นายกรัฐมนตรีไทยยินดีกับโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯคนที่ 45
2016.11.09
กรุงเทพฯ

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวแสดงความยินดีต่อนายโดนัลด์ ทรัมป์ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาคนที่ 45 หลังจากชนะการเลือก ในวันอังคารนี้ ตามเวลาในประเทศสหรัฐอเมริกา
“ขอแสดงความยินดีกับผู้ได้รับการเลือกตั้งในครั้งนี้... เราเป็นมิตรกับสหรัฐฯ มา 183 ปี ดังนั้น ไม่ว่าใครจะมาเป็นรัฐบาล ประเทศไทยจะดำเนินตามนโยบายเดิม คือ นโยบายการต่างประเทศที่สมดุล เพราะเราเป็นประเทศที่อยู่ตรงกลางของอาเซียน ต้องทำทุกอย่างให้ได้รับประโยชน์สูงสุด” พลเอกประยุทธ์ กล่าวในขณะไปตรวจเยี่ยมกระทรวงมหาดไทยในวันนี้
นายโดนัลด์ ทรัมป์ผู้แทนพรรครีพับลิกัน เป็นนักการเมืองที่มีวาจาโผงผาง และได้เสนอนโยบายบางอย่างที่สร้างความกังวลใจให้กับประชาชนทั่วโลก เช่น นโยบายทางการค้าที่เข้มงวด การเพ่งเล็งชาวมุสลิมที่เดินทางเข้าประเทศ รวมทั้งความกังวลต่อการขัดแย้งกับจีนและรัสเซีย เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม หลังจากการทราบผลการนับคะแนนว่ามีชัยชนะแน่นอน นายโดนัลด์ ได้แถลงข่าว ณ ที่ทำการติดตามการเลือกตั้งพรรครีพับลิกัน ในนครนิวยอร์ค ด้วยท่าทีที่นุ่มนวล
“ผมต้องการบอกกล่าวกับชุมชนโลกว่า ในขณะที่เรามุ่งประโยชน์ของอเมริกาเป็นสิ่งแรก แต่เราจะมีปฏิสัมพันธ์อย่างยุติธรรมกับทุกคน กับทุกคน... ต่อประชาชนและทุกประเทศ เราจะสร้างพื้นที่ร่วมกัน ไม่ใช่ความเป็นศัตรู ความร่วมมือ ไม่ใช่การเผชิญหน้า” นายโดนัลด์ ทรัมป์กล่าว
“เรามีแผนการทางเศรษฐกิจที่ยิ่งใหญ่ เราจะเพิ่มการเติบโตและสร้างเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งทุกแห่งในโลก ในขณะเดียวกัน เราจะเป็นมิตรกับทุกประเทศที่พร้อมใจเป็นมิตรกับเรา... เราจะเป็นมิตร... เราจะมีความสัมพันธ์ที่ยิ่งใหญ่ต่อกัน” นายโดนัลด์ กล่าว
นายโดนัลด์ ทรัมป์ได้รับคะแนนเสียงคณะเลือกตั้ง (electoral vote) 276 เสียง ในขณะที่นางฮิลลารี คลินตัน คู่แข่งจากพรรคเดโมแครต ได้คะแนน 218 เสียง นายโดนัลด์ ทรัมป์จะสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี ในวันที่ 20 มกราคม 2560
ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรครีพับลิกันได้รับที่นั่ง 236 ที่นั่ง ส่วนพรรคเดโมแครต 191 ที่นั่ง ขณะที่การเลือกตั้งวุฒิสมาชิก พรรครีพับลิกันได้รับที่นั่ง 51 ที่นั่ง ส่วนพรรคเดโมแครต 47 ที่นั่ง
ผลกระทบต่อไทยและภูมิภาค
ดร.ปณิธาน วัฒนายากร ที่ปรึกษาของรองนายกรัฐมนตรี พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ์ กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงผู้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ อาจจะมีผลต่อรูปแบบการดำเนินการใหม่ของสหรัฐ เนื่องจากสหรัฐต้องการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ทำให้ประเทศต่างๆ ต้องปรับตัวมากขึ้น
“ต่างประเทศรวมถึงไทยอาจจะต้องปรับตัวกับวิธีการใหม่ๆ ของเขา เช่น การค้าการลงทุน เนื่องจากเขามีนโยบายที่จะฟื้นฟูสภาพเศรษฐกิจให้เข้มแข็งอย่างชัดเจน ก็อาจมีนโยบายกดดันทางด้านต่างๆ ให้เอื้อกับการแข่งขันของอเมริกามากขึ้น ปรับค่าเงิน อาจจะตั้งกำแพงภาษี ตั้งเงื่อนไขเรื่องคุณภาพสินค้ามากขึ้น” ดร.ปณิธาน กล่าวแก่เบนาร์นิวส์ทางโทรศัพท์
“โดยภาพรวมเขาคงจะให้ความสำคัญกับเรื่องสิทธิมนุษยชนน้อยลง เขาอาจจะไม่ยกประเด็นในเรื่องวัฒนธรรมอะไร ยกเว้นที่เกี่ยวกับคะแนนนิยมของเขา เช่น ศาสนา หรือผู้อพยพ ผู้ลี้ภัย อาจจะตั้งมาตรการที่เข้มข้นขึ้นในการคัดกรองคนเหล่านั้นเข้ามาในประเทศ” ดร.ปณิธาน กล่าวเพิ่มเติม
นายนววิช นวชีวินมัย อาจารย์คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฎนครปฐม กล่าวต่อเบนาร์นิวส์ว่า การที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีถือว่าค่อนข้างผิดความคาดหมาย เพราะที่ผ่านมาถูกโจมตีเรื่องการเหยียดเพศมาตลาด ซึ่งเชื่อว่าถ้าเรื่องลักษณะเดียวกันนี้เกิดขึ้นในประเทศไทยน่าจะโดนหยิบมาโจมตีอย่างหนัก แต่เชื่อว่าประชาชนส่วนหนึ่งอาจเลือกเขาเพราะนโยบายที่ค่อนข้างเป็นประชานิยม
“จะส่งผลยังไงกับประเทศไทยก็ไม่แน่ใจ ที่ผ่านมาโอบาม่า เน้นฟรีเทรดกับแคนาดา และเม็กซิโก แต่เห็นว่าทรัมป์ จะยกเลิกก็ไม่รู้ว่าวิธีแบบนี้ จะกระทบเอเชียและไทยด้วยไหม แต่คนอเมริกาน่าจะหันมาใช้ของในประเทศมากขึ้น เพราะภาษีจากเม็กซิกัน และจีนแพงขึ้น” นายนววิช กล่าว
ด้าน นายรัฐพล แจ่มจันทร์ พนักงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง กล่าวต่อเบนาร์นิวส์ว่า การขึ้นได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีของนายโดนัลด์ ทรัมป์ น่าจะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก
“สิ่งที่จะมีการเปลี่ยนแปลงน่าจะเป็นเรื่องการส่งออกเพราะเหมือนว่าจะปรับเขตการค้า แล้วดึงการลงทุนมาในประเทศมากขึ้น อาจส่งผลกับค่าเงินในตลาดโลก ส่วนกระทบกับประเทศไทยหรือไม่ คิดว่าไม่ เพราะค่อนข้างห่างไกลกับประเทศไทย” นายรัฐพลกล่าว
นายรัฐพลกล่าวเพิ่มเติมว่า การได้รับตำแหน่งของนายทรัมป์ อาจเกิดการเปลี่ยนแปลงด้านความมั่นคงด้วยเช่นกัน ยกตัวอย่าง ปัญหาสหรัฐอเมริกา-รัสเซีย หรือสหรัฐอเมริกา-ฟิลิปปินส์
นายภูริพงศ์ สุทธิโสภาพันธ์ อาจารย์คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวต่อเบนาร์นิวส์ว่า ผู้นำประเทศสหรัฐคนใหม่ ที่มีบุคลิกภาพที่หลายๆ คนไม่ชื่นชอบ แต่ไม่น่าจะส่งผลกระทบใดๆ ต่อไทย
“น่าจะเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของอเมริกา แต่คิดว่าได้ใครมา ไทยก็ยังไม่น่าจะมีอะไรดี เพราะไม่น่าจะกระทบกันไกลขนาดนั้น” นายภูริพงศ์ กล่าวต่อเบนาร์นิวส์