ลุงกำนัน ร่วมเปิดพรรคใหม่ตามคำเรียกร้องมวลชน
2018.06.04
กรุงเทพฯ

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ซึ่งครั้งหนึ่งได้นำการชุมนุมขับไล่ นส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จนกลายเป็นการเปิดทางให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ยึดอำนาจรัฐบาลรักษาการในขณะนั้น ในปี 2557 ได้ร่วมเปิดตัวพรรคการเมือง รวมพลังประชาชาติไทย ไปเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมานี้ ซึ่งนายสุเทพเคยกล่าวว่า จะล้างมือทางด้านการเมืองมาก่อน
“เมื่อพี่น้องมาบอกผมว่า ตั้งพรรคการเมืองของประชาชน ผมก็รู้ว่าผมต้องเข้าร่วมกับพรรคนี้ และผมก็รู้ว่าอาจจะเป็นจุดด้อยจุดอ่อนของพรรคฯ นี้ ให้คนโจมตีว่าผมตระบัดสัตย์ ไหนว่าไม่ยุ่งกับการเมือง วันนี้ขอประกาศที่นี่เลยว่า ผมไม่ใช่คนอยู่เบื้องหลังพรรคฯ นี้ แต่ผมจะยืนเคียงข้างพี่น้องประชาชนผู้มีอุดมการณ์เดียวกัน” นายสุเทพ เทือกสุบรรณ กล่าวทั้งน้ำตา กลางที่ประชุมเปิดตัวพรรคการเมือง 'รวมพลังประชาชาติไทย'
ครั้งหนึ่ง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นผู้นำการชุมนุมประท้วงขับไล่รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เรียกตัวเองว่า คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบ อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือ กปปส. ซึ่งนายสุเทพ ให้สัญญากับผู้มาร่วมชุมนุมว่าได้ลาออกจากการทำงานการเมือง และจะไม่หวนคืนสู่เส้นทางการเมือง หรือมีตำแหน่งใดๆ ในการเมืองอีกต่อไป แต่ในการเปิดตัวพรรครวมพลังประชาชาติไทย วานนี้ นายสุเทพ ย้ำว่าจำเป็นต้องเข้ามาร่วมพรรคนี้ เพื่อสืบสานปณิธานของผู้ร่วมชุมนุมที่บาดเจ็บและเสียชีวิต โดยย้ำว่าจะไม่ลงสมัคร สส. ทั้งแบบแบ่งเขตและบัญชีรายชื่อ แต่จะเดินเท้าไปทั่วประเทศเพื่อชวนประชาชนมาร่วมกับพรรคฯ นี้ ในฐานะขี้ข้าของประชาชน ทันทีหลังจากที่ คณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (คสช.) อนุญาตให้ทำกิจกรรมทางการเมืองได้
ทั้งนี้ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน หลังการแถลงเปิดตัวพรรคการเมือง ยอมรับว่าตนเคยสนับสนุนพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐนตรี หลังรัฐประหาร เพราะต้องการให้เข้ามาแก้ไขวิกฤตประเทศชาติและปฏิรูปประเทศตามเจตนารมณ์ของประชาชน แต่หลังจากนี้ ต้องให้ประชาชนเป็นคนตัดสินใจ พร้อมย้ำว่า ไม่ได้ดูด หรือ ชักชวนใครมาร่วมพรรคฯ นี้
“ถามเร็วเกินไป (สนับสนุนใครเป็นนายก) เพราะตอนนี้หัวหน้าพรรคยังไม่มีเลย... แต่นับจากนี้ประชาชนจะเป็นผู้ตัดสิน” นายสุเทพ กล่าวกับสื่อมวลชน
“พรรคนี้ ไม่พูดกับใคร ไม่เคยชวน ไม่เคยดูดอดีตแกนนำ กปปส. มาร่วมพรรค” นายสุเทพกล่าวเพิ่มเติม
ในขณะที่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม กรณีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย ประกาศเปิดตัวร่วมก่อตั้งพรรคการเมือง และเคยระบุว่า จะสนับสนุนให้ พลเอกประยุทธ์ เป็นนายกฯ คนต่อไป
นักวิชาการให้ทรรศนะ แก่เบนาร์นิวส์ ว่าการเปิดตัวพรรคพลังประชาชาติไทย ที่มีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นผู้ร่วมก่อตั้งพรรค ไม่น่าจะมีผลกระทบหรืออิทธิพลต่อการเมืองไทย โดยที่เจ้าตัวไม่ได้มีบารมีมากพอที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงได้อีกแล้ว ในขณะที่สถานการณ์บ้านเมืองมีความมั่นคงมากขึ้น
“บารมีของคุณสุเทพตอนนี้ไม่เท่ากับตอนเป็นผู้นำ กปปส. เพราะหลังการรัฐประหาร ก็มีคนตั้งคำถามกับคุณสุเทพ และ กปปส. มากมาย และตัวคุณสุเทพเอง ไม่ได้เป็นแม่เหล็กที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงได้ทันที” นายฐิติพล ภักดีวานิช คณบดีคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ให้สัมภาษณ์เบนาร์นิวส์ทางโทรศัพท์
นายฐิติพล ยังให้ความเห็นเพิ่มเติมด้วยว่า การตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย ไม่ได้ส่งผลกระทบกับพรรคใดมากนัก ดูจากฐานเสียงที่ในภาคเหนือและภาคอีสาน ที่คุณสุเทพ ไม่น่าจะแย่งมาจากเพื่อไทยได้ หรือพรรคอนาคตใหม่ ที่พยายามดึงกระแสเยาวชนคนรุ่นใหม่ที่สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงได้มากกว่า ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์เอง น่าจะได้ผลกระทบเพราะมีอดีต สส. ของพรรคฯ หลายคนเข้าร่วมการชุมนุมกับ กปปส. แต่มีความเป็นไปได้มากกว่า สองพรรคนี้จะร่วมมือกัน
“คุณสุเทพ คงไม่ได้หวังจะได้คะแนนเสียงมากมายจนตั้งรัฐบาลได้ แต่หวังที่จะได้รวมกับพรรคอื่นในการจัดตั้งรัฐบาลมากกว่า” นายฐิติพล ระบุ
ด้าน นายอุเชนทร์ เชียงเสน จากมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ กล่าวว่า พรรคนี้ตั้งขึ้นมาเป็นการเฉพาะกิจ เกิดจากคนที่เล่นนอกกติกา เช่น คุณสุเทพ คุณสิริยะใส และแกนนำคนอื่น ที่เดินชุมนุมบนท้องถนนมาก่อน จึงเป็นเรื่องที่ดีที่จะกลับเข้ามาเล่นในกติกา แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ การประกาศอุดมการณ์ชัดเจนในการปกป้องและพิทักษ์รัฐธรรมนูญ เพราะถ้าหากคนเหล่านี้ไม่ชนะในการเล่นตามกติกากลับมาเล่นการเมืองแบบเดิมอีก
“พรรคฯ นี้น่าจะสร้างผลกระทบเล็กน้อยให้กับพรรคประชาธิปัตย์มากกว่า เพราะเป็นกำลังสำคัญของ กปปส. แต่ที่สุดในการเลือกตั้งอาจกลับไปสนับสนุนประชาธิปัตย์เหมือนเดิม เพราะเป็นขั้วเลยน่าจะยาก” นายอุเชนทร์ กล่าวให้สัมภาษณ์แก่เบนานิวส์