ท่อส่งก๊าซปตท. ระเบิด มีผู้เสียชีวิต 3 ราย บาดเจ็บกว่า 50 ราย

วิลาวัลย์ วัชรศักดิ์เวช
2020.10.22
กรุงเทพฯ
201022-TH-gas-explosion-650.jpg บ้านเรือนและรถที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงถูกแรงระเบิดไหม้เสียหาย จังหวัดสมุทรปราการ วันที่ 22 ตุลาคม 2563
ภาพ บุญวิภา60

ในวันพฤหัสบดีนี้ เกิดเหตุท่อส่งก๊าซธรรมชาติของ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ระเบิด ในพื้นที่ตำบลเปร็ง จังหวัดสมุทรปราการ ทำให้มีผู้เสียชีวิตล่าสุด 3 ราย และผู้ได้รับบาดเจ็บกว่า 50 ราย ขณะที่แรงระเบิดก่อให้เกิดความเสียหายต่อโรงเรียน โรงพัก โรงเรียน วัด และบ้านเรือนประชาชนเป็นวงกว้าง

นายณรงค์เดช จะประโคน อาสาสมัคร มูลนิธิปอเต็กตึ้ง อ.บางเสาธง ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับผู้สื่อข่าวเบนาร์นิวส์ว่า ขณะเกิดเหตุ ตนยังอยู่ที่วิทยาลัย ซึ่งห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 3 กิโลเมตร ได้ยินเสียงระเบิดดังมาก แต่คิดว่าเป็นเสียงเครื่องบินกำลังจะลงจอด แต่เสียงระเบิดดังต่อเนื่องนานเกิน 10 นาที จึงได้เดินออกไปดู เห็นเปลวไฟลุกไหม้สูงมากจากที่ไกล เมื่อถึงที่เกิดเหตุ พบว่าแรงระเบิดสร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรงเรียน สถานีตำรวจ ที่อยู่ใกล้กับจุดระเบิด รวมไปถึงวัด และบ้านเรือนประชาชนในวงกว้าง ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังเร่งเข้าช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บ ที่ร้องโอดโอยอยู่บริเวณโดยรอบ

“ลักษณะเป็นเหมือนท่อก๊าซระเบิดจากใต้ดิน ทำให้เกิดแรงอัดดันพวกเศษหิน เศษดิน พุ่งกระจายขึ้น และตกลงมาเป็นเหมือนเถ้าถ่านกระจายไปทั่วพื้นที่ในวงกว้าง มีโรงเรียน โรงพัก วัด บ้านเรือนประชาชน รถมอเตอร์ไซค์ รถยนต์ รถกระบะ รถหกล้อ เสียหายจำนวนมาก ชาวบ้านก็ร้องขอความช่วยเหลือ” นายณรงค์เดช ระบุ

สำหรับรายชื่อผู้เสียชีวิต 3 ราย คือ นางมะลิ บุญมั่น อายุ 80 ปี น.ส.ละมัย กลมกล่อม อายุ 85 ปี และนางสมศรี จันทร์แรม (ไม่ทราบอายุ)

ส่วนทรัพย์สินที่เสียหายตามรายงานล่าสุด มีอาคาร บ้านเรือน 30 ครัวเรือน โรงเรียน 1 แห่ง รถยนต์ 26 คัน จักรยานยนต์ 20 คัน จักรยานปั่น 2 คัน และเครื่องจักรอื่น ๆ 7 หน่วย

ส่วนผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ ยืนยันว่าทาง ปตท.สามารถควบคุมจุดที่ท่อก๊าซระเบิดได้แล้ว และมั่นใจว่าจะไม่มีโอกาสระเบิดซ้ำได้

จากการยืนยันของ ปตท. มีการปิดท่อก๊าซที่รั่วแล้ว ขอให้ประชาชนมั่นใจว่าจะไม่ระเบิดซ้ำ ขณะนี้ตั้งศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์ผู้ได้รับผลกระทบที่บริเวณโรงเรียนวัดเปร็ง และตั้งศูนย์พยาบาล รวมถึงที่พักพิงชั่วคราวให้แก่ผู้ที่บ้านเรือนเสียหาย" นายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการกล่าวแก่สื่อท้องถิ่น

ต่อมา ผู้อำนวยการของโรงเรียนเปร็งวิสุทธาธิบดี ที่อยู่ใกล้กับจุดระเบิด ได้ประกาศผ่านเฟซบุ๊กของโรงเรียนให้งดการสอบปลายภาค และให้นักเรียนมาเรียนในวันที่ 1 ธันวาคม

“เนื่องจากสถานการณ์ท่อก๊าซระเบิดบริเวณใกล้โรงเรียน ทางโรงเรียนจึงขอให้ประกาศงดการสอบปลายภาคเรียนและปิดภาคเรียน ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป และให้นักเรียนมาเรียนในวันเปิดภาคเรียน ในวันที่ 1 ธันวาคม 2563” ประกาศจากผู้อำนวยการ โรงเรียนเปร็งวิสุทธาธิบดี ระบุ

ด้าน พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจํานงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีระเบิดดังกล่าวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสืบสวน และพิสูจน์หลักฐาน เพื่อหาสาเหตุที่เกิดขึ้น

นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่าเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย

“เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้สายส่งไฟฟ้าแรงสูงของการไฟ้ฟาฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ขนาด 230 กิโลโวลต์ (kV) คลองใหม่-ลำลูกกา วงจร 1 และ 2 ขัดข้อง แต่ยังสามารถส่งจ่ายกระแสไฟฟ้าให้แก่ประชาชน โดยนำสายส่งชั่วคราว 230 kV พระนครใต้-เทพารักษ์ เข้าใช้งาน รวมทั้งเดินเครื่องโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมบางปะกงหน่วยที่ 5 และเดินเครื่องโรงไฟฟ้าวังน้อย หน่วยที่ 3 ซึ่ง กฟผ.ยืนยันไม่กระทบกับผู้ใช้ไฟอย่างแน่นอน”

ด้าน นายโชคชัย ธนเมธี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้มีความจำเป็นต้องปิดสถานีให้บริการ NGV 1 สถานี และจะเร่งดำเนินการจ่ายก๊าซย้อนหลังให้กับลูกค้าอุตสาหกรรม บริเวณนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง และ นิคมอุตสาหกรรมเอเชียสุวรรณภูมิ ขณะที่จะได้ประสานไปยัง กฟผ. ในการจ่ายก๊าซเพิ่มเติมให้กับโรงงานไฟฟ้าในพื้นที่อื่น เพื่อให้การผลิตไฟฟ้ามีความต่อเนื่อง

นายโชคชัย ระบุด้วยว่า ปตท.ได้ร่วมกับจังหวัดสมุทรปราการ จัดตั้งศูนย์ประสานงานช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ในการจัดหาที่พักชั่วคราว พร้อมดูแลรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลที่เกิดขึ้นทั้งหมด สำหรับผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิตด้วย

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม ได้แสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อครอบครัวผู้เสียชีวิตและประชาชนผู้ได้รับบาดเจ็บ และผู้ได้รับผลกระทบ พร้อมเร่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสืบหาสาเหตุท่อก๊าซรั่ว จนเกิดเพลิงไหม้ และเหตุระเบิดดังกล่าวโดยเร็ว

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง