิดบริเวณคูระบายน้ำหน้าบ้านของตนเอง เลขที่ 89/1 ม.3 ต.เขาตูม จากการชันสูตรเบื้องต้นไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย” ร.ต.ท.ประเดิมศักดิ์กล่าว
“แม่ของผู้ตายให้การว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายกับพี่สาววัย 3 ขวบ ได้เดินออกมาหน้าบ้าน ก่อนที่พี่สาวจะเดินเข้าบ้านเพียงคนเดียว ผู้เป็นแม่สอบถามพี่สาว แต่ไม่มีคำตอบ จึงเดินไปหน้าบ้านก็ไม่พบ เมื่อผิดสังเกตจึงได้ให้ชาวบ้านช่วยกันตามหา จนกระทั่งมีชาวบ้านได้อุ้มร่างของลูกสาวที่หมดสติมาในสภาพเปียกน้ำ โดยบอกว่าพบอยู่ในคูระบายน้ำ ห่างจากบ้าน 200 เมตร” ร.ต.ท.ประเดิมศักดิ์กล่าวเพิ่มเติม
ในวันเดียวกันเจ้าหน้าที่มูลนิธิมิตรภาพสามัคคี (ท่งเซียเซี่ยงตึ๊ง) เปิดเผยว่า นักประดาน้ำของมูลนิธิฯ ได้พบร่างของ นายมีซี อาแว อายุ 62 ปี ชาวบ้าน ม.9 ต.ป่าชิง อ.จะนะ จ.สงขลา ซึ่งรับแจ้งว่า ได้จมน้ำในช่วงบ่ายวันอาทิตย์ที่ผ่านมา นักประดาน้ำจึงดำน้ำค้นหาในพื้นที่ดังกล่าว จนกระทั่งพบร่างในเช้าวันจันทร์นี้
ส่วนรายที่สาม คือ นายแวฮามะ เตาะสาตู อายุ 69 ปี เสียชีวิตจากต้นไม้ล้มทับในพื้นที่น้ำท่วมขังที่บริเวณ ม.1 ต.ประจัน อ.ยะรัง จ.ปัตตานี
ก่อนหน้านี้ในวันอาทิตย์ ที่ ม.8 บ้านบาโย ต.บาโร๊ะ อ.ยะหา จ.ยะลา นายมูฮัมหมัดซอเร วาเลาะ ถูกน้ำป่าพัดจมน้ำเสียชีวิต ขณะกำลังออกหาปลา และในพื้นที่หมู่ 4 ต.ลำไพล อ.เทพา นายลาเตะ เอียดหวัง อายุ 60 ปี ได้ถูกน้ำพัดร่างจมหายขณะพยายามเดินฝ่ากระแสน้ำในเขตหมู่บ้าน เจ้าหน้าที่จึงได้ลงค้นหา จนกระทั่งพบร่างผู้เสียชีวิตในช่วงค่ำวันเดียวกัน
นับตั้งแต่มีฝนตกหนักและน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ภาคใต้ เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายนจนถึงปัจจุบัน ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 5 ราย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า มีประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในครั้งนี้แล้วกว่า 3 พันหลังคาเรือน โรงเรียนในพื้นที่จังหวัดยะลา ปัตตานี นราธิวาส ได้สั่งให้ปิดการเรียนการสอนแล้วกว่า 50 โรงเรียน
ขณะที่กรมอุตุนิยมวิทยา เตือนให้ประชาชนเฝ้าระวังน้ำท่วมและน้ำป่าไหลหลากต่อไป เนื่องจากคาดว่าในวันที่ 28-30 พฤศจิกายน 2560 จะยังมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง ลมแรง และในทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง
ด้าน นายวีรนันทน์ เพ็งจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เปิดเผยต่อสื่อมวลชนว่า สถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดปัตตานียังคงน่าเป็นห่วง อย่างไรก็ตามได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ส่วนราชการเข้าให้ความช่วยเหลือประชาชนแล้ว
“ในพื้นที่เกิดฝนตกต่อเนื่อง และเกิดปัญหาน้ำท่วมหลายจุด น้ำมาเร็วกว่าทุกปี เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยพร้อมเข้าให้ความช่วยเหลือประชาชนและ จ.ปัตตานี นอกจากน้ำฝนที่ตกลงมาแล้วยังต้องรองรับน้ำที่มาจากยะลา นราธิวาส ก่อนที่จะไหลลงสู่ทะเลด้วย ตอนนี้ยังไม่มีพื้นที่ไหนวิกฤติ” นายวีรนันทน์กล่าว
ขณะที่ พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 เปิดเผยเช่นกันว่า ได้สั่งการให้กำลังพล นำอุปกรณ์ และเครื่องใช้ของจำเป็นลงช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบแล้ว
นายชินวัฒน์ พรมมาณพ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานปัตตานี เปิดเผยว่า ในอีก 2-5 วันจะยังมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง ในพื้นที่จังหวัดยะลาและปัตตานี อาจทำให้น้ำป่าไหลหลาก ล้นตลิ่ง และอาจทำให้น้ำท่วมขัง ในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยใน 12 อำเภอ ของ จ.ปัตตานี
“พื้นที่ลุ่มต่ำติดแม่น้ำปัตตานี และเขตชุมชน บริเวณบ้านบรีดอ ต.ปะกาฮะรัง ต.บาราเฮาะ อ.เมือง รวมทั้งบริเวณลุ่มน้ำสายบุรี ต.ปล่องหอย ต.ตะโล๊ะดือรามัน อ.กะพ้อ ต.ตะบิ้ง ต.บือเระ ต.แป้น ต.เตราะบอน ต.ทุ้งคลา อ.สายบุรี ขอให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเพราะ จ.ปัตตานี ต้องรับน้ำจาก จ.ยะลาก่อนไหลลงสู่ทะเลอ่าวไทย” นายชินวัฒน์กล่าว
ด้าน นายรุสลัน มามะ ชาว อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดปัตตานี หนักที่สุดในรอบหลายปี ขณะที่ประชาชนยังคงต้องเฝ้าระวังสถานการณ์เนื่องจากกลัวว่าน้ำจะยังคงเพิ่มปริมาณสูงขึ้น และขยายพื้นที่ท่วมออกไป
“บริเวณที่อาศัยอยู่ไม่เคยท่วมเหมือนปีนี้ น้ำท่วมข้ามถนนทำให้รถเล็กต้องใช้ความระมัดระวัง น้ำป่าจากน้ำตกทรายขาว ก็ไม่เคยไหลหลากลงมาจำนวนมากเหมือนปีนี้ แต่ปีนี้มาเร็วและมากอย่างไม่เคยเห็น มันน่ากลัวมากไม่คิดว่าน้ำจะเยอะ คิดว่า ถ้าฝนไม่หยุดตกอีก น้ำจะท่วมอีกเยอะ ชาวบ้านจะเดือดร้อนจำนวนมากแน่นอน” นายชินวัฒน์กล่าว