อาสาสมัคร-ชาวบ้าน เสียชีวิตสองรายในเหตุรุนแรงชายแดนใต้
2016.09.29
นราธิวาส

ในวันพฤหัสบดี (29 ก.ย. 2559) ได้เกิดเหตุการยิงและระเบิดขึ้นสามครั้ง ในพื้นที่จังหวัดปัตตานี และนราธิวาส เป็นเหตุให้มีผู้หญิงและอาสาสมัครป้องกันหมู่บ้าน เสียชีวิตสองราย และได้รับบาดเจ็บอีก 10 ราย ซึ่งนักวิเคราะห์และเจ้าหน้าที่ระบุว่า ผู้ก่อการต้องการตอบโต้เจ้าหน้าที่รัฐที่กดดันจับกุมสมาชิกในขบวนการ และอาวุธ ได้อย่างต่อเนื่อง
ในอำเภอสุไหงโกลก นราธิวาส ร.ต.อ.ชนาวุฒิ ขวดใส รองสารวัตรสอบสวน สภ.มูโน๊ะ อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส กล่าวว่า ได้มีเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามบุกยิงอาสาสมัครรักษาดินแดน ที่ปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่โรงเรียนบ้านลูโบ๊ะลือซง เสียชีวิตหนึ่งรายและได้รับบาดเจ็บสองราย
นายปรีชา นวลน้อย นายอำเภอสุไหงโกลก ซึ่งได้เข้าไปตรวจสอบพื้นที่ กล่าวแก่เบนาร์นิวส์ว่า มีคนร้ายกว่าสิบคนใช้ผ้าคลุมผมผู้หญิงอำพรางใบหน้า ใช้จักรยานยนต์เป็นพาหนะใช้อาวุธสงครามยิงชุด รปภ. ที่นั่งอยู่ใต้สะพานลอยหน้าโรงเรียน เกิดการยิงต่อสู้กันจนมีผู้เสียชีวิตหนึ่งรายและบาดเจ็บสองราย
“คนร้ายมีการวางแผนทำร้ายเจ้าหน้าที่ เนื่องจากเจ้าหน้าที่วางกำลังกดดันบ่อยครั้ง คนร้ายก่อเหตุหวังผลต่อชีวิตเจ้าหน้าที่ และอาวุธปืนของทางการ” นายปรีชา กล่าวแก่เบนาร์นิวส์
ผู้เสียชีวิต คือ อส.อุสมาน รูเป๊ะ ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บสองราย คือ อส.สุรินทร์ และสุข ถูกยิงที่ต้นขาซ้ายกระดูกหัก และ อส.มะรอสือดี ตาตูเล๊ะ ถูกยิงที่บริเวณบริเวณหัวไหล่ขวา เจ้าหน้าที่จึงได้ช่วยกันนำตัวส่งรักษาที่โรงพยาบาลสุไหงโกลก ส่วนฝ่ายคนร้ายสามารถยึดปืนไรเฟิลของอาสาสมัครไปได้สามกระบอก และหลบหนีไปได้
ในห้วงปี 2559 ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แสดงข้อมูลสรุปผลการปฏิบัติการติดตามจับกุมและปิดล้อมตรวจค้น รวมทั้งหมดกว่าเจ็ดพันครั้ง และในระยะไม่นานมานี้ เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมสมาชิกขบวนการก่อความไม่สงบ อาวุธ และระเบิดดัดแปลงแบบต่างๆ ได้บ่อยครั้งขึ้น
พลโทนันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตเจ้าหน้าที่ข่าวกรอง ศูนย์รักษาความปลอดภัย กล่าวว่า ในระยะเดือนสองเดือนที่ผ่านมา คนร้ายก่อเหตุบ่อยครั้งขึ้น เพราะทางการมีมาตรการเข้มงวดกว่าเดิมจนสามารถจับกุมผู้ก่อการพร้อมอาวุธได้มากขึ้น ฝ่ายก่อความไม่สงบจึงต้องการส่งสัญญาณต่อผู้ให้การสนับสนุนต่อรัฐว่าจะต้องถูกสังหาร
“คนร้ายกระทำต่อเป้าหมายอาสาสมัคร เพื่อต้องการบอกว่าใครที่สนับสนุนรัฐจะต้องถูกจัดการ” พล.ท.นันทเดช กล่าวแก่เบนาร์นิวส์
อย่างไรก็ตาม พลโทนันทเดชกล่าวว่า แม้ว่าความรุนแรงในพื้นที่ยังคงมีอยู่ แต่การพูดคุยเพื่อสันติสุขที่ดูเหมือนจะสะดุดลงไปนั้น จะยังคงเดินหน้าต่อไป
ตั้งแต่ ขบวนการก่อความไม่สงบในสามจังหวัดชายแดนใต้ ปล้นปืนจากค่ายปิเหล็ง ในปี พ.ศ. 2547 และก่อเหตุรุนแรงระลอกใหม่ ได้มีผู้เสียชีวิตเพราะเหตุการยิง-ระเบิด แล้วกว่า 6,500 ราย ทั้งเจ้าหน้าที่รัฐ ประชาชนทุกเพศวัย และศาสนบุคคลทั้งในศาสนาอิสลามและศาสนาพุทธ
ทางการไทยและฝ่ายขบวนการแบ่งแยกดินแดน ได้เริ่มการพูดคุยสันติภาพขึ้นในสมัยรัฐบาลนายกยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในปี พ.ศ. 2556 โดยมีมาเลเซียเป็นผู้อำนวยความสะดวก
ต่อมาในยุครัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ฝ่ายขบวนการแบ่งแยกดินแดน ในนามกลุ่มมาราปาตานี ที่ประกอบด้วยแกนนำขบวนการบีอาร์เอ็นบางราย ขบวนการบีเอ็มพีพี ขบวนการจีเอ็มไอพี และบางกลุ่มย่อยของขบวนการพูโล ได้เปิดตัวเป็นครั้งแรกเมื่อเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2558 เพื่อร่วมพูดคุยเพื่อสันติสุขกับตัวแทนรัฐบาลไทย
ในการพูดคุยครั้งล่าสุดในกรุงกัวลาลัมเปอร์ เมื่อวันที่ 2 กันยายน ศกนี้ ทั้งสองฝ่ายมีความเห็นสอดคล้องกันว่า ในการพูดคุยครั้งต่อไปจะมีการพิจารณาพื้นที่ปลอดภัย หรือพื้นที่หยุดยิง รวมทั้งข้อเสนอของกลุ่มสตรีในสามจังหวัดชายแดนใต้ด้วย
อย่างไรก็ตาม นับจากวันที่ 2 กันยายนเป็นต้นมา ได้มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์รุนแรงอย่างน้อย 11 ราย ในจังหวัดชายแดนภาคใต้
คนร้ายยิง-ระเบิดปั๊มน้ำมันในอำเภอโคกโพธิ์ ปัตตานี
ในวันเดียวกันนี้ ร.ต.อ.เกียรติชัย นัคเร รองสารวัตรสอบสวน สภ.โคกโพธิ์ รับแจ้งเหตุคนร้ายยิงพนักงานปั๊ม และวางระเบิดภายในปั๊มน้ำมัน ม.2 ต.บางโกระ อ.โคกโพธิ์ ปัตตานี เป็นเหตุให้ลูกจ้างปั๊มน้ำมันเสียชีวิต 1 ราย และทำให้เจ้าหน้าที่และชาวบ้าน ได้รับบาดเจ็บอีก 7 ราย
ทราบชื่อ ผู้เสียชีวิต คือ น.ส.ธีรภัทร จันทโรจวงศ์ อายุ 37 ปี ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ คือ 1.ส.ต.ต.มะยูนัน เหมตำ อายุ 21 ปี 2.ส.ต.ต.รัฐพล เพชรกาฬ อายุ 25 ปี 3.ส.ต.ต.นวพล ก้องสมัน อายุ 23 ปี 4.อส.ทพ.วัฒนา ฤทธิ์ภู่ อายุ อายุ 24 ปี 5.อส.ทพ.กิตติพงศ์ หวันชิตนาย อายุ 31 ปี 6.ด.ต.นิมิตร บุญถาวร อายุ 47 ปี ส่วน 7.น.ส.ชญานันท์ อินทรัตน์ อายุ 27 ปี ถูกไฟไหม้ทั้งตัว ทั้งหมดถูกนำส่งโรงพยาบาลโคกโพธิ์
จากการสอบสวน ทราบว่า ในขณะที่ น.ส.ธีรภัทร กำลังบริการจ่ายน้ำมันให้ลูกค้าอยู่นั้น ได้มีคนร้าย 2 คน ขับรถจักรยายนต์เข้ามาแล้วใช้อาวุธปืนยิงจนเสียชีวิต ก่อนที่นำระเบิดไปวางภายในห้องสำนักงานปั้มน้ำมัน และได้เกิดระเบิดขึ้น ในขณะเจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ส่วนรายที่สาม ในอำเภอบาเจาะ นราธิวาส โดย พ.ต.ต.ทวี สุครีพ สารวัตรสอบสวน สภ.ปะลุกาสาเมาะ รายงานว่า มีเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงชาวบ้าน ขณะขับขี่รถจักรยานยนต์ ที่บริเวณ ม.1 บ้านบือแนตีแย ต.ปะลุกาสาเมาะ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส ทราบชื่อผู้ได้รับบาดเจ็บ คือ นายเรียง ฉัตรสุวรรณ ถูกนำส่งโรงพยาบาลบาเจาะ จังหวัดนราธิวาส