ภรรยาเปรมชัย เข้ารับทราบข้อหาครอบครองงาช้างผิดกฎหมาย

นางคณิตา วิทยานันท์ ภรรยาของนายเปรมชัย กรรณสูต และนางวันดี สมภูมิ ผู้รับรองในใบจดแจ้งงาช้าง พร้อมทนายความ เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) ในวันอังคารนี้ ตามหมายเรียกครั้งที่สอง เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาร่วมกันครอบครองงาช้างผิดกฎหมาย และได้รับการประกันตัวออกไป ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจฟ้องร้องนายเปรมชัย ข้อหาการลักลอบล่าสัตว์ในเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่า และถูกจับพร้อมซากเสือดำ เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2561 ที่ผ่านมา

ในเวลาเดียวกัน นายเปรมชัย กรรณสูต และ นายยงค์ โดดเครือ พร้อมด้วยทนายความ เข้าพบพนักงานสอบสวนที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาร่วมกันติดสินบน ขณะที่สำนักงานอัยการสูงสุดแถลงความคืบหน้าคดีล่าเสือดำ ให้พนักงานสอบสวนส่งพยานหลักฐานเพิ่มเติมภายใน 7 วัน เชื่อว่า สามารถฟ้องได้ทันตามกำหนดเวลา

สำหรับคดีของนางคณิตา วิทยานันท์ ภรรยาของนายเปรมชัย และนางวันดี นั้น พนักงานสอบสวน บก.ปทส. แจ้งข้อหาร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครองเป็นงาช้างแอฟริกาไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งนางคณิตา ปฏิเสธข้อกล่าวหาและให้การว่า งาช้างทั้งหมดเป็นมรดกตกทอดจากญาติ ตั้งแต่ปี 2524 และได้จดแจ้งไว้เมื่อปี 2558 แล้ว แต่ผลการตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์ กรมอุทยานฯ ยืนยันว่า งาช้างดังกล่าว เป็นงาช้างแอฟริกา แต่ขอจดทะเบียนเป็นงาช้างในประเทศและยังไม่ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้อง

“นางคณิตา ขอจดแจ้งงาช้าง โดยมีภาพถ่ายงาช้างและเอกสารมายื่นครบ แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่ได้ตรวจสอบที่มาของงาช้าง ว่าเป็นงาจากช้างไทยตามที่ขอจดแจ้งไว้ ทำให้ยังไม่ได้รับใบอนุญาตอย่างสมบูรณ์... ตอนจดแจ้งระบุว่าเป็นสัตว์พาหนะ ตรวจสอบแล้วพบว่าไม่ใช่ แต่เป็นงาช้างแอฟริกา” นายบัญญัติ ฉายอรุณ ผู้อำนวยการส่วนคุ้มครองสัตว์ป่า สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ แถลงกับผู้สื่อข่าว

ด้านพล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. หัวหน้าพนักงานสอบสวนในคดีนี้ แถลงต่อผู้สื่อข่าวว่า ได้แจ้งข้อหานางคณิตา และ นางวันดี ตาม พรบ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า ขณะนี้ กำลังรอเจ้าหน้าที่กรมศุลกากรเข้ามาตรวจสอบงาช้างคู่ดังกล่าวว่าได้มีการแจ้งการนำเข้า และเสียภาษีถูกต้องหรือไม่ หากไม่มีการแจ้งอาจต้องแจ้งข้อหาเพิ่มกับคุณเปรมชัยและภรรยา ในความผิดตาม พรบ. กรมศุลกากร ต่อไป

“วันนี้แจ้งข้อหาตาม พรบ.คุ้มครองสัตว์ป่า รอเจ้าหน้าที่ศุลกากรมาดูว่างาพวกนี้ผู้ต้องหาแจ้งนำเข้าหรือไม่ ถ้าไม่มีต้องแจ้งให้คุณเปรมชัย ภรรยา และ คุณวันดี มารับทราบพฤติกรรม ตาม พรบ.ศุลกากร ต่อไป” พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าว

หลังจากที่ นางคณิตา และนางวันดี สมภูมิ รับทราบข้อกล่าวหา และให้การกับพนักงานสอบสวนแล้ว ได้เดินทางไปศาล และได้รับการประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวนด้วยวงเงินคนละ 300,000 บาท

ทางด้านนายเปรมชัย กรรณสูต และนายยงค์ โดดเครือ พร้อมด้วยทนายความ เข้าพบพนักงานสอบสวนที่ บก.ปปป. เพื่อรับทราบข้อหาร่วมกันติดสินบนเจ้าพนักงาน หลังจากการสอบปากคำพยานพบว่าเป็นการทำความผิดร่วมกันสองคน สำหรับนายเปรมชัย ไม่ได้เป็นการแจ้งข้อหาเพิ่มเติม แต่เป็นการแจ้งพฤติกรรมให้รับทราบ ส่วนนายยงค์ ปฏิเสธให้การในชั้นพนักงานสอบสวน แต่จะไปให้การในชั้นศาล

“เสียงคล้ายๆ (ของผม) เป็นการคุยเล่น” นายยงค์ ตอบผู้สื่อข่าวสั้นๆ เมื่อถูกถามว่า เสียงในเทปเป็นเสียงของตนหรือไม่ และได้พูดจริงหรือไม่

โดย รอง ผบ.ตร. เชื่อว่า พนักงานสอบสวนสามารถสรุปสำนวนของนายเปรมชัย และ ภรรยา ส่งอัยการได้ทันในวันที่ 30 มีนาคมนี้

อัยการสั่งสอบเพิ่มให้สิ้นกระแสความ

ในวันเดียวกัน นางสมศรี วัฒนไพศาล อธิบดีอัยการภาค 7 แถลงต่อผู้สื่อข่าวถึงความคืบหน้าคดีล่าเสือดำ ที่นายเปรมชัย กรรณสูต กับพวกตกเป็นผู้ต้องหาว่า คณะทำงานพิจารณาสำนวนมีคำสั่งให้พนักงานสอบสวนฯ สอบสวนเพิ่มเติมในประเด็นสำคัญให้สิ้นกระแสความ และส่งให้พนักงานอัยการภายใน 7 วัน ซึ่งประเด็นที่สั่งให้สอบเพิ่มเติมไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากไม่อยากให้ฝ่ายผู้ต้องหานำไปตั้งเป็นประเด็นในการต่อสู้คดี

“หลักๆ เป็นเรื่องพฤติการและรายงานการตรวจบางฉบับ ที่พนักงานสอบสวนยังไม่ได้ส่งเข้ามาประกอบสำนวน แจ้งให้เขาส่งเข้ามา ... ตอนนี้สำนวน 857 หน้าพิจารณาเสร็จแล้วและมีความเห็นทางคดีนี้จบแล้วว่าเราสั่งกี่ประเด็นอะไรบ้าง เพื่อให้สำนวนการสอบสวนของเรา “ครบถ้วนและสิ้นกระแสความ” นางสมศรี วัฒนไพศาล ระบุ

“มันแน่นอนอยู่แล้ว ผลการตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ของกรมอุทยานฯ ยังได้ไม่ครบ ขณะนี้เราก็เร่งรัดผลทางนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อส่งให้พนักงานอัยการต่อไป ถ้าทำได้อยากให้ทันภายในวันศุกร์นี้” พล.ต.อ.ศรีวราห์ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว