ตำรวจเร่งหามือพ่นข้อความคุกคามความสงบ ในอำเภอท่าฉาง สุราษฎร์ธานี

ในวันอังคาร (19 ม.ค. 2559) นี้  เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 8 และฝ่ายข่าวกรอง ได้เร่งหาตัวมือฉีดสเปรย์บนถนนในจังหวัดสุราษฎร์ธานีเป็นอักษรภาษาอังกฤษ-อาหรับ และภาษาพม่า ที่มีข้อความเป็นเชิงคุกคามความสงบของบ้านเมือง

ทั้งนี้ ร.ต.ท. วิชญ์พล ทิพย์ชิต พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจประจำเสวียด อำเภอท่าฉาง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้รับแจ้งในวันนี้ว่า พบตัวอักษรลักษณะคล้ายอักษรอาหรับผสมกับภาษาอังกฤษคำว่า RKK และอักษรภาษาพม่า พ่นด้วยสีแดง บนถนนภายในหมู่บ้านของหมู่ที่ 6 ตำบลเสวียด จำนวน 3 จุด จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบ

จากการตรวจสอบพบข้อความทั้ง 3 จุด เขียนผิดหลักไวยากรณ์ โดยจุดแรกเป็นภาษาภาษาอาหรับผสมกับภาษาอังกฤษ แปลว่า “ยินดีต้อนรับการมาเยือนของนักรบ RKK” จุดที่ 2 ห่างจากจุดแรก 1 กิโลเมตร เป็นภาษาพม่า แปลว่า "ค้ายาบ้า" จุดที่ 3 ห่างจากจุดแรก 500 เมตร เป็นภาษาพม่า แปลว่า "เส้นทางตายระวังให้ดี"

พล.ต.ท. เทศา ศิริวาโท ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8  กล่าวว่า ในพื้นที่ ยังไม่พบความเคลื่อนไหวของผู้ก่อความไม่สงบที่มาจากสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และคาดว่าอาจจะมีชาวพม่าที่มีความรู้ภาษาอาหรับบ้าง ฉีดพ่นตัวอักษรเพื่อแสดงความไม่พอใจต่อกรณีการจับกุมชาวพม่าสี่คนในคดีแทงนักเรียนหญิงในจังหวัดระนองเมื่อเร็วๆ นี้ และได้เร่งตามตัวผู้พ่นข้อความดังกล่าวมาดำเนินคดี

“ยังไม่พบความเคลื่อนไหวของกลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่ มีเพียงกลุ่มแรงงานชาวพม่าที่เข้าไปรับจ้างกรีดยาง อาจเป็นไปได้ว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ของกลุ่มแรงงานชาวพม่าที่มีความรู้เกี่ยวกับภาษาอาหรับ” พล.ต.ท. เทศา กล่าว

“เนื่องจากในขณะนี้ หน่วยงานการข่าวความมั่นคงได้รายงานสถานการณ์การสร้างกระแสต่อต้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ และกระบวนการยุติธรรมไทยเกี่ยวกับการจับกุมแรงงานชาวพม่า 4 คน ที่ก่อเหตุใช้อาวุธมีดแทง น.ส. อรวี สำเภาทอง นักเรียนวัย 18 ปี ที่ จังหวัดระนอง ซึ่งขณะนี้ คดีอยู่ระหว่างการไต่สวนในชั้นศาล” พล.ต.ท. เทศา กล่าวเพิ่มเติม

พล.ต.ท. เทศา กล่าวเพิ่มเติมว่า ชาวพม่าพยายามส่งต่อข้อความในโลกโซเซียลของชาวพม่าให้ร่วมกันสร้างความปั่นป่วนให้ทางการไทย หลังจากที่เคยพยายามสร้างสถานการณ์จับแพะในคดีฆ่านักท่องเที่ยวบนเกาะเต่าแต่ไม่สำเร็จ

“ได้ประสานกับหน่วยข่าวความมั่นคง มณฑลทหารบกที่ 45 และหน่วยข่าวกรองในการประสานข้อมูล เพื่อตรวจสอบความแน่ชัดของข้อมูล และเร่งรัดชุดสืบสวน เร่งสืบหาตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป” พล.ต.ท. เทศา กล่าว