รองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่าสถานการณ์ชายแดนใต้ มีการพัฒนาดีขึ้น

พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวในการแถลงผลงานรัฐบาลครบรอบหกเดือนในวันศุกร์นี้ว่า สถานการณ์ในสามจังหวัดชายแดนใต้ มีการพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น เพราะเจ้าหน้าที่ในพื้นที่และประชาชนให้ความร่วมมือมากขึ้น

“ทุกอย่างเริ่มเข้าที่เข้าทางมากขึ้น ในเรื่องของปัญหาต่างๆนั้น ลดน้อยลงอย่างมาก เราได้รับความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม” พลเอกประวิตร กล่าวต่อคณะรัฐมนตรีและสื่อมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศ ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล

“ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ทหาร ทหารพราน เจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือประชาชน ซึ่งเข้ามามีส่วนร่วมในพื้นที่ได้ดำเนินการไปเป็นจำนวนมาก” พลเอกประวิตรกล่าว

ทั้งนี้ นักสังเกตการสถานการณ์รุนแรงในสามจังหวัดชายแดนใต้ ตั้งข้อสังเกตว่า ในช่วงแรกๆ ของการเกิดปัญหาตั้งแต่ปี  2547  ที่ผ่านมา ฝ่ายเจ้าหน้าที่บ้านเมืองทำงานแก้ไขปัญหาอย่างไม่มีเอกภาพนัก โดยเฉพาะยังมีความขัดแย้งกับประชาชนในพื้นที่

พลเอกประวิตร ยังได้กล่าวถึง การแก้ปัญหาด้วยการพูดคุยเจรจาว่า “บัณฑิตอาสาที่มีมาก่อนแล้ว เรามาดำเนินการเพื่อเป็นกลไกในการลดความขัดแย้งในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยอย่างสันติวิธี เราหากระบวนการพูดคุย ซึ่งเราได้ทำไปเยอะแล้ว”

อย่างไรก็ตาม ในห้วงเดือนมีนาคมจนถึงปัจจุบัน กลับมีเหตุการณ์สังหารผู้บริสุทธิ์รายวันมากขึ้น โดยเฉพาะหลังจากมีเหตุการณ์ตรวจค้นที่บ้านโต๊ะชูด ตำบลพิเทน อำเภอทุ่งยางแดง จังหวัดปัตตานี เมื่อวันที่  25  มีนาคม เป็นเหตุให้มีผู้ถูกยิงเสียชีวิตสี่คน สองคนในจำนวนนั้นเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยฟาฏอนี

แม่ทัพกองทัพภาคที่สี่ พลโทปราการ ชลยุทธ์  ได้กล่าวแสดงความเสียใจและขออภัยต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้ง ได้เยียวยาแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิตและมีการสอบสวนเจ้าหน้าที่ที่อาจจะทำการเกินกว่าเหตุ