เปรมชัยปฎิเสธต่อศาล คดีงาช้างแอฟริกา
2018.05.07
กรุงเทพฯ

ในวันจันทร์นี้ นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหาร บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนท์ จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วยภรรยา และคนใกล้ชิด เข้ารายงานตัวต่อศาลอาญา กรุงเทพ ในคดีครอบครองงาช้างแอฟริกาโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยทั้งหมดให้การปฎิเสธตลอดข้อกล่าวหา และศาลนัดตรวจสอบพยานหลักฐาน 25 มิถุนายน 2561
เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2561 เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ได้ควบคุมตัวนายเปรมชัย กรรณสูต และพวกรวม 4 คน เข้าแจ้งความต่อสถานีตำรวจภูธร ทองผาภูมิ จ.กาญจนาบุรี หลังพบว่า คนทั้งหมดเข้าไปค้างแรมในพื้นที่หวงห้าม โดยพบซากสัตว์เป็นเสือดำและสัตว์ชนิดอื่นในบริเวณดังกล่าว จนกลายเป็นคดีฟ้องร้องเอาผิดนายเปรมชัยและพวก ในข้อเกี่ยวกับการล่าสัตว์ป่าในพื้นที่สงวนพันธุ์สัตว์รวม 6 ข้อหา
การจับกุมครั้งนั้น นำมาซึ่งการเข้าตรวจค้นบ้านพักของนายเปรมชัย ที่ซอยศูนย์วิจัย 3 ถนนเพชรบุรี ที่กรุงเทพฯ ในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2561 ซึ่งเจ้าหน้าที่พบอาวุธปืนที่ไม่มีใบอนุญาต รวมถึงงาช้างแอฟริกัน 2 คู่ (4 กิ่ง) ซึ่งเป็นซากสัตว์ป่าคุ้มครอง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ตั้งข้อหาเอาผิดนายเปรมชัยและผู้เกี่ยวข้อง
ต่อมาพนักงานอัยการ คดีเศรษฐกิจและทรัพยากร 2 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นางคณิตดา กรรณสูต อายุ 64 ปี ภรรยานายเปรมชัย นายเปรมชัย กรรณสูต อายุ 64 ปี และน.ส.วันดี สมภูมิ อายุ 71 ปี คนใกล้ชิด เป็นจำเลยที่ 1 ถึง 3 ในคดีหมายเลขดำ อ.1143/2561 โดย นางคณิตดา และ น.ส.วันดี ได้ร่วมกันแจ้งต่อนักวิชาการป่าไม้ ชำนาญการพิเศษ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชว่า ได้ครอบครองงาช้าง (งช.1) ทั้ง 4 กิ่ง ถูกต้องตามกฎหมาย พ.ร.บ.งาช้าง พ.ศ.2558 อันเป็นทรัพย์มรดกของนางคณิตดาที่ได้มาตั้งแต่ปี 2530 โดยถูกต้อง ซึ่งมี น.ส.วันดี เป็นพยาน
แต่จากการตรวจพิสูจน์พบว่า งาช้าง 4 กิ่งดังกล่าว เป็นงาแอฟริกา ถือว่ามีความผิดตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 ที่ห้ามมิให้ผู้ใดมีไว้ในครอบครอง มีโทษสูงสุดจำคุก 4 ปี ปรับ 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
“ก็เรื่องงาช้าง ยังไม่ได้ชี้แจงวันนี้ ปฎิเสธครับ กังวลทุกเรื่อง” นายเปรมชัย กล่าวต่อสื่อมวลชนเพียงสั้นๆ หลังจากเสร็จสิ้นการรายงานตัวต่อศาล
ทั้งนี้ ศาลได้ตั้งข้อหาจำเลยทั้งสามในความผิดฐานร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกันนำหรือพาของที่ยังไม่ได้เสียภาษี ของต้องห้าม ต้องกำกับ เข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกันช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย หรือรับไว้โดยประการใดๆ ซึ่งรู้ว่าเป็นของที่นำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยหลีกเลี่ยงอากรฯ ตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า มาตรา 19, 47 และ พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2469 มาตรา 27, 27 ทวิ ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83
แต่ศาลอนุญาตให้ปล่อยตัวจำเลยที่ 1 และ 2 เนื่องจากได้ยื่นหลักทรัพย์ 3 แสนบาท ประกันตัวไว้ในชั้นสอบสวน ส่วนนายเปรมชัย ต้องยื่นหลักทรัพย์ประกันเพิ่ม 3 แสนบาท เนื่องจากได้ขออนุญาตต่อศาลเดินทางไปยังประเทศอินเดีย และบังคลาเทศ เพื่อติดต่อธุรกิจระหว่างวันที่ 10-11 พฤษภาคม 2561 นี้ ซึ่งศาลอนุญาต และนัดให้นายเปรมชัยมารายงานตัวต่อศาลในวันที่ 16 พฤษภาคม 2561 หลังการขึ้นศาล จำเลยรายอื่นๆ รวมทั้งทนายความของจำเลยทั้งหมด ปฎิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน
นอกจากคดีครอบครองงาช้าง และคดีล่าเสือดำแล้ว นายเปรมชัยยังมีคดีที่นายเปรมชัย และนายยงค์ โดดเครือ ถูกพนักงานอัยการภาค 7 ตั้งข้อหาร่วมกันติดสินบนเจ้าหน้าที่ ซึ่งนายเปรมชัยได้ให้การปฎิเสธข้อกล่าวหา มีนัดสอบคำให้การต่อศาลในวันที่ 28 พฤษภาคม 2561
อีกหนึ่งคดีที่ศาลอาญา กรุงเทพ รับฟ้องนายเปรมชัยแล้ว คือคดีในความผิดมีอาวุธปืนยาวไรเฟิลจำนวน 3 กระบอก และปืนแก๊บ 1 กระบอก ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต อย่างไรก็ตาม นายเปรมชัยได้ให้การปฎิเสธ และได้รับการประกันตัวในวงเงิน 2 แสนบาท