ศาลปกครองสูงสุดยืนคำสั่ง ห้ามตำรวจขวางการเดินมิตรภาพ

วิลาวัลย์ วัชรศักดิ์เวช
2018.02.15
กรุงเทพฯ
180215-TH-march-court-1000.jpg ตัวแทนเครือข่ายประชาชน People Go Network พร้อมทีมทนายความ ชูมือดีใจหลังศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งยืนตามศาลปกครองกลาง ที่หน้าอาคารศาลปกครอง วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2561
ภาพจากเฟซบุ๊ก: People Go Network

ตุลาการศาลปกครองกลางอ่านคำสั่งศาลปกครองสูงสุด ในวันพฤหัสบดีนี้ ยืนตามคำสั่งศาลปกครองกลางไม่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจกระทำการปิดกั้น ขัดขวางกิจกรรมเดินมิตรภาพ และให้ดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกแก่ผู้ชุมนุม ตามอำนาจหน้าที่ที่กฎหมายกำหนดโดยเคร่งครัด จนเสร็จกิจกรรม ขณะที่ทีมทนายความและตัวแทนเครือข่ายระบุยังมีการคุกคาม ขัดขวางการร่วมชุมนุม

คดีนี้ นายเลิศศักดิ์ คำคงศักดิ์ กับพวกรวม 4 คน ฟ้องสำนักงานตำรวจแห่งชาติกับพวกรวม 7 คน ในคดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการไม่ชอบด้วยกฎหมาย และการกระทำละเมิดของเจ้าหน้าที่ของรัฐอันเกิดจากการใช้อำนาจตามกฎหมาย กรณีที่ เครือข่ายประชาชน People Go Network จัดกิจกรรม “We Walk…เดินมิตรภาพ” จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ถึงจังหวัดขอนแก่น ระหว่างวันที่ 20 มกราคม ถึงวันที่ 17 กุมภาพันธ์

แต่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจปิดกั้น ขัดขวาง คุกคาม ตั้งแต่เริ่มต้นออกเดินทาง จึงขอให้ศาลออกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวจนกว่ากิจกรรมจะเสร็จสิ้น ซึ่งศาลปกครองกลางมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว เมื่อวันที่ 26 มกราคม ที่ผ่านมา ไม่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจกระทำการปิดกั้น หรือ ขัดขวางกิจกรรมเดินมิตรภาพ พร้อมทั้งให้อำนวยความสะดวกแก่ผู้ชุมนุมตามอำนาจที่กฎหมายกำหนดให้เคร่งครัดจนสิ้นกิจกรรม

ต่อมา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวต่อศาลปกครองสูงสุด โดยอ้างว่าไม่มีการปิดกั้นขัดขวางการเดินมิตรภาพ และให้ศาลเพิกถอนคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ซึ่งในวันนี้ ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งยืนตามคำสั่งศาลปกครองกลาง

“จากพยานหลักฐานมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่า การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 มีการปิดกั้น ขัดขวาง และทำให้ผู้ฟ้องคดีทั้งสี่ และผู้เข้าร่วมชุมนุมรู้สึกหวาดกลัว ซึ่งอาจมีการกระทำซ้ำหรือกระทำต่อไปในเหตุที่ถูกฟ้องร้อง อันกระทบต่อสาระสำคัญของสิทธิเสรีภาพในการชุมนุม การมีคำสั่งกำหนดมาตรการหรือวิธีการคุ้มครอง เพื่อบรรเทาทุกข์ชั่วคราวของศาล ไม่ทำให้เกิดปัญหาและอุปสรรคแก่การบริหารงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติแต่อย่างใด" คำสั่งศาลปกครองสูงสุด ระบุ

"แต่ระหว่างที่มีการชุมนุม หากเจ้าพนักงานตำรวจเห็นว่ามีการกระทำใดๆ อันนำไปสู่การชุมนุมสาธารณะที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เจ้าพนักงานตำรวจก็ชอบที่จะพิจารณากำหนดเงื่อนไข หรือมีคำสั่งหรือประกาศให้มีการแก้ไขหรือร้องขอต่อศาลให้มีคำสั่งเลิกชุมนุมหรือสั่งให้ยุติการกระทำนั้น หรือดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ เพื่อบังคับการให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการชุมนุมสาธารณะหรือกฎหมายอื่นได้ ศาลปกครองสูงสุดจึงมีคำสั่งยืนตามคำสั่งของศาลปกครองกลาง” คำสั่งศาลฯ ระบุต่อ

ทีมทนายความ และตัวแทนเครือข่ายประชาชน People Go Network ที่มาร่วมฟังคำสั่งศาลปกครอง ต่างแสดงความยินดีหลังฟังคำสั่งศาลปกครอง โดยให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า ศาลปกครองสูงสุดได้ยืนยันในหลักการของกลุ่ม People Go ที่มีการแจ้งการชุมนุมโดยถูกต้อง ซึ่งเป็นสิทธิเสรีภาพในการชุมนุมตามรัฐธรรมนูญปัจจุบัน

“ศาลได้กล่าวอ้างถึงสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญปี 2560 ว่า เป็นเสรีภาพในการแสดงออกทางความเห็น หรือ เสรีภาพทางการชุมนุม ที่ได้รับการคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ รวมถึงกติการะหว่างประเทศเรื่องสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมืองซึ่งประเทศไทยผูกพันอยู่ด้วย” นายสุรชัย ตรงงาม ทนายความมูลนิธินิติธรรมสิ่งแวดล้อม ในฐานะทนายความของกลุ่ม People Go กล่าวกับสือมวลชน

ทั้งนี้ นายอัมรินทร์ สายจันทร์ หนึ่งในทีมทนายของกลุ่ม People Go ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติม แสดงความกังวลว่า แม้ว่าจะเหลือเวลาอีกสองวันที่จะครบกำหนดการทำกิจกรรม แต่ที่ผ่านมาพบว่ายังมีการข่มขู่ คุกคาม ผู้ที่มาร่วมชุมนุม หรือ เคยมาร่วมชุมนุม

“ทีมเดินมิตรภาพในพื้นที่รายงานว่า มีกรณีที่เจ้าหน้าที่ติดตามผู้ที่มาร่วมชุมนุม ร่วมกิจกรรม ถึงที่บ้านในจังหวัดต่างๆ พร้อมกดดันว่าไม่ให้มาร่วมกิจกรรมอีก หรือ ร่วมทำงานกับเครือข่ายอีก สมาชิกเครือข่ายที่พะเยาก็โดนตั้งข้อหาดำเนินคดีเรื่องชุมนุมทางการเมือง รวมถึงการกดดันไม่ให้เราใช้สถานที่ต่างๆ ยังมีอุปสรรคพอสมควร” นายอัมรินทร์ สายจันทร์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม ทีมทนายจะได้ดำเนินการเอาคำสั่งศาลปกครองสูงสุดไปแจ้งให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องรับทราบ และปฏิบัติตามคำสั่งศาลปกครองต่อไป

“ผมยืนยันว่า คำสั่งศาลปกครองสูงสุด เป็นคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษาจนถึงที่สุด และจะมีการคุ้มครองจนกว่าจะเสร็จสิ้นการชุมนุม ซึ่งเหลือเวลาอีกเพียงสองวัน... ดังนั้น การดำเนินการต่อจากนี้ในอีก 1-2 วัน หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวต้องเคารพคำสั่งศาลปกครองสูงสุด โดยต้องไม่ทำการปิดกั้นขัดขวาง และอำนวยความสงบตามคำสั่งของศาลสูงด้วย แม้ว่าเราจะยังพบว่ายังมีการปิดกั้นขัดขวางอยู่ก็ตาม” นายสุรชัย ทนายความกล่าวเพิ่มเติม

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง