รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า นายมูฮัมหมัด มูฮิ รับสารภาพวางระเบิดภูเก็ตเมื่อเดือนสิงหาคม

ทีมข่าวเบนาร์นิวส์
2016.11.02
นครศรีธรรมราช
TH-bomb-victim-1000 สภาพผู้เสียชีวิตในเหตุระเบิดในอำเภอหัวหิน ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 12 ส.ค. 2559
เบนาร์นิวส์

ในวันพุธ(2 พ.ย. 2559)นี้ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า นายมูฮัมหมัด มูฮิ ผู้ต้องหาวางระเบิดในจังหวัดภูเก็ต อันเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ระเบิด-วางเพลิง 7 จังหวัดตอนบนของภาคใต้ เมื่อกลางเดือนสิงหาคม ที่ผ่านมานั้น ได้รับสารภาพต่อเจ้าหน้าที่แล้วว่าตนเองเป็นผู้วางระเบิดตามข้อกล่าวหาจริง

ทั้งนี้ พล.ต.อ.ศรีวราห์ ได้เดินทางไปยังทัณฑสถานวัยหนุ่ม จังหวัดนครศรีธรรมราช ในเช้าวันนี้ ซึ่งเป็นสถานที่ควบคุมตัวนายมูฮัมหมัด มูฮิ อายุ 21 ปี เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม หลังจากที่พนักงานสอบสวนจากจังหวัดภูเก็ตรรายงานว่าได้ดำเนินการสอบสวนนายมูฮัมหมัด ในทัณฑสถานฯ จนได้รับคำสารภาพในชั้นต้น

“นายมูฮัมหมัด มูฮิ ให้การรับสารภาพแล้วว่าเป็นคนลอบวางระเบิดในจังหวัดภูเก็ตจริง” พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าวแก่ผู้สื่อข่าว

“พนักงานสอบสวนพื้นที่ภูเก็ตรายงานว่า เขารับสารภาพ 3 คดี ที่ก่อเหตุที่ภูเก็ต ซึ่งในเบื้องต้นวันแรกที่รับตัวมาจากทหารเขาปฎิเสธ ต่อมาได้มีการออกหมายจับเพิ่มเติมในคดีสุดท้าย แล้วก็ฝากขังไป ปรากฎว่าไปสอบเขาในเรือนจำต่อหน้าเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ เขารับสารภาพว่าก่อเหตุ 3 เหตุ” พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าว

นอกจากนั้น พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวอีกว่า นายมูฮัมหมัด ได้ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี ส่วนจะนำตัวนายมูฮัมหมัดมาชี้จุดตามคำให้การหรือไม่ ต้องรอการพิจารณาจากศาลอีกครั้งในวันที่ 8 พฤศจิกายน 2559 นี้

นายมูฮัมหมัด มูฮิ อายุ 21 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ในอำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี ถูกควบคุมตัวตั้งแต่วันที่ 20 ตุลาคม 2559 หลังเจ้าหน้าที่มีหลักฐานว่านายมูฮัมหมัด ได้ร่วมมือกับนายยูโซ๊ะ แมะตีเมาะ อายุ 30 ปี ก่อเหตุระเบิดในย่านหาดป่าตอง อำเภอกระทู้ จังหวัดภูเก็ต เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2559

เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ตั้งข้อหานายมูฮัมหมัด ในความผิดร่วมกันมีวัตถุระเบิดไว้ในครอบครอง ร่วมกันวางระเบิดวางเพลิงเผาทรัพย์ ร่วมกันเป็นอั้งยี่และซ่องโจร ส่วนนายยูโซ๊ะ ได้หลบหนีการจับกุมตัว

ปัจจุบัน เจ้าหน้าที่ได้ออกหมายจับผู้ต้องสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการวางระเบิดและวางเพลิงในเขตพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้ตอนกลางแล้ว 11 ราย สามารถจับกุมได้แล้ว 2 ราย คือ นายมูฮัมหมัด มูฮิ และนายฮากิม ดอเลาะ ทั้งคู่เป็นสองในสี่ผู้ต้องหาที่เชื่อว่าก่อเหตุในจังหวัดภูเก็ต ซึ่งทั้งสองคน ถูกควบคุมตัวที่ทัณฑสถานวัยหนุ่ม จังหวัดนครศรีธรรมราช

นางสาวอัญชนา หีมมิหน๊ะ ประธานกลุ่มด้วยใจ ซึ่งโดนกองทัพบกฟ้องร้องในข้อหาหมิ่นประมาท ได้กล่าวแก่เบนาร์นิวส์ในวันนี้ว่า ตนมีความกังวลต่อการเคารพสิทธิของผู้ต้องสงสัย รวมทั้งการใช้ทนายที่ฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จัดหามาเอง ซึ่งไม่สามารถบอกได้ว่าผู้ต้องหาสามารถจะไว้วางใจได้หรือไม่

“กังวลว่าเขาจะไม่ได้รับสิทธิของผู้ที่ถูกกล่าวหาในคดีอาญา เช่น สิทธิในการพบญาติ สิทธิในการพบทนายที่เขาไว้ใจ เพราะดูตามข่าวเจ้าหน้าที่จากกรุงเทพมาสอบปากคำโดยมีทนายมาด้วย ซึ่งอาจจะไม่ใช่ทนายที่เขาต้องการหรือใจ” นางสาวอัญชนา กล่าวแก่เบนาร์นิวส์

นอกจากนั้น นางสาวอัญชนา ยังตั้งข้อสงสัยว่าทำไมผู้ต้องหาต้องไปเกี่ยวข้องกับศาลทหารหรือขึ้นศาลทหาร และได้ระบุว่า ตนเองอยากให้เจ้าหน้าที่มีความโปร่งใส “เพราะกระบวนการยุติธรรมต้นน้ำจะเป็นตัวชี้วัดความเชื่อมั่นของกระบวนการยุติธรรมทั้งระบบ”

จากข้อมูลของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในวันที่ 10 สิงหาคม ถึงวันที่ 12 สิงหาคม ได้เกิดเหตุระเบิดและ/หรือวางเพลิง ในพื้นที่ท่องเที่ยวใน 7 จังหวัดภาคใต้ตอนบน ได้แก่ ภูเก็ต ตรัง สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พังงา กระบี่ และประจวบคีรีขันธ์ มีผู้เสียชีวิต 4 ราย และบาดเจ็บกว่า 30 ราย

เหตุระเบิดเกิดขึ้นหลังจากเสร็จสิ้นการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญเพียงไม่กี่วัน จนในชั้นต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูง ได้กล่าวว่า เหตุที่เกิดเป็นการแสดงออกต่อการต่อต้านรัฐบาล

ทางด้าน พลตำรวจเอก จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้กล่าวเมื่อไม่นานมานี้ว่า ผู้ต้องหาหลายรายเป็นบุคคลที่มีภูมิลำเนาในจังหวัดชายแดนใต้ ส่วนหนึ่งเป็นบุคคลหน้าใหม่ที่ไม่มีประวัติมาก่อน และเจ้าหน้าที่พอทราบว่ากลุ่มใดอยู่เบื้องหลังการก่อเหตุ

“ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดว่าเป็นการกระทำของกลุ่มใด เพราะยังไม่มีการประกาศตัวชัดเจน โดยไม่ชี้ชัดว่าเป็นกลุ่มบีอาร์เอ็น หรือกลุ่มวาดะห์ เนื่องจากที่ผ่านมาพบว่า มีหลายกลุ่มที่พยายามเคลื่อนไหวมาโดยตลอด และมีการกระทำความรุนแรงหวังผลหลายอย่างในเวลาเดียวกัน” พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวแก่ผู้สื่อข่าวในเดือนสิงหาคม

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง