บีอาร์เอ็น-จนท.ไทยโต้แย้งอัตลักษณ์ศพยาห์รี
2022.10.27
ปัตตานี และกัวลาลัมเปอร์

ขบวนการบีอาร์เอ็น ยืนยันว่าศพชายที่พบในแม่น้ำโกลก จังหวัดนราธิวาส เป็นหนึ่งในระดับแกนนำกองกำลังปฏิบัติการ แม้ว่าจะไม่ได้มีผลการตรวจดีเอ็นเอยืนยันอย่างชัดเจนก็ตาม ขณะที่เจ้าหน้าที่ไทยปฏิเสธข้อกล่าวหาการอุ้มฆ่า
เมื่อสัปดาห์ที่แล้วขบวนการบีอาร์เอ็น ได้ส่งอีเมลแถลงการณ์ที่ใช้ถ้อยคำรุนแรงเกี่ยวกับการฆาตกรรมครั้งนี้มาให้เบนาร์นิวส์
“บีอาร์เอ็น ขอประณามอย่างรุนแรงต่อการวิสามัญฆาตกรรมประชาชนที่ต้องสงสัยว่ามีความสัมพันธ์กับบีอาร์เอ็น การกระทำดังกล่าวเป็นการละเมิดอนุสัญญาเจนีวา” ขบวนการบีอาร์เอ็นกล่าว
ขณะเดียวกัน นักเคลื่อนไหวในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า มีการลักพาตัวในลักษณะเดียวกันอย่างน้อย 6 ครั้ง ในช่วงเวลา 10 ปีที่ผ่านมา รวมทั้งคดีนายยาห์รี ดือเลาะ อายุ 42 ปี ซึ่งกลายเป็นศพลอยมาติดฝั่งไทย เมื่อปลายเดือนกันยายน ผ่านมานี้
พล.ท. ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวกับเบนาร์นิวส์เมื่อวันศุกร์ที่แล้วว่า ศพที่พบ ไม่ใช่นายยาห์รี สมาชิกบีอาร์เอ็น
“ตรวจสอบลายนิ้วมือของศพแล้วไม่ใช่ญาติหรือครอบครัวของเขาเลย เป็นคนละคนกัน... เนื้อเยื่อของศพที่เราตรวจ ไม่สามารถตรวจได้ แต่มันมีกลุ่มขบวนการบิดเบือนในความเป็นจริง เป็นการบิดเบือน” พล.ท. ศานติ กล่าวกับเบนาร์นิวส์ผ่านทางเมสเสจ
จากข้อมูลของแหล่งข่าวใกล้ชิดขบวนการบีอาร์เอ็น นายยาห์รี เป็นระดับหัวหน้ากองกำลังเยาวชนในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส ซึ่งได้หลบหนีไปอยู่ในรัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย ซึ่งมีพรมแดนติดกับประเทศไทย
“เนื้อเยื่อของศพที่เราตรวจ ไม่สามารถตรวจได้ จะต้องขุดศพออกมาเพื่อจะตรวจสอบอีกครั้งว่าเป็นศพของใคร แต่ทางเจ้าหน้าที่ยืนยันว่า ไม่ใช่ศพของนายยาห์รีแน่นอน ทั้งนี้ทั้งนั้น รอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจยืนยันชัดเจนดีกว่า” พล.ท. ศานติ กล่าว
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่ ไม่ได้ตอบคำถามเบนาร์นิวส์ ว่ามีการระบุอัตลักษณ์ของผู้ตายหรือไม่ นับตั้งแต่ พล.ท. ศานติ กล่าวความเห็นกับเบนาร์นิวส์ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
นายอาร์ฟาน วัฒนะ เลขาธิการกลุ่ม เดอะ ปาตานี ภูมิภาคนราธิวาส ซึ่งเป็นกลุ่มนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิในการกำหนดชะตาของพื้นที่ชายแดนใต้ กล่าวว่า มีผู้พบศพนายยาห์รี ลอยในแม่น้ำโกลกใกล้ฝั่งไทย เมื่อวันที่ 29 กันยายน สภาพศพบวม หน้าดำ เมื่อญาติไปดูศพที่โรงพยาบาลสุไหงโกลก ปรากฏว่าภรรยาสามารถระบุตัวสามีได้จากรอยแผลเป็นที่ขาศพ จึงสันนิษฐานไปว่า ศพนี้ คือนายยาห์รี ดือเลาะ
นางนูไรนิง ดือรอแม ภรรยานายยาห์รี ดือเลาะ กล่าวกับเบนาร์นิวส์ ในวันพฤหัสบดีนี้ว่า
“วันสองวันนี้ ก็ได้มีทางเจ้าหน้าที่มาที่บ้านบอกว่าให้ไปที่โรงพัก บอกจะขอขุดศพ เขาบอกว่าศพกับสามีเป็นคนละคนกัน แต่ฉันก็ยืนยันยังไง ๆ ไม่ยอมขุด ยืนยันว่าเป็นคนเดียวกัน เพราะจำได้ว่าเขาคือสามี จำได้จากแผลที่ขา”
นายอาร์ฟานและนางนูไรนิง กล่าวอีกว่า ได้ส่งเลือดจากศพไปตรวจสอบที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ แต่ไม่ผลการตรวจออกมา
ในวันนี้ เบนาร์นิวส์ได้ติดต่อโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์เพื่อสอบถามถึงผลการตรวจดีเอ็นเอ แต่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถให้ข้อมูลได้
ตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน
ขณะเดียวกัน อุสตาซ อานัส อับดุลเราะห์มาน หัวหน้าคณะของบีอาร์เอ็น ที่เข้าร่วมในการเจรจาสันติภาพที่มีมาเลเซียเป็นผู้อำนวยความสะดวก ยังยืนยันตามแถลงการณ์ของตนที่มีออกมาเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า ผู้ถูกอุ้มฆ่าเป็นสมาชิกของบีอาร์เอ็น
โดยอุสตาซ อานัส กล่าวว่า มีการระบุศพนายยาห์รี จากการตรวจดีเอ็นเอ โดยอาศัย “ข้อมูลจากครอบครัว ในขณะนั้น”
อุสตาซ อานัส กล่าวว่า กลุ่มบีอาร์เอ็นเชื่อถือข้อมูลจากทางครอบครัวผู้เสียชีวิตมากกว่าจากแหล่งอื่น ๆ แต่ไม่ได้กล่าวในรายละเอียดเพิ่มเติม
“เขาแน่ใจว่าศพที่พบคือ ยาห์รี ผมเข้าใจว่าทหารขอขุดศพยาห์รี แต่ทางครอบครัวไม่ยินยอม” อุสตาซ อานัส กล่าวกับเบนาร์นิวส์
ทั้งนี้ ในวันที่ 3 ตุลาคม 2565 ครอบครัวได้รับศพนายยาห์รี เพื่อนำมาประกอบพิธีที่กูโบร์บ้านพงกือปัส ต.ปะลุรู อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส
“ถ้าทหารว่าศพนั้นไม่ใช่ยาห์รี แล้วตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน เขาไม่ได้อยู่ในมาเลเซีย และในไทยด้วย” อุสตาซ อานัส กล่าว
ด้าน เจ้าหน้าที่ไทยปฏิเสธข้อกล่าวหา “เจ้าหน้าที่ไทยไม่ได้ลักพาตัวและสังหารนายยาห์รี แน่นอน” เจ้าหน้าที่ผู้ไม่ประสงค์ออกนาม เพราะไม่ได้รับมอบหมายหน้าที่ กล่าวกับเบนานิวส์เมื่อสัปดาห์ก่อน
ภาพไม่ระบุวันที่ของ นายยาห์รี ดือเลาะ (Yahree Dueloh หรือ Zahri Bin Abdullah) สมาชิกขบวนการบีอาร์เอ็น (เจ้าหน้าที่ทหารไทย)
เดอะ ปาตานี ได้สืบสวนการลักพาตัวบุคคลข้ามประเทศจากมาเลเซียในช่วง 10 ที่ผ่านมา ซึ่งพบการกระทำดังกล่าวรวม 6 ครั้ง นายอาร์ฟาน วัฒนะ เลขาธิการกลุ่ม กล่าว
“ในรอบสิบปี มีการเกิดขึ้น 6 เคส เฉพาะในรัฐกลันตัน ห้าเคสมีข้อมูลว่าเจ้าหน้าที่ไทยทำร่วมกับเจ้าหน้าที่นอกแถวมาเลย์ แต่เคสล่าสุดยังไม่มีข้อมูลชัดเจน” อาร์ฟานกล่าวกับเบนาร์นิวส์ทางโทรศัพท์
หลังจากการพบศพนายยาห์รี ได้เกิดเหตุรุนแรงในสามจังหวัดชายแดนใต้อีกสองครั้ง
เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2565 ได้เกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดโจมตีรถยนต์ของทหารพรานที่ 4905 ขณะเดินทางไปส่งกำลังพลที่ป่วย ณ โรงพยาบาลจะแนะ จังหวัดนราธิวาส ทำให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ 5 นาย เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าเป็นการก่อเหตุเพื่อสร้างสถานการณ์ความไม่สงบ (ภาพประกอบข้างบน)
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจถูกยิงได้รับบาดเจ็บ 2 นาย ขณะที่ผู้ต้องหาคดีความมั่นคงเสียชีวิต 1 ราย หลังเข้าปิดล้อมบ้านต้องสงสัยในพื้นที่ อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา
นับตั้งแต่การปะทุขึ้นของสถานการณ์สามจังหวัดชายแดนภาคใต้เมื่อวันที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2547 จนถึงเดือนมีนาคมปีนี้ มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7,344 คน และได้รับบาดเจ็บ 13,641 คน ในพื้นที่ที่คนส่วนใหญ่มีเชื้อสายมลายูและนับถือศาสนาอิสลาม ตามตัวเลขของศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ชายแดนภาคใต้
มาตาฮารี อิสมาแอ ในนราธิวาส ร่วมรายงาน