ชาวยะลาเข้าคิวถอนเงินช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยอย่างคึกคัก
2016.12.14
ยะลา

ในวันพุธ (14 ธันวาคม 2559)นี้ ประชาชนชาวยะลา ที่ได้ขึ้นทะเบียนผู้มีรายได้น้อยไว้จำนวนมาก ต่างเดินทางไปยังอาคารธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สาขาต่างๆ ทั้ง 5 สาขา เพื่อถอนเงินที่รัฐบาลได้จ่ายให้ ตามโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งเป็นการจ่ายเงินให้กับประชาชนที่มีรายได้น้อย 8.3 ล้านรายทั่วประเทศ
นายพินัย พูลเล็ก ผู้อำนวยการสำนักงาน ธ.ก.ส. จังหวัดยะลา กล่าวว่า จังหวัดยะลามีประชาชนที่ขึ้นทะเบียนผู้มีรายได้น้อยทั้งหมด 39,691 ราย ปัจจุบัน ธ.ก.ส. กำลังดำเนินการโอนเงินที่รัฐบาลจัดสรรให้เข้าบัญชีของประชาชนที่ได้รับสิทธิแล้ว ซึ่งปัจจุบัน ทำการโอนสำเร็จแล้วเกือบร้อยละ 50 ของผู้มีรายชื่อทั้งหมด
“ตั้งแต่วันที่ 10 ธันวาคม 2559 สำนักงาน ธ.ก.ส. สาขายะลา ได้โอนเงินเข้าบัญชีให้แก่ผู้มีรายได้น้อย 18,362 ราย เป็นเงิน 41,617,500 บาท ที่เหลือจะเร่งดำเนินการโอนเงินให้เสร็จโดยเร็ว ขอให้มั่นใจว่า ธนาคารมีความพร้อมในการโอนเงินเข้าบัญชีผู้มีสิทธิทันทีที่ได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง” นายพินัยกล่าว
นายพินัย กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับผู้ที่พบปัญหากรณีที่ไม่พบชื่อของตัวเองในบัญชีผู้มีสิทธิรับเงินช่วยเหลือครั้งนี้บนเว็บไซต์ของกรมสรรพากร ให้นำหลักฐานการลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อยมาติดต่อกับ ธ.ก.ส. ภายในวันที่ 15 ธันวาคม 2559 เพื่อธนาคารจะได้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลและแก้ไขปัญหาต่อไป โดยหากผู้มีสิทธิไม่มาแสดงตนภายในเวลาที่กำหนดจะถือว่าผู้นั้นสละสิทธิ
นางรอยฮา วาหลง ผู้จัดการ ธ.ก.ส. สาขายะลา กล่าวว่า ธ.ก.ส. ได้ดำเนินการโอนเงินให้กับประชาชนแล้วจำนวนหนึ่ง ส่วนประชาชนที่ยังไม่ได้รับการโอนนั้น กำลังอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบข้อมูลกับกระทรวงการคลัง
“รอข้อมูลจากกระทรวงการคลัง กำลังเร่งตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลผู้มาลงทะเบียน ซึ่งในพื้นที่ยะลามีปัญหาเนื่องจากประชาชนไม่รู้ระเบียบการลงทะเบียน และอ่านหนังสือไม่ออกเขียนไม่ได้ ทำให้ล่าช้า” นายรอยฮา กล่าว
นางรอยฮา เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ธ.ก.ส. จังหวัดยะลา วางเป้าหมายในการโอนเงินให้กับประชาชนผู้มีสิทธิให้ครบทั้งหมดภายในวันที่ 25 ธันวาคม 2559
นางคอลีเยาะ สามะ ชาวยะลา เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวว่า รู้สึกดีใจมากที่จะได้รับเงินจำนวนดังกล่าวจากรัฐบาล โดยวางแผนจะนำเงินที่ได้รับไปใช้ในการเลี้ยงดูบุตร และแบ่งบางส่วนเพื่อใช้ซื้อเมล็ดพันธุ์พืช เพื่อปลูกขายเป็นรายได้เสริม
“ถ้าเป็นไปได้ขอให้รัฐบาลนำนโยบายช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยให้ได้รับเงินอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง เพื่อผู้มีรายได้น้อยมีเงินทุนที่จะสร้างอาชีพในโอกาสต่อไป” นางคอลีเยาะกล่าว
นางสาวรุสดา เหมเบีย ชาวยะลากล่าวว่า ตนเองเป็นผู้ไม่มีรายได้ จึงได้ลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อยเอาไว้ ปัจจุบัน ยังไม่ได้ตรวจสอบว่าได้รับการโอนเข้าบัญชีแล้วหรือยัง ซึ่งหากได้รับจริงจะแบ่งเงินจำนวนดังกล่าวไปใช้ประโยชน์ในอนาคต
“จะแบ่งเงินออกเป็น 2 ส่วน จะนำไปซื้อข้าวสารและอาหารแห้งเก็บไว้ให้ทุกคนในครอบครัวได้กินและเป็นค่าเล่าเรียนของลูกๆ ทั้ง 3 คน” นางสาวรุสดา กล่าว
ด้านนางรอกีเยาะ อาบู ชาวยะลาอีกราย แสดงความคิดเห็นว่า โครงการช่วยเหลือของรัฐบาลถือว่าเป็นโครงการที่ดี อยากให้ดำเนินการอีกในปีถัดไป เนื่องจากมีประชาชนบางส่วนที่พลาดโอกาสลงทะเบียนในปีนี้
“ทุกคนดีใจมากที่รัฐบาลเปิดโอกาสให้ลงทะเบียนอีกในปีหน้า ตอนที่รัฐบาลเปิดให้ลงทะเบียน หลายคนขาดโอกาส ไม่ได้ไปลงทะเบียน คราวนี้จะขอลงทะเบียนด้วย เพื่อขอรับการช่วยเหลือจากรัฐบาล” นางรอกีเยาะกล่าว
การจ่ายเงินผู้มีรายได้น้อยครั้งนี้ สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2559 คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบโครงการของกระทรวงการคลัง ในการให้เงินช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยที่ไม่ใช่เกษตรกรซึ่งลงทะเบียนไว้แล้ว 5.4 ล้านคน โดยจะใช้งบประมาณทั้งหมด 12,750 ล้านบาท โครงการนี้จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ ช่วยเหลือผู้ที่มีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาทต่อปีรายละ 3,000 บาท และผู้ที่รายได้ต่อปีตั้งแต่ 30,001 บาท แต่ไม่เกิน 100,000 บาท รายละ 1,500 บาท โดยเชื่อว่านโยบายนี้ จะเป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศให้คึกคัก
โดยก่อนหน้านั้นในช่วงปลายเดือนกันยายน 2559 คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้จ่ายเงินเกษตรกรผู้มีรายได้น้อย ซึ่งได้ลงทะเบียนโครงการเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ระหว่างวันที่ 15 กรกฎาคม - 15 สิงหาคม 2559 โดยรัฐบาลจะจ่ายเงินให้กับผู้ที่ไม่มีรายได้หรือมีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี 3,000 บาทต่อราย ครอบคลุมเกษตรกร 1.5 ล้านราย ส่วนผู้ที่มีรายได้สูงกว่า 30,000 บาทต่อปี แต่ไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี 1,500 บาทต่อราย ครอบคลุมเกษตรกร 1.3 ล้านราย โดยรัฐบาลทะยอยจ่ายเงินจำนวนดังกล่าวผ่านธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรไปแล้ว ในช่วงปลายเดือนกันยายน-เดือนตุลาคม