ดอน ตำหนิทูตฯ ต่างชาติ หลังยุ่งคดีธนาธร

ในวันอังคารนี้ นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวตำหนิสถานทูตต่างชาติ ที่ปล่อยให้ตัวแทน เดินทางไปสังเกตการณ์การรับฟังข้อกล่าวหาคดีของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่ สน.ปทุมวัน เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ซึ่งนายดอนมองว่า เป็นการกระทำที่ผิดหลักการทูต และเตรียมตักเตือนสถานทูตที่เกี่ยวข้อง

นายดอน กล่าวแก่ผู้สื่อข่าวในวันนี้ว่า การเดินทางไปสังเกตการณ์การรับฟังข้อกล่าวหาของนายธนาธร โดยตัวแทนสถานทูตฯ นั้น เป็นเรื่องที่ตามหลักสากลแล้วไม่ควรทำ ถือเป็นการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม

“ก็คงจะต้องคุยกับสถานทูตฯ จะเป็นการคุยหรือหนังสือก็ตาม เพราะสิ่งเหล่านี้มันไม่ได้เกิดในประเทศต่างๆ หรอก จะกี่สถานทูตในบ้านเขา มันไม่เกิดหรอก เพราะมันเกิดมันไม่ได้ แต่มันเกิดในบ้านเรา ก็ต้องถาม มาคุยกันว่าไอ้เรื่องที่เกิดในบ้านของเขาไม่ได้ แล้วมาเกิดในบ้านเรา ก็ต้องขอความร่วมมือไม่ให้มันเกิดอีก เพราะว่า มันผิดหลักการ ตั้งแต่หลักการของการทูตฯ ของสหประชาชาติ ของหลายๆ อย่างด้วยกัน” นายดอน กล่าว

“การที่สถานทูตฯ เข้ามาเกี่ยวข้องกับขบวนการยุติธรรม มันทำได้เพียงกรณีเดียว คือเรื่องคนของเขาเกิดมีปัญหาในบ้านเรา คือกรณีเดียวที่ทำได้เป็นสากล แต่ถ้าไม่ใช่เรื่องคนของเขาแล้ว ไม่มีประเทศไหนเขายอม… เอาเป็นว่า มันเป็นเรื่องที่ไม่ปฏิบัติกันหรอก แทรกแซงกระบวนการยุติธรรม” นายดอน กล่าวเพิ่มเติม

ประเด็นดังกล่าวสืบเนื่องจากปรากฎภาพชาวต่างชาติ 12 ประเทศหรือองค์กร เดินทางไปยังสถานีตำรวจนครบาล ปทุมวัน เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เพื่อร่วมสังเกตการณ์การเข้ารับทราบข้อกล่าวหาของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งข้อหาในความผิดเกี่ยวกับการยุยงปลุกปั่น ให้การช่วยเหลือผู้กระทำความผิด และการมั่วสุมชุมนุมเกินกว่าสิบคนขึ้นไป ซึ่งสื่อท้องถิ่นระบุว่า เป็นเจ้าหน้าที่และนักการทูตของประเทศออสเตรเลีย เบลเยียม แคนาดา ฟินแลนด์ ฝรั่งเศส เยอรมนี เนเธอร์แลนด์ อังกฤษ และสหรัฐอเมริกา รวมทั้งเจ้าหน้าที่จากสหภาพยุโรป และเจ้าหน้าที่สิทธิมนุษยชน สหประชาชาติ

ฝ่ายนายธนาธร ชี้แจงว่า มีเจ้าหน้าที่สถานทูตเยอรมนี ฝรั่งเศส นิวซีแลนด์ อังกฤษ เนเธอร์แลนด์ และคณะผู้แทนสหภาพยุโรปประจำประเทศไทย เข้าร่วมสังเกตการณ์

“เป็นที่ชัดเจนว่าสำหรับอียู เขาส่งหนังสือมาขอสังเกตการณ์ ส่วนสถานทูตอื่นๆ เรามีการแลกเปลี่ยนข้อมูลเป็นประจำอยู่แล้ว และเขาขอเข้าพบหลังจากการสอบสวน เพื่อสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับคดี” นางสาวพรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ กล่าวแก่เบนาร์นิวส์

“ประเด็นที่คุณดอนให้สัมภาษณ์ ค่อนข้างน่ากังวล เพราะเป็นไปไม่ได้ที่เจ้าหน้าที่ทางการทูตจะไม่รู้ธรรมเนียม หรือมารยาททางการทูต ยิ่งคนที่พูดเป็นถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศยิ่งน่ากังวล” นางสาวพรรณิการ์ กล่าวเพิ่มเติม

เบนาร์นิวส์ได้ติดต่อคณะผู้แทนสหภาพยุโรปและสถานทูตสหรัฐประจำประเทศไทย แต่ไม่ได้รับคำชี้แจงในเรื่องนี้

ด้าน พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวแก่สื่อมวลชนหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี วันเดียวกันว่า ไม่ทราบว่า เจ้าหน้าที่ชาวต่างชาติที่เดินทางไปสังเกตการณ์คดีของนายธนาธร เป็นเจ้าหน้าที่สถานทูตฯ จริงตามข่าวหรือไม่

“ตอนนี้ ให้กระทรวงการต่างประเทศเขาติดตามอยู่ พูดคุยกับสถานทูตฯต่างๆ ผมก็ไม่อยากให้มันกลายเป็นความขัดแย้ง เพราะเราต้องอยู่ในโลกใบนี้เช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ เราปฏิบัติตามทุกอย่างเรื่องรัฐธรรมนูญไทย กฎหมายไทย” พลเอกประยุทธ์ กล่าว

เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ได้เดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหา ที่สถานีตำรวจนครบาลปทุมวัน ท่ามกลางประชาชน และตัวแทนสถานทูต ร่วมสังเกตการณ์และให้กำลังใจ โดยนายธนาธร เข้าพบพนักงานสอบสวนเป็นเวลากว่า 3 ชั่วโมง และเปิดเผยว่า ตนเองถูกแจ้งข้อกล่าวหา 3 ข้อ คือ ความผิดตามมาตรา 116 ของกฎหมายอาญา ฐานยุยงปลุกปั่นทำให้เกิดความกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน มาตรา 189 ช่วยเหลือหรือให้ที่พำนักผู้ต้องหา มาตรา 215 มั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง

ในเบื้องต้น นายธนาธร ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และชี้แจงว่า การฟ้องร้องคดีนี้ สืบเนื่องจากการที่ตนเองอยู่ในบริเวณที่จัดกิจกรรมของนักศึกษาเพื่อระลึกการครบรอบ 1 ปี การทำรัฐประหารโดย คสช. เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2558 ที่หน้าหอศิลปวัฒนธรรม กรุงเทพฯ และให้การช่วยเหลือกลุ่มนักศึกษากลุ่มดังกล่าวออกมาจากพื้นที่จริง แต่เป็นการกระทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ จะขอให้การเป็นลายลักษณ์อักษร โดยจะยื่นภายในวันที่ 15 พฤษภาคม 2562 โดยหากอัยการรับฟ้องคดีจะพิจารณาในศาลทหาร กรุงเทพฯ

พรรคอนาคตใหม่ ได้ประกาศร่วมกันพรรคอื่นๆ อีก 6 พรรค ที่ให้พันธะสัญญาว่าจะร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลผสม โดยมีพรรคเพื่อไทยที่ได้ที่นั่ง ส.ส.แบบแบ่งเขต 137 ที่นั่ง เป็นแกนนำ ซึ่งพรรคอนาคตใหม่มีที่นั่ง 30 ที่นั่ง และอาจจะมีที่นั่งเมื่อรวม ส.ส. ปาร์ตี้ลิสต์แล้วที่ 80 ถึง 88 ที่นั่ง

นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความของนายธนาธร กล่าวว่า “จากความรู้ทางกฎหมาย คดีนี้น่าจะไม่ส่งผลกับการเลือกตั้ง และต้องรอให้คดีถึงที่สุด ซึ่งอีกนานครับ”

นอกจากนั้น ธนาธรถูกฟ้องร้อง เพื่อเอาผิดมาแล้ว 2 กรณี คือ 1. กรณีการจัดรายการวิจารณ์ พลังดูด ส.ส. เมื่อวันที่  29 มิ.ย. 61 ซึ่งถูกฝ่ายกฎหมาย คสช. แจ้งความดำเนินคดีเมื่อวันที่ 10 ก.ค.61 ตามความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ปัจจุบัน คดีอยู่ในชั้นอัยการ และ 2. เว็บไซต์พรรคอนาคตใหม่ เขียนประวัติของนายธนาธรผิด ซึ่งนายศรีสุวรรณ จรรยา ยื่นหนังสือต่อ กกต. ให้เอาผิดพรรคตาม พ.ร.ป.การเลือกตั้ง 2561 โดย กกต. ยกคำร้องดังกล่าว

ขณะที่ปัญหาการถือครองหุ้นสื่อบริษัท วี-ลัค มีเดีย นั้น ซึ่งพบการโอนย้ายใกล้ช่วงก่อนเลือกตั้งนั้น นายศรีสุวรรณ ได้ยื่นหลักฐานให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) พิจารณาแล้วว่า ขัดต่อกฎหมายเลือกตั้งหรือไม่ ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของ กกต.