“โต ซิลลี่ฟูล” ขอโทษสังคม หลังพูดพาดพิงศาสนาพุทธ

มารียัม อัฮหมัด และนนทรัฐ ไผ่เจริญ
2018.04.05
ปัตตานี และกรุงเทพฯ
180405-TH-religion-620.jpg นายวีรชน ศรัทธายิ่ง (ซ้ายมือ) ขณะบรรยายที่ศูนย์อิสลามแห่งประเทศไทย วันที่ 14 สิงหาคม 2560
ภาพจากเพจรายการโต-ตาล

ในวันพฤหัสบดีนี้ นายวีรชน ศรัทธายิ่ง หรือโต อดีตนักร้องนำวงซิลลี่ฟูลส์ ได้แถลงข่าวขอโทษสังคมต่อหน้าจุฬาราชมนตรี จากการพูดพาดพิงถึงศาสนาพุทธ ในรายการสอนศาสนาอิสลามจนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์บนอินเทอร์เน็ต โดยจุฬาราชมนตรี ได้กล่าวเตือนนักสอนศาสนาทุกคนให้ระมัดระวังการพูดที่อาจทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างศาสนา

นายวีรชน ศรัทธายิ่ง (ฟิรเดาส์) ผู้ดำเนินรายการโต-ตาล ซึ่งเป็นรายการเผยแพร่ศาสนาอิสลามบนอินเทอร์เน็ต ได้กล่าวขอโทษสังคมต่อหน้านายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี ที่มัสยิดกลาง จังหวัดสงขลา จากกรณีกล่าวพาดพิงถึงความเชื่อการสร้างรูปเคารพในศาสนาพุทธ ในระหว่างจัดรายการเมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2561 ซึ่งมีใจความหลักว่า “ในฐานะผู้ศรัทธา ผมจะไม่กราบสิ่งใดที่ต่ำเท่าผม หรือต่ำกว่าผม” ในขณะที่พระเจ้าในศาสนาอิสลาม “ปั้น” สิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าเกินมนุษย์จะจินตนาการ

“ผมอยากจะขอโทษที่ทำให้ทุกคนเสียใจ แต่อยากให้รู้ว่าผมไม่มีความตั้งใจโดยเด็ดขาด บทเรียนหลังจากนี้ผมจะไม่ยกคำสอนของพระพุทธเจ้ามาพูด เพราะผมไม่มีความรู้” นายวีรชนกล่าว

ด้าน นายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี ได้กล่าวกับนายวีรชนถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ผู้เผยแพร่ศาสนาจำเป็นต้องศึกษาให้รอบคอบ และพูดเฉพาะสิ่งที่ไม่ทำให้เกิดความแตกแยกในสังคม

“ท่านได้แถลงขอโทษขอโพยไปแล้ว เราก็ดีใจ และยินดีที่คุณหันมาสนใจเรื่องอิสลาม เผยแพร่อิสลาม ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อสังคมมุสลิมด้วย จึงไม่ตำหนิ ก็ให้กำลังใจขอให้ทำหน้าที่ต่อไป และต้องศึกษาและรอบคอบนิดนึง” นายอาศิสกล่าว

“ศาสนาอิสลามห้ามการวิจารณ์คนศาสนาอื่น หรือคนนับถือศาสนาอื่น เพราะฉะนั้นก็อยากจะขอเตือนฝากกับผู้รู้ศาสนา หรือผู้ที่ทำตัวเป็นผู้รู้ศาสนาบรรยายและเผยแพร่นั้น ให้ระมัดระวังสิ่งเหล่านี้ เพราะอาจจะนำไปสู่ความขัดแย้งทางสังคม และที่สำคัญคือเป็นสิ่งที่ขัดแย้งกับคำสอนของศาสนาอิสลาม” นายอาศิส กล่าวตักเตือนนายวีรชนถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

สำหรับข้อความที่นายวีรชนกล่าวถึงในรายการ “โต-ตาล” เมื่อวันศุกร์ที่แล้วนั้น และกลายเป็นที่วิพากษ์-วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสม เป็นการตอบคำถามของผู้ชมรายการว่า ทำไมศาสนาอิสลามจึงไม่มีรูปปั้นของพระเจ้า เหมือนศาสนาพุทธ เพื่อเอาไว้ยึดเหนี่ยวจิตใจ ซึ่งนายวีรชนได้ตอบว่า

“การเป็นพระเจ้า หนึ่งข้อแม้ พระเจ้าต้องไม่เหมือนสิ่งอื่นใดที่พระองค์สร้าง ทุกสิ่งที่ท่านปั้นไม่มีทางเหมือนพระองค์ พระองค์ยิ่งใหญ่เกินจินตนาการของมนุษย์สามารถจับพระองค์ได้ ในฐานะผู้ศรัทธา ผมจะไม่กราบสิ่งใดที่ต่ำเท่าผม... พระพุทธเจ้า เราไม่ไหว้พระองค์ เพราะเป็นคน ถ้าเป็นคนที่ดี ถ้าผมเกิดในยุคของท่าน ผมคงฟังท่าน ผมคงให้เกียรติท่าน รูปปั้นที่ปั้นเหมือนท่าน ผมไม่ไหว้ เพราะขนาดคนผมยังไม่ไหว้” นายวีรชนกล่าวตอนหนึ่ง

จากคำพูดดังกล่าว ทำให้เกิดความไม่พอใจในหมู่ผู้ชม และถูกนำบางส่วนของวิดีโอดังกล่าว ส่งต่อและวิพากษ์-วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมในการแสดงทัศนะต่อศาสนาพุทธในลักษณะดังกล่าว โดยผู้ใช้อินเทอร์เน็ตบางรายระบุว่าเป็นการสร้างความแตกแยก เป็นการไม่ให้ความเคารพ หรือแม้กระทั่งเป็นการลบหลู่ศาสนาพุทธ เหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้มีประชาชนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตบางรายรณรงค์ให้ชาวพุทธงดการเข้าใช้บริการในร้านขายเนื้อวัว ซึ่งนายวีรชนเป็นเจ้าของด้วย

นายวีรชน ศรัทธายิ่ง มีชื่อเดิมคือ ณัฐพล พุทธภาวนา เป็นที่รู้จักของคนทั่วไปจากการเป็นนักร้องนำของวงร็อค ชื่อ ซิลลี่ฟูลส์ และแฮงแมน ก่อนจะสนใจศึกษาศาสนาอิสลามและเชื่อว่า การร้องเพลงเป็นสิ่งต้องห้ามของชาวมุสลิม จึงยุติบทบาทการเป็นนักร้องแล้วศึกษาศาสนาอิสลามอย่างจริงจัง รวมถึงเป็นบรรยายความรู้เรื่องศาสนาอิสลามในที่ต่างๆ และเปิดบริษัทขายเนื้อวัวชื่อ “คอมพานี บี” ซึ่งมีสาขาในห้างสรรพสินค้าหลายแห่งด้วย

นายรักชาติ สุวรรณ ประธานเครือข่ายชาวพุทธเพื่อสันติภาพ ในจังหวัดยะลา ได้กล่าวว่า เมื่อมีการขอโทษแล้ว จึงเห็นควรให้ทุกฝ่ายยุติความไม่พอใจ เพราะศาสนาพุทธเองนั้น ได้สอนในการให้อภัยซึ่งกันและกัน

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง