คดีไซยาไนด์ 6 เวียดนาม : ตร. เชื่อหนึ่งในผู้ตายเป็นผู้ก่อเหตุ

ภิมุข รักขนาม เรดิโอฟรีเอเชีย และนนทรัฐ ไผ่เจริญ
2024.07.17
กรุงเทพฯ
คดีไซยาไนด์ 6 เวียดนาม : ตร. เชื่อหนึ่งในผู้ตายเป็นผู้ก่อเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ ณ โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ ในกรุงเทพฯ วันที่ 16 กรกฎาคม 2567
ชาลินี ถิระศุภะ/รอยเตอร์

ตำรวจชุดคลี่คลายคดีชาวเวียดนาม 6 คนเสียชีวิตในโรงแรมย่านราชประสงค์ แถลงเบื้องต้นในวันพุธนี้ว่า ผู้ก่อเหตุฆาตกรรมชาวเวียดนามหกคน อาจเป็นหนึ่งในผู้เสียชีวิตด้วย เนื่องจาก พบหลักฐานว่ากลุ่มผู้เสียชีวิตมีความขัดแย้งกันเรื่องการลงทุนมูลค่า 10 ล้านบาทร่วมกัน

พล.ต.ต. นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ในฐานะหัวหน้าชุดคลี่คลายคดี เปิดแถลงต่อสื่อมวลชนเกี่ยวกับการสอบสวนคดีโดยเบื้องต้นเชื่อว่า รู้ตัวผู้ก่อเหตุแล้วจากหลักฐานที่มีอยู่

“มีแค่เพียง 6 คนที่เข้ามาพักตามบุ๊กกิ้งดังกล่าวนี้ ณ เวลานี้ ยืนยันได้ว่า มีเพียงแค่ 6 คน ที่เข้าไปห้องพักที่ 502 และก็เสียชีวิต ไม่มีบุคคลภายนอกใด ๆ เข้าไปห้องที่เกิดเหตุเลย ทางกล้องวงจรปิด” พล.ต.ต. นพศิลป์ กล่าว

กรณีที่เกิดขึ้นสืบเนื่องจากในช่วงเวลาประมาณ 16.30 น. ของวันอังคารที่ผ่านมา พนักงานโรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพฯ พบศพชาวเวียดนาม 6 คน เสียชีวิตภายในห้องพักเลขที่ 502 และภายในห้องไม่พบร่องรอยการต่อสู้ พบเพียงจานอาหาร และแก้วเครื่องดื่มซึ่งมีผงแปลกปลอมที่ก้นแก้ว

จากการตรวจสอบหลักฐาน ผู้เสียชีวิตประกอบด้วย 1. น.ส. ธิ เหงียน เฟือง อายุ 46 ปี สัญชาติเวียดนาม 2. น.ส. ธิ เหงียน เฟือง ลาน อายุ 47 ปี สัญชาติเวียดนาม 3. นายดิน ซาน ฟู อายุ 37 ปี สัญชาติเวียดนาม 4. นายฮุง ดัง วาน อายุ 55 ปี สัญชาติอเมริกัน 5. น.ส. เชอรีน ชอง อายุ 56 ปี สัญชาติอเมริกัน และ 6. นายฮง ฟาม ธาน อายุ 49 ปี สัญชาติเวียดนาม 

“พนักงานได้เข้าไปที่ห้องในห้วงเวลาประมาณ 13.51 และออกมาเวลาประมาณ 13.57 เข้าไปทั้งหมด หกนาที พบแค่เพียงผู้หญิงหมายเลขห้า(เชอรีน ชอง) ในการรับอาหาร และเครื่องดื่มคือ น้ำชา พนักงานบอกว่า จะขอชงชาให้ แต่ผู้หญิงหมายเลขห้าบอกว่า ไม่ต้อง เดี๋ยวจัดการเอง แสดงว่า หนึ่งในทั้งหมดหกศพมีผู้หนึ่งผู้ใด หนึ่งในหกนั่นแหละ ทำให้เกิดเรื่องนี้ขึ้นโดยใช้สารไซยาไนด์” พล.ต.ต. นพศิลป์ กล่าวเพิ่มเติม

พล.ต.ต. นพศิลป์ เปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมว่า หลังจากสอบปากคำญาติผู้เสียชีวิตทำให้เชื่อว่า แรงจูงใจการก่อเหตุอาจเกี่ยวข้องกับการลงทุนในธุรกิจโรงพยาบาลที่ประเทศญี่ปุ่น

“เบอร์สอง (ธิ เหงียน เฟือง ลาน) เหมือนเป็นนายหน้ามาชักชวนลงทุน ฝ่ายเบอร์หนึ่ง (ธิ เหงียน เฟือง) และเบอร์หก (ฮง ฟาม ธาน) ได้ร่วมลงทุนไปทั้งหมด 10 ล้านบาทไทย ได้มอบเงินให้กับผู้หญิงหมายเลขห้าไปแล้ว แล้วปรากฏว่า การดำเนินการไม่เป็นผล จึงได้มีการทวงถามมาตลอดอย่างต่อเนื่อง สุดท้ายมีการนัดหมายไปเคลียร์กันที่ญี่ปุ่น แต่ปรากฏว่าติดขัดเรื่องวีซ่า เลยมีการนัดหมายมาที่เมืองไทย” พล.ต.ต. นพศิลป์ กล่าว

พล.ต.ท. ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจระบุว่า ในการตรวจเชิงคุณภาพเชื่อว่าสารที่ทำให้คนทั้งหมดเสียชีวิตคือ สารไซยาไนด์

“เราตรวจพบ เบื้องต้น เป็นสารไซยาไนด์อยู่ที่ของเหลวในกาน้ำชา อยู่ที่คราบที่ติดอยู่ถ้วยกาแฟทั้งหกถ้วย แล้วก็รับทราบจากเก็บตัวอย่างเลือดจากศพผู้ชายที่เสียชีวิตที่นั่งพิงกำแพงอยู่ก็พบว่า เลือดมีส่วนผสมของไซยาไนด์ ในอาหารอื่น ๆ ก็คงทยอยตรวจว่าพบอะไรหรือไม่ สาเหตุการเสียชีวิตมาเกิดจากคนกลุ่มที่อยู่ในที่เกิดเหตุเท่านั้น” พล.ต.ท. ไตรรงค์ กล่าว

2024-07-16T142741Z_615680598_RC2EW8AZ1OS3_RTRMADP_3_THAILAND-HOTEL-CASUALTIES.JPG
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เดินทางมายังโรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ ในกรุงเทพฯ ซึ่งเกิดเหตุฆาตกรรมวางยาพิษชาวเวียดนาม 6 ราย วันที่ 16 กรกฎาคม 2567 (ชาลินี ถิระศุภะ/รอยเตอร์)

ตำรวจยังเปิดเผยอีกว่า ในกระเป๋าเดินทางทั้งหมดของผู้เสียชีวิตไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย และไทยยังได้ประสานงานกับสถานเอกอัครราชทูตเวียดนาม และสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย รวมถึงสำนักงานสอบสวนกลางของสหรัฐฯ (FBI) ให้เข้ามาร่วมตรวจสอบเรื่องนี้ด้วย 

ตร. ควรสอบสวนให้ละเอียดก่อนสรุปคดี

พ.ต.อ. วิรุตม์ ศิริสวัสดิบุตร อดีตรองผู้บังคับการ จเรตำรวจ และเลขาธิการสถาบันเพื่อการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ชี้ว่า การทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจควรรอบคอบ และไม่รีบร้อนจนเกินไป

“มีความพยายามไม่ให้กระทบกระเทือนภาพลักษณ์ประเทศมากเกินไปหรือไม่ เนื่องจากนายกฯ (นายเศรษฐา ทวีสิน) เดินทางไปที่เกิดเหตุทันที และให้สัมภาษณ์ว่า ไม่เกี่ยวกับประเด็นความไม่ปลอดภัย เพื่อไม่ให้กระทบกับการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจ จึงน่าคิดว่าประเด็นจะถูกบิดหรือไม่” พ.ต.อ. วิรุตม์ กล่าว

พ.ต.อ. วิรุตม์ ชี้ว่า ตำรวจต้องทำคดีให้กระจ่างเพื่อให้สังคมสิ้นสงสัย 

“สิ่งที่ตำรวจต้องสร้างความกระจ่าง คือ สาเหตุที่ตาย พฤติการณ์การตาย ต้องหาหลักฐานให้ได้ว่า ใช้ไซยาไนด์ปริมาณเท่าไหร่ถึงทำให้ตายพร้อมกันหลายคน ผสมในเครื่องดื่มได้อย่างไร เพราะรับประทานทีละคนไม่ได้ ต้องเชียร์ให้ทานพร้อมกัน คนกลุ่มนี้น่าจะระแวงกันอยู่แล้ว คนวางยาจึงต้องตายด้วย” พ.ต.อ. วิรุตม์ กล่าว

ด้าน นายรังสิมันต์ โรม สส. บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงประเด็นเดียวกันว่า รัฐบาลไทยควรสอบสวนเรื่องนี้อย่างละเอียดเพื่อไม่ให้กระทบภาพลักษณ์ และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

“เมื่อสถานที่เกิดเหตุมีเหตุการณ์ลักษณะแบบนี้ อาจทำให้มีความกังวลเรื่องความปลอดภัย ซึ่งผนวกกับที่มีการเสียชีวิตอย่างปริศนา จึงอาจทำให้เกิดความไม่มั่นใจในเรื่องความปลอดภัยของประเทศ แต่คิดว่าต้องให้เวลากับฝ่ายความมั่นคงในการตรวจสอบ หากเป็นเรื่องที่จะกระทบกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เราก็ต้องไปมองว่า หน่วยข่าวกรองของเราสามารถทราบล่วงหน้าได้หรือไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น” นายรังสิมันต์ กล่าว

นายรังสิมันต์ชี้ว่า “หน้าที่ขององค์กรตำรวจคือ ต้องสร้างความกระจ่างในเรื่องนี้ ไม่ใช่ทำให้เป็นเรื่องลับลมคมใน ไม่เช่นนั้นจะทำให้ไทยสูญเสียศรัทธาเรื่องกระบวนการยุติธรรม และทำลายภาพลักษณ์ของประเทศอย่างป่นปี้แน่นอน” 

การเสียชีวิตของคนเวียดนาม 6 คน เกิดขึ้นเพียงหนึ่งวันหลังจาก นายอี ควิน เบอดั้บ นักกิจกรรมชาวชาติพันธุ์อีเด เป็นผู้ร่วมก่อตั้งองค์กรมองตานญาดเพื่อความยุติธรรม (Montagnard Stand for Justice - MSJF) ชาวเวียดนาม ขึ้นไต่สวนคดีส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษกประเทศไทย

โดยนายอี ควิน ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจไทยควบคุมตัวในข้อหาวีซ่าหมดอายุ และอาศัยอยู่ในประเทศไทยเกินกว่าที่ได้รับอนุญาต ซึ่งรัฐบาลเวียดนามได้ติดต่อขอตัวผู้ร้ายข้ามแดนเนื่องจาก เขาถูกตัดสินจำคุก 10 ปี ลับหลัง ในข้อหาก่อการร้าย เพราะเจ้าหน้าที่เชื่อว่า มีส่วนในการบุกโจมตีสำนักงานสาธารณะ 2 แห่งในจังหวัดดั๊กลัก ประเทศเวียดนาม ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 9 คน เมื่อปี 2566 

ผู้สื่อข่าวเรดิโอฟรีเอเชีย ได้สอบถาม พล.ต.ท. ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ว่า มีความเป็นไปได้หรือไม่ที่คดีการเสียชีวิต 6 ศพ นี้เกี่ยวข้องกับคดีของนายอี ควิน ซึ่ง พล.ต.ท. ธิติ ระบุว่า “ยังไม่ได้รับรายงาน”

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง