หน่วยความมั่นคงเร่งฝึกยุทธวิธีเตรียมพร้อม หลังทหารจากภาคอื่นถอนกำลัง

ทีมข่าวเบนาร์นิวส์
2016.08.18
นราธิวาส
TH-military-620 ทหารพรานและเจ้าหน้าที่หน่วยอื่นๆ ฝึกยุทธวิธี ในอำเภอศรีสาคร นราธิวาส วันที่ 18 สิงหาคม 2559
เบนาร์นิวส์

ในวันพฤหัสบดี (18 สิงหาคม 2559) นี้ ที่บริเวณสนามฝึกประจำหน่วยเฉพาะกิจ 49 อำเภอศรีสาคร จังหวัดนราธิวาส กำลังเจ้าหน้าที่ ทหาร ตำรวจ อาสาสมัครในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้เข้าฝึกเตรียมความพร้อมยุทธวิธีอย่างเข้มขัน เพื่อรับมือกับสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ หลังจากที่กองกำลังจากภาคอื่นๆ ทยอยออกจากพื้นที่

พ.อ.วิชาญ สาริกะพันธ์ ผบ.ฉก.ทพ.49 กล่าวในวันนี้ว่า การฝึกครั้งนี้ มีเจ้าหน้าที่เข้าร่วมทั้งหมด 198 นาย และจะฝึกรุ่นละ 4 วัน

"การฝึกนับว่ามีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งมุ่งเน้นให้ผู้เข้ารับการฝึกเกิดทักษะ ความรู้ ความชำนาญและเกิดความมั่นใจในการใช้อาวุธ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาวุธประจำกาย เจ้าหน้าที่ของรัฐถือว่าเป็นกำลังที่มีความสำคัญในการดูแลความปลอดภัย ทั้งในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่” พ.อ.วิชาญ กล่าวแก่ผู้เข้าฝึก

“หากเจ้าหน้าที่ของรัฐถูกลอบทำร้ายและเกิดการสูญเสีย นั่นแสดงให้เห็นว่าอำนาจรัฐถูกบั่นทอน และถูกทำลายในที่สุด ความเชื่อมั่นและความศรัทธาของพี่น้องประชาชนที่มีต่อเจ้าหน้าที่ก็จะเสื่อมถอยลงเช่นกัน” พ.อ.วิชาญ กล่าวเพิ่มเติม

เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2559 ที่ผ่านมา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ ถึงการปรับยุทธวิธีใน 3 จังหวัดภาคใต้ ว่าจะทยอยถอนกำลังทหารจากกองทัพภาคอื่นกลับที่ตั้ง เริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคม 2559 และมอบหมายให้แม่ทัพภาคที่ 4 รับผิดชอบพื้นที่ทั้งหมด

“เรายังใช้กำลังทหารและทหารพรานอยู่ แต่งบประมาณที่ลดลง ก็จะนำไปใช้ในส่วนของการพัฒนาให้มากขึ้น” พล.อ.ประวิตร กล่าวแก่ผู้สื่อข่าวในระหว่างที่ลงมาเยี่ยมพื้นที่

ทั้งนี้ จะมีการถอนกำลังทหารหลักจากภาคที่หนึ่ง ภาคที่สอง และภาคที่สาม กลับที่ตั้งรวมสามกองพัน หรือประมาณเกือบสามพันนาย

ในเรื่องการทดแทนกำลังพลนั้น กองทัพภาคที่ 4 ได้เตรียมการไว้สองรูปแบบ คือ การย้ายต้นสังกัด และการรับสมัครกำลังพลเพิ่ม เช่น กองพลทหารราบที่ 15 ได้เปิดรับสมัครสอบ เพื่อบรรจุเข้ารับราชการทหาร จำนวน 319 อัตรา เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2559

นอกจากนี้ หน่วยทหารพรานในพื้นที่ ยังเปิดรับสมัครกำลังทหารพรานเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแต่ละหน่วยในพื้นที่จะมีการรับสมัครอย่างน้อย 40-100 อัตรา

นอกจากนี้ จะมีกรมทหารพรานนาวิกโยธิน กองทัพเรือ ที่จะลงพื้นที่ดูแล 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตามนโยบายของรัฐบาลอีกด้วย

อส.ทพ.อาหามะ (ขอสงวนนามสกุล) เจ้าหน้าที่ทหารพรานจาก จ.ปัตตานี กล่าวว่า การฝึกยุทธวิธีอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นการสร้างความมั่นใจในการเตรียมพร้อม ที่ทำให้กำลังพลสามารถรบและป้องกันตัวเองจากเหตุการณ์ความไม่สงบได้ดี และสามารถดูแลประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

“ผมมั่นใจว่ากำลังหลักที่มีอยู่ในพื้นที่จะสามารถรับมือกับสถานการณ์ความไม่สงบที่อาจเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ได้" อส.ทพ.อาหามะ กล่าวแก่เบนาร์นิวส์

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง