รอมฎอนวันแรก บรรยากาศจังหวัดแดนใต้คึกคัก

โดย นาซือเราะ
2015.06.18
TH-ramadan-bless-620 บรรยากาศมัสยิดกลางประจำจังหวัดปัตตานี ประชาชนนับพัน ทั้งเด็กผู้ใหญ่ ชายหญิงร่วมพิธีละหมาดตารอเวี้ยะ 18 มิถุนายน 2558
เบนาร์นิวส์

วันนี้ที่ 18 มิ.ย. 2558 หลังจากสำนักจุฬาราชมนตรี ประกาศให้ วันนี้เป็นวันแรกของการถือศีลอดของพี่น้องชาวไทยอิสลาม ทำให้บรรยากาศวันแรกของเดือนรอมฎอน ในพื้นที่ จ.ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส คึกคักตลอดทั้งวัน ท่ามกลางการดูแลรักษาความปลอดภัยจากเจ้าหน้าที่อย่างเข้มงวดเป็นพิเศษ เพื่อเฝ้าระวังเหตุร้ายที่อาจเกิดขึ้นได้ ตามที่หน่วยข่าวกรองแจ้งเตือนมาว่า กลุ่มก่อความไม่สงบมีแผนที่จะก่อเหตุในช่วงนี้อย่างต่อเนื่อง

แม่ทัพภาคที่ 4 เดินสายแจกผลอินทผลัม

พล.ท.ปราการ ชลยุทธ แม่ทัพภาคที่ 4 เดินทางเข้าเยี่ยมคารวะ นายอิสมาแอล ฮารี ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดยะลา เนื่องในโอกาสเข้าสู่วันแรกของการถือศีลอด ในเดือนรอมฎอนของพี่น้องชาวไทยมุสลิม พร้อมแจกผลอินทผลัม ข้าวสาร และน้ำหวาน ให้กับคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดยะลา เพื่อเป็นการสนับสนุน และส่งเสริมการประกอบศาสนกิจของพี่น้องชาวไทยมุสลิมในพื้นที่

นายอิสมาแอล ฮารี ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดยะลา ได้สวดดูอาร์ (ขอพร) ต่อพระผู้เป็นเจ้า ให้พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เกิดความสงบและสันติสุข พร้อมขอให้แม่ทัพภาค 4 สามารถแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ให้เกิดสันติสุขโดยเร็ว

มอบใบประกาศปลดหมาย พ.ร.ก. ตามโครงการพาคนกลับบ้าน

วันนี้ 18 มิ.ย. 2558 ที่ห้องประชุม ที่ว่าการอำภอเจาะไอร้อง จ.นราธิวาส นายจำนัล เหมือนดำ รองผู้ว่าราชการ จ.นราธิวาส เป็นประธานในการมอบ ใบประกาศปลดหมาย พ.ร.ก.ตาม “โครงการพาคนกลับบ้าน” จำนวน 22 ราย

นายจำนัล เหมือนดำ รองผู้ว่าราชการ จ.นราธิวาส กล่าวว่า “โครงการพาคนกลับบ้านเป็นนโยบายหลักของรัฐบาลที่ได้มอบหมายให้กองอำนวยการความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า และ ศูนย์ปกครองอำเภอ เป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินการตามนโยบายรัฐบาล เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ที่มีความเห็นต่างจากรัฐ หรือผู้ที่ต่อสู้กับรัฐด้วยวิธีรุนแรง ให้กลับมาแก้ไขปัญหาด้วยสันติวิธี โดยการออกมารายงานตัว แสดงสถานะ ช่วยเหลือให้ความเป็นธรรม และดำรงชีวิตอย่างปกติสุข”

เด็กกำพร้าชายแดนใต้ ถือศีลอด

ผู้ปกครองนิยมสอนบุตรหลาน ให้มีการถือศีลตั้งแต่เล็ก เพื่อเป็นการปลูกฝังจิตสำนึก ในการถือศีล ในความอดทน เช่นเดียวกับ ด.ญ.ฟาเดีย สุหลง อายุ 6 ปี กับ ด.ช. ฟาเดล สุหลง อายุ 8 ปี เด็กทั้งสองคนกำพร้าพ่อตั้งแต่ยังเล็ก ต้องอาศัยอยู่กับย่า ที่ ต.ยะหา อ.ยะหา จ.ยะลา  เพราะแม่ต้องทำงานหาเลี้ยงครอบครัว

วันแรกของการถือศีลอด เด็กทั้งสองคน ก็ได้ถือศีลอดเช่นเดียวกับย่าของเขา ด.ญ.ฟาเดีย สุหลง อายุ 6 ปี กล่าวว่า ย่าสอนให้อดทน มีน้ำใจแบ่งปัน ย่าบอกว่า ถ้าเรามีความอดทน มีน้ำใจ เป็นคนแบ่งปัน เราจะมีคนที่รักเราเยอะ

“อยากให้ทุกคนรัก ตามที่ย่าสอน ก็เลยถือศีลอด วันนี้ได้หนึ่งวัน ตั้งใจจะถือศีลจนครบ 30 วัน อยากให้พ่อที่อยู่บนสวรรค์ได้เห็นว่า ตัวเองและพี่ชายเป็นเด็กดีพ่อก็จะได้บุญที่มีลูกที่ดี”

ส่วน ด.ช.ฟาเดล ผู้พี่ บอกว่า ถ้าเราถือศีลอด ผู้ใหญ่จะตามใจ จะรักพวกเรา มีความสุขที่มีคนรัก

“ย่าบอกว่า การถือศีลอด จะทำให้เรารู้จักอดทน รู้จักความอด และจะทำให้เรานึกถึงคนที่ลำบาก และรู้สึกเหมือนเขา ก็เลยคิดว่า ถือศีลอดเป็นเรื่องที่ดี อยากให้ทุกเดือนมีการถือศีลอด เพราะทุกคนจะได้เข้าใจความรู้สึกของคนที่ยากจน ลำบาก สงสารพวกเขา”

ชาวไทยพุทธ และจีน เฝ้ารอรอมฎอน หวังอาหารหลากหลาย

นางสาวกัญญา ทองกุล อายุ 36 ปี ชาว จ.ปัตตานี กล่าวว่า “ทุกปี เมื่อใกล้เข้าเดือนรอมฎอน ดีใจมาก ชอบเดือนนี้มาก เพราะมีอาหารให้เลือกมากมาย ซึ่งบางชนิดไม่มีขายในเดือนปกติ แต่ช่วงรอมฎอนจะมีขาย ทั้งครอบครัวชอบอาหารในช่วงนี้”

สมัยมาอยู่ที่นี่ใหม่ๆ เคยลองถือศีลอด เพราะอยากรู้ว่าเป็นอย่างไร พอถือได้ห้าชั่วโมง ต้องหาอะไรมากินเพราะทนไม่ไหว

“ลูกเพื่อนข้างบ้าน เขาจะหัดให้ลูกถือศีล ตั้งแต่เล็กๆ จำได้ตอนลูกเขา อายุ 5 ปี ลูกเขาขอถือศีลเอง แรกๆให้ถือแค่ครึ่งวัน พอได้ครึ่งวัน ก็ต่อเป็นหนึ่งวัน ตอนนี้น้องเขาอายุ 7 ขวบแล้ว ถือศีลอดได้ทุกวัน น่าชื่นชมมาก”

ด้านนายอาแว สาและ ชาวบ้าน จ.ยะลา กล่าวว่า บรรยากาศช่วงเดือนรอมฎอนตลอดทั้งเดือนจะคึกคักทุกวัน เพราะประชาชนในพื้นที่ ต้องเดินทางออกมาจับจ่ายซื้อของ ตามตลาด บางจังหวัด มีการปิดถนนเพื่อเปิดให้แม่ค้า มาวางจำหน่ายสินค้า เช่นที่ จ.ปัตตานี บริเวณถนนยะรัง ช่วงเดือนปกติถนนสายนี้ เต็มไปด้วยแพะหรือสัตว์เลี้ยงของชาวบ้าน และเมื่อเข้าสู่เดือนรอมฎอน ถนนสายนี้ซึ่งยาวประมาณ 1 กิโลเมตร ได้กลายเป็นตลาดจำหน่ายอาหารเพื่อละศีลอด มีทั้งชาวไทยที่นับถือศาสนาพุทธ จีน และอิสลาม ร่วมกันจับจ่ายอย่างคึกคัก

“เมื่อตะวันตกดิน เวลาประมาณสองทุ่ม ชาวไทยมุสลิม ทั้งหญิงและชายต่างจูงบุตรหลานไปที่มัสยิด เพื่อทำพิธีละหมาดตารอเวี๊ยะ เสร็จสิ้นประมาณสามทุ่ม บรรยากาศเช่นนี้ จะมีตลอดทั้งเดือนรอมฎอน”

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง