จุฬาราชมนตรีประกาศให้วันที่ 18 มิถุนายน เป็นวันเริ่มต้นเดือนรอมฎอน ประจำฮิจเราะห์ศักราช 1436

โดย นาซือเราะ
2015.06.17
TH-ramadan-commencement-620 ผู้หญิงไทยมุสลิมในพิธีสวด ที่มัสยิดปัตตานี ในช่วงเดือนรอมฎอน เดือนที่ชาวมุสลิมเริ่มถือศีลอด ต้องงดอาหาร และเครื่องดื่ม ตั้งแต่พระอาทิตย์ขึ้น จนถึงพระอาทิตย์ตก เมื่อ 11 กรกฏาคม 2556
เอเอฟพี

ตามที่สำนักจุฬาราชมนตรี ได้ประกาศให้พี่น้องชาวไทยมุสลิมทั่วประเทศดูดวงจันทร์ ในวันจันทร์ที่ 17 มิ.ย. 2558 หลังดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า เพื่อกำหนดวันที่ 1 เดือนรอมฎอน ประจำปีฮิจเราะห์ศักราช 1436  ล่าสุด ได้มีผู้เห็นดวงจันทร์ ที่บูแกะปาแระ อ.ยะหา จ.ยะลา ในเวลา 18.45 น.

ในวันพุธที่ 17 มิ.ย. นี้ นายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี จึงได้ประกาศให้วันที่ 18 มิถุนายน เป็นวันที่ 1 ของเดือนรอมฎอน ประจำปีฮิจเราะห์ศักราช 1436 ซึ่งเป็นวันที่พี่น้องมุสลิมต้องถือศีลอด เป็นเวลาตลอดทั้งเดือน

“ในโอกาสนี้ ขอให้พี่น้องประสบแต่ความดี ตลอดทั้งเดือนและตลอดไป ขอให้มีโชคชัยแห่งชีวิต เดือนรอมฎอนเป็นห้วงเวลาละเว้นความชั่ว ทำความดี ละเว้นการสร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่น มีความอดทน ช่วยเหลือผู้อื่น ใช้เวลาเพื่อความสงบสุขช่วงเดือนรอมฎอน” จุฬาราชมนตรี กล่าวต่อชาวมุสลิมในประเทศไทย

เดือนรอมฎอน เป็นเดือนที่ 9 ตามปฏิทินฮิจเราะห์ หรือปฏิทินอิสลาม ซึ่งเดือนนี้พี่น้องมุสลิมจะต้องถือศีลอด หรืองด และละเว้นทุกอย่างที่ไม่ดี ตลอดทั้งเดือน ต้องงดอาหารทุกชนิด รวมถึงน้ำดื่ม นับจากพระอาทิตย์ขึ้นจนถึงพระอาทิตย์ตกดิน จึงจะสามารถละศีลอด หรือกินอาหารได้ตามปกติ นอกจากการถือศีลอด และทำทานแล้ว เดือนรอมฎอนยังเป็นเดือนสุดประเสริฐ ที่มีการประทานคัมภีร์อัลกุรอาน จะเห็นว่าในเดือนนี้จะมีพี่น้องหลายคนเต็มใจที่จะนั่งอ่านอัลกุรอ่านยามว่างจากภารกิจอื่น เพราะถือว่าเป็นเดือนแห่งความเมตตา ประตูสวรรค์เปิด ประตูนรกปิด เดือนนี้จึงควรหมั่นทำความดีให้มาก

ในสามจังหวัดภาคใต้ กลุ่มผู้ชายนิยมรวมตัวกันที่มัสยิดตลอดทั้งเดือน โดยเฉพาะที่จะร่วมถือศีลอด เพื่อสร้างความดีและความสามัคคีกันภายในชุมชน  ส่วนกลุ่มสตรี มักให้ความสำคัญในการเตรียมอาหารเพื่อละศีลอด จึงทำให้บรรยากาศในเดือนนี้เต็มไปด้วย อาหารหลากหลายบางชนิดไม่สามารถหาซื้อได้ในเดือนปกติ  เมื่อพิธีถือศีลอดเสร็จสิ้นลง ผู้ปกครองทั้งหญิงและชายต่างจูงบุตรหลานเข้ามัสยิด เพื่อร่วมละหมาดตารอเวี๊ยะ

เมื่อถือศีลใกล้ครบหนึ่งเดือน หรือประมาณในวันที่ 16 ก.ค. สำนักจุฬาราชมนตรีจะกำหนดวันดูดวงจันทร์เพื่อกำหนดเดือนใหม่ และเมื่อสิ้นสุดเดือนรอมฎอน ในค่ำคืนนั้นบรรดาผู้ชายจะต้องซื้อข้าวสาร เพื่อจ่ายซากาตฟิตเราะห์ ก่อนที่จะร่วมละหมาด และเฉลิมฉลองในวันที่ 1 เดือนเชาวาล เรียกว่า อีดิ้ลฟิตรี หรือ รายอปอซอ

สำหรับบรรยากาศที่หอดูดวงจันทร์ บูกะปาแระ ต.ยะลา อ.ยะหา จ.ยะลา จากช่วงเวลา 16.00 น. ประชาชนจาก 4 จังหวัดปัตตานี ยะลา นราธิวาส และจ.สงขลา ต่างเดินทางมา ดูดวงจันทร์ เป็นจำนวนมาก รวมทั้ง  พลโทปราการ ชลยุทธ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ร่วมดูดวงจันทร์ที่บูแกะปาแระ เช่นเดียวกัน ท่ามกลางการดูแลรักษาความปลอดภัยจากกำลังเจ้าหน้าที่อย่างแน่นหนา

ด้านนายอาหารมะ สาและ ชาวจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า “ได้มีโอกาสร่วมมาดูดวงจันทร์ที่บ้านบูแกะปาแระทุกปี เช่นเดียวกับปีนี้ ก็ได้เดินทางมาดูเป็นปกติ แต่ละปี รู้สึกว่าทุกคนให้ความสำคัญ ให้ความสนใจ ต่อการดูดวงจันทร์มากขึ้น เช่นปีนี้ มีแม่ทัพภาคที่ 4 มาร่วมดูดวงจันทร์ด้วย ก็ถือว่า ทหารได้ให้ความสำคัญด้วยเช่นกัน”

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง