ศาลสั่งประหารชีวิต “อิบรอเฮม สุไหงบารู” ฐานยิงพระ-ทหาร

ในวันจันทร์นี้ พันเอกธนาวีร์ สุวรรณรัตน์ รองโฆษก กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้แถลงข่าวว่า เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ศาลจังหวัดปัตตานี มีคำพิพากษาตัดสินประหารชีวิต นายอิบรอเฮม สุไหงบารู ผู้ต้องหาคดีความมั่นคงหลายคดีในระหว่าง ปี 2556 ถึง 2557 โดยได้ก่อเหตุยิงทหารพราน 3 นาย รวมทั้งพระสงฆ์และชาวบ้าน อีกรวม 4 ราย

และในอีกคดีหนึ่ง เมื่อวันที่ 6 เดือนกรกฎาคมนี้ ศาลปัตตานี ได้สั่งประหารชีวิตกลุ่มก่อความไม่สงบอีก 3 ราย ในคดีอั้งยี่ซ่องโจรและฆ่าผู้อื่น แต่ได้รับการลดโทษหนึ่งในสาม เหลือเพียงจำคุกตลอดชีวิต

"ตามที่พนักงานอัยการเป็นโจทย์ยื่นฟ้องนายอิบรอเฮม สุไหงบารู ในความผิดคดีลอบยิงเจ้าหน้าที่ทหารพราน กองร้อยทหารพราน 2208 เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2556 พื้นที่บ้านกอตอรานอ หมู่ที่ 1 ตำบลคลองใหม่ อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารพรานเสียชีวิต 3 นาย บาดเจ็บ 1 นาย และคดีอื่นๆ ตามหมาย ป.วิอาญา จำนวน 3 หมายนั้น เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2561 ศาลชั้นต้นจังหวัดปัตตานี ได้มีคำพิพากษาตัดสินประหารชีวิตนายอิบรอเฮม สุไหงบารู" พ.อ.พันเอกธนาวีร์ กล่าวแก่ผู้สื่อข่าวในวันนี้

นายอิบรอเฮม สุไหงบารู ได้เคยก่อคดีหลายคดีในห้วงเดือนสิงหาคม 2556 ถึงกุมภาพันธ์ 2557 โดยมีหมายจับ ป.วิอาญา จำนวน 3 หมาย คือ กรณีปล้นชิงทรัพย์รถยนต์ ในพื้นที่ หมู่ที่ 6 ตำบลบ่อทอง อำเภอหนองจิก เมื่อ 1 สิงหาคม 2556 กรณียิงเจ้าหน้าที่ทหารพราน กองร้อยทหารพรานที่ 2208 เสียชีวิต 3 นาย บาดเจ็บ 1 นาย เมื่อ 12 กันยายน 2556 ที่ถูกพิพากษาแล้วดังกล่าวข้างต้น และกรณียิงพระสงฆ์ และราษฎร เสียชีวิต 4 ราย บาดเจ็บ 7 ราย ในพื้นที่ ตำบลแม่ลาน อำเภอแม่ลาน จังหวัดปัตตานี เมื่อ 13 กุมภาพันธ์ 2557

"จากพฤติกรรมที่ปรากฏของจำเลยที่ได้ก่อเหตุถึง 3 คดี เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 7 ราย ได้รับบาดเจ็บ 8 ราย และทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับความเสียหาย โดยในห้วงที่ผ่านมา ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องได้ให้การช่วยเหลือเยียวยาแก่ครอบครัวของผู้สูญเสียดังกล่าวไปเรียบร้อยแล้ว” พ.อ.พันเอกธนาวีร์กล่าว

“สำหรับผู้กระทำความผิด ก็จะต้องถูกลงโทษ ซึ่งผลคำพิพากษาขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล ซึ่งได้พิจารณาตามพยานหลักฐานทั้งพยานบุคคล พยานวัตถุ และพยานแวดล้อม ที่ทำให้ศาลเชื่อว่าจำเลยกระทำความผิดจริง จึงมีคำสั่งพิพากษาลงโทษดังกล่าว โดยจำเลยยังมีสิทธิในการยื่นขออุทธรณ์ภายในระยะเวลาที่กฎหมายได้กำหนดไว้" พ.อ.พันเอกธนาวีร์กล่าวเพิ่มเติม

ผู้สื่อข่าวเบนาร์นิวส์ ได้เดินทางไปที่บ้านของนายอิบรอเฮม เพื่อขอสัมภาษณ์ แต่เจ้าตัวไม่อยู่บ้าน โดยเพื่อนบ้านของนายอิบรอเฮม ได้กล่าวแก่เบนาร์นิวส์ว่า นายอิบรอเฮม ไม่ได้เปิดเผยตัวกับเพื่อนบ้านในละแวกใกล้เคียงบ่อยครั้งนัก

"อิบรอเฮม ไม่ค่อยได้เห็น นานๆ ครั้ง ที่จะเจอ อีกอย่างเขาไม่อยู่บ้านนานแล้ว ตอนหลังมานี้ ทราบว่าถูกจับ แต่ผมไม่รู้เรื่องการที่ศาลสั่งประหาร ส่วนประวัติเขา ก็ไม่แน่ใจ ทราบแค่ว่าเขาเป็นคนดีชอบช่วยเหลือคนอื่น" เพื่อนบ้านของนายอิบรอเฮม กล่าวโดยไม่ประสงค์ออกนาม

ทางด้าน พ.อ.พันเอกธนาวีร์ กล่าวย้ำว่า กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ยังคงยึดมั่นในหลักการบังคับใช้กฎหมาย และแนวทางสันติวิธีด้วยความเที่ยงธรรม และตามติดทุกคดี เพื่อนำผู้กระทำความผิดมาลงโทษตามกฎหมาย

ศาลชั้นต้นสั่งประหารชีวิตสามผู้ก่อเหตุรุนแรง แต่ลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต

พ.อ.พันเอกธนาวีร์ กล่าวว่า นอกจากนี้ เมื่อ 6 ก.ค.61 ศาลชั้นต้น พิพากษาประหารชีวิต นายอาหะหมัดซาฮาบูดิง สามุยามา จำเลยที่ 1 นายอาห์หมัดรอมซีย์ ดาโอะ จำเลยที่ 2 และนายมูฮำหมัดซุกรี อับดุลฮานุง จำเลยที่ 3 ฐานความผิดเกี่ยวกับก่อการร้าย อั้งยี่ ซ่องโจรฯ และ ฆ่าผู้อื่น เนื่องจากการดำเนินกรรมวิธีซักถามในกระบวนการซักถามสามารถนำไปสู่พยานหลักฐานในการก่อเหตุได้ และจำเลยทั้งสามให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาลดโทษให้หนึ่งในสาม คงเหลือจำคุกตลอดชีวิต

ซึ่งเมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 16 ธ.ค. 2556 ทั้งสามรายได้ก่อเหตุยิงนายทิณกรณ์ บุญเอียด อายุ 47 ปี เสียชีวิต ในขณะขับรถยนต์กระบะส่งของ เหตุเกิดที่บริเวณพื้นที่  ม.4 ต.เมาะมาวี อ.ยะรัง จ.ปัตตานี

ชาวบ้านในพื้นที่ ต่างได้แสดงความชื่นชมต่อการตัดสินลงโทษผู้กระทำผิด

"คนทำผิดได้รับโทษก็ถูกต้อง บ้านเมืองจะได้สงบ เชื่อว่าทุกคนไม่ต้องการความไม่สงบและต่างต้องการอยู่อย่างสงบ" นางจันทร์ทา มณีรื่น ชาวบ้านในจังหวัดยะลา กล่าวแก่เบนาร์นิวส์

นายดอเลาะ กาแจ ชาวจังหวัดปัตตานี กล่าวสนับสนุนเช่นกันว่า "เมื่อสามารถลงโทษคนทำผิดได้ ชาวบ้านก็จะเห็นคนที่คิดจะทำผิดก็ไม่กล้า ที่สำคัญต้องใช่คนผิดจริงๆ สังคมก็ดีใจ ถ้าสามารถเอาคนผิดมาลงโทษได้ ไม่ว่าคดีไหนควรทำจริงจัง โดยเฉพาะเรื่องยาเสพติดและเรื่องความมั่นคง"