เอ็นจีโอมาเลเซีย ขนของช่วยน้ำท่วมนครศรีธรรมราช

ในวันศุกร์ (13 มกราคม 2560) นี้ ตัวแทน 44 องค์กรเอ็นจีโอจากประเทศมาเลเซีย เดินทางมายังประเทศไทย เพื่อสิ่งของบรรเทาทุกข์ มาช่วยเหลือชาวไทยที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เผยเป็นการตอบแทนที่คนไทยเคยให้การช่วยเหลือในเหตุการณ์น้ำท่วมประเทศมาเลเซียเมื่อ 2 ปีก่อน

ขบวนคอนวอยรถยนต์ขับเคลื่อนสี่ล้อ 100 คัน ของ 44 องค์กร หรือ BBNGO ประมาณ 200 ชีวิต จากรัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย ได้เดินทางข้ามแดนทางจังหวัดนราธิวาส

นายมูหัมหมัดรัมซี บินเราะหมาน อิหม่ามตาเนาะแมเราะ นำคณะไปยังห้องประชุมคณะของกรรมการอิสลาม จังหวัดนราธิวาส เพื่อนำอาหารแห้ง เวชภัณฑ์ยารักษาโรค ผ้าอ้อมสำเร็จรูป และเสื้อผ้า 1,000 ชุด และเงินสดจำนวนหนึ่ง มาช่วยเหลือชาวนราธิวาส ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม โดยได้มอบผ่านนายซาเฟอี เจ๊ะเลาะ ประธานคณะกรรมการอิสลาม จังหวัดนราธิวาส

นายมูหัมหมัดรัมซี เปิดเผยว่า จากการติดตามข่าวทำให้ทราบว่าในพื้นที่ภาคใต้ของไทยถูกน้ำท่วมหลายพื้นที่ และประชาชนชาวไทยได้รับผลกระทบเป็นวงกว้าง จึงต้องการเดินทางเพื่อมาช่วยเหลือ

“ด้วยสำนึกที่ประเทศไทยเป็นเพื่อนบ้าน และเป็นประชาคมอาเซียน เมื่อคนไทยได้รับความเดือดร้อน จึงประชาสัมพันธ์ให้ประชาชน และเครือข่ายรถขับเคลื่อนสี่ล้อในประเทศมาเลเซีย ช่วยร่วมบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ของไทย แม้เหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ จังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทย จะยังคงเกิดปัญหาความรุนแรง แต่เรามีมิตรภาพและความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน เมื่อคนไทยเดือดร้อน พวกเราจะไม่นิ่งดูดาย พร้อมที่ยืนมือเข้าช่วยเหลือเสมอ” นายมูหัมหมัดรัมซีกล่าว

ด้านนายซาเฟอี เจ๊ะเลาะ ประธาน คณะกรรมการอิสลาม จ.นราธิวาส กล่าวตอบว่า

“การที่ชาวมาเลเซียช่วยเหลือชาวไทยจะสะท้อนถึงความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันระหว่างคน 2 ประเทศ มิตรภาพเปรียบเหมือนพี่น้อง แม้สถานการณ์ในพื้นที่ จังหวัดนราธิวาส ในสื่อจะรายงานเรื่องสถานการณ์ความไม่สงบ แต่การเดินทางมาของคนมาเลเซีย ในช่วงที่คนไทยเดือดร้อน ถือได้ว่าชาวมาเลเซียห่วงใยคนไทย จึงเชื่อว่าสิ่งที่ดีงามจะสร้างความแน่นแฟ้นให้กับ 2 ประเทศ”

นอกจากนั้น ตัวแทนของกลุ่มอีกส่วนหนึ่ง ได้เดินทางไปยังชุมชนมัสยิดอัลฟุรกอน บ้านเพชรสุภา ตำบลจะบังติกอ อำเภอเมือง ปัตตานี เพื่อเตรียมนำข้าวสาร อาหารแห้ง และยาเวชภัณฑ์ไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยมีนายซัยนูรดิน นิมา ประธานชุมชนมัสยิดอัลฟุรกอน บ้านเพชรสุภา และลูกบ้านต้อนรับ

ดร.ดินสุไฮมี ซิเดก ประธานกลุ่ม BBNGO กล่าวว่า ก่อนเดินทางมายังประเทศไทย ได้เดินทางไปช่วยเหลือประชาชนชาวมาเลเซียที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมแล้ว หลังจากเสร็จภารกิจในประเทศจึงได้เดินทางมารวมกับชาวปัตตานี เพื่อให้การช่วยเหลือชาวไทย

“เรามีทีมแพทย์ มีนักจิตวิทยา และมีอุปกรณ์บางส่วนที่จะสามารถช่วยทำความสะอาดบางพื้นที่ที่น้ำลดลงแล้ว เพื่อเป็นกำลังใจ และช่วยเหลือผู้ประสบภัยครั้งนี้เพราะ 2 ปีที่แล้ว คนไทยได้เข้าไปช่วยเหลือคนมาเลเซียที่ประสบภัย วันนี้คนที่นี่เดือดร้อน เราต้องมาช่วยเหลือและให้กำลังใจ” ดร.ดินสุไฮมีกล่าว

นางอาสูนา จินตรา ชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า ตนเองเป็นหนึ่งในผู้ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมครั้งนี้ รู้สึกดีใจเป็นอย่างมากที่มีคนยื่นมือมาช่วยเหลือ

“แม้เราจะประสบภัยน้ำท่วมครั้งใหญ่ หนักเท่า 30 ปีก่อน เราสูญเสียทุกอย่างไปกับน้ำหมด แต่เราก็ดีใจที่เห็นและได้รับน้ำใจจากพี่น้องชาวไทยเรา และพี่น้องจากมาเลเซียมาซับน้ำตา ช่วยเหลือพวกเรา” นางอาสูนากล่าว

สรุปสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้

นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ปัจจุบัน มีจังหวัดถูกน้ำท่วม 12 จังหวัด แต่มีสถานการณ์คลี่คลายแล้ว 4 จังหวัด คือ ยะลา ระนอง ปัตตานี และนราธิวาส อย่างไรก็ดี ให้เฝ้าระวังต่อ เนื่องจากคาดว่าสุดสัปดาห์นี้ จะมีมรสุมอีกครั้ง

“การติดตามสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยาพบว่า ในช่วงวันที่ 14-19 มกราคมนี้ มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมภาคใต้ และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้จะมีฝนตกเพิ่มขึ้น และคลื่นลมมีกำลังแรง จึงได้ประสานจังหวัดและศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เตรียมรับมืออุทกภัยและดินถล่ม พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุ และช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างทันท่วงที” นายฉัตรชัยกล่าว

ปัจจุบัน มีจังหวัดได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม 12 จังหวัด 119 อำเภอ 721 ตำบล 5,476 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 521,574 ครัวเรือน 1,603,541 คน ผู้เสียชีวิต 36 ราย สูญหาย 1 ราย สถานที่ราชการเสียหาย 17 แห่ง ถนน 592 จุด คอสะพาน 106 แห่ง