ผู้ก่อความไม่สงบยิง“หัวระเบิดแสวงเครื่อง”ตกกลางบ้านคนที่บาเจาะ นราธิวาส
2016.02.05

ในวันศุกร์ (5 กุมภาพันธ์ 2559) นี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน จังหวัดนราธิวาส ได้เดินทางไปที่บ้านหมู่ 3 ตำบลกาเยาะมาตี อำเภอบาเจาะ จังหวัดนราธิวาส เพื่อทำการพิสูจน์วัตถุต้องสงสัยมีลักษณะคล้ายหัวจรวดติดระเบิด หลังจากที่ได้รับการแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่ว่า มีผู้ไม่หวังดียิงวัตถุดังกล่าวเข้าไปในบ้านของประชาชน
เมื่อถึงบ้านหลังที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบวัตถุประกอบด้วยท่อเหล็กทรงกลม เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 4 นิ้ว มีลักษณะส่วนหัวเรียวแหลมคล้ายจรวด ตกอยู่บริเวณห้องโถงกลางของบ้านพักของนายมูฮัมมะรุสดี เจ้าของบ้าน ซึ่งได้ให้ข้อมูลว่า วัตถุชิ้นนี้ถูกยิงเข้ามาในบ้านเมื่อเวลาประมาณเที่ยงคืนที่ผ่านมา
หลังจากทำการตรวจสอบเบื้องต้น เจ้าหน้าเก็บกู้ระเบิดจึงได้เคลื่อนย้ายวัตถุดังกล่าว ไปที่สนามฟุตบอลโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม ที่ตั้งอยู่ในบริเวณใกล้เคียง และดำเนินการทำลายทิ้ง ซึ่งพบว่าวัตถุชิ้นดังกล่าว เป็นระเบิดแสวงเครื่องน้ำหนักประมาณ 8-10 กิโลกรัม ภายในมีดินระเบิดและลูกปืนเหล็กบรรจุอยู่ แต่ไม่มีระบบจุดระเบิดที่สมบูรณ์ เจ้าหน้าที่ได้จุดระเบิดทำลาย
นอกจากนั้น ในการตรวจพื้นที่รอบสนามฟุตบอล เจ้าหน้าที่่ได้พบหลักฐานเพิ่มเติม เป็นวัตถุคล้ายฐานยิงระเบิดถูกฝังลงไปในดินลึกประมาณ 70 เซนติเมตร วัตถุดังกล่าวทำจากท่อ พี.วี.ซี. ความยาว 1 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลาง 5 นิ้ว ภายในท่อมีคราบไหม้ ด้านนอกถูกเชื่อมต่อเข้ากับสายไฟฟ้าและถ่าน คาดว่าใช้สำหรับการจุดชนวน เจ้าหน้าที่จึงเก็บชิ้นส่วนทั้งหมดไว้เป็นหลักฐานขยายผลสืบสวนต่อไป
เจ้าหน้าที่ตรวจสอบท่อพีวีซี ที่มีลักษณะการดัดแปลงเป็นเหมือนท่อยิงจรวด ที่คนร้ายใช้ยิงจรวดติดหัวรบจากสนามฟุตบอลโรงเรียนสอนอิสลามของเอกชน 5 ก.พ. 2559 (เบนาร์นิวส์)
เหตุการณ์ครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิดท่านหนึ่งสันนิษฐานว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการทดลองยิงหัวระเบิดของกลุ่มคนร้าย โดยที่ไม่มีเป้าหมายจะสร้างความเสียหายต่อชีวิตของประชาชน และชีวิตของเจ้าหน้าที่ แต่การทดลองเกิดการผิดพลาด ทำให้ระเบิดถูกยิงไปตกในบ้านของประชาชนที่อยู่ใกล้เคียงโดยไม่ตั้งใจ เคราะห์ดีที่ระเบิดลูกดังกล่าวไม่เกิดระเบิดขึ้น ทำให้ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต
“ผมเชื่ออีกว่าผู้ไม่หวังดีกลุ่มนี้ พยายามที่จะปรับกลยุทธ์ในการสร้างความไม่สงบ โดยเปลี่ยนจากวิธีวางระเบิดมาเป็นวิธียิงระเบิดแทน เนื่องจากการวางระเบิดมีความเสี่ยงที่จะทำให้ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้ หรือถูกวิสามัญ และการยิงระเบิดน่าจะทำให้สะดวกในการหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่มากกว่า” เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิด กล่าว
การพบระเบิดแสวงเครื่องลักษณะคล้ายจรวดครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากที่ก่อนหน้านี้ ขบวนการพูโล เอ็มเคพี (PULO MKP) ได้ประกาศว่า ขบวนการของพวกเขาสามารถผลิตระเบิดลักษณะจรวดเป็นผลสำเร็จแล้วนั่นเอง ซึ่งระเบิดดังกล่าว ถูกพบว่าใช้ในพื้นที่ภาคใต้เป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 28 มกราคม 2559 ในพื้นที่อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี