กลุ่มประชาสังคมร่วมกันประณามการสังหารนักต่อสู้เพื่อสิทธิทำกินในภาคใต้
2015.03.02
เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถจับตัวคนร้ายที่สังหารนายใช่ บุญทองเล็ก สมาชิกสหพันธ์เกษตรกรภาคใต้ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ภาคใต้ ประเทศไทยได้ แม้ว่ากลุ่มสิทธิมนุษยชนกลุ่มต่างๆ จะเรียกร้องให้จับกุมตัวคนร้ายเพื่อมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็วที่สุด
หนังสือพิมพ์ฉบับต่างๆ ได้รายงานว่า มือปืนสองคนได้ใช้จักรยานยนต์เป็นพาหนะในการสังหารนายใช่ บุญทองเล็ก อายุ 65 ปี สมาชิกสหพันธ์เกษตรกรภาคใต้ ที่ชุมชนคลองชัยพัฒนา อำเภอชัยบุรี จังหวัดสุราษฎร์ธานี ในคืนวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา
กลุ่มนักสิทธิมนุษยชนกล่าวว่า นายใช่ เป็นนักต่อสู้เพื่อสิทธิทำกินในที่ดินรายที่สี่ของชุมชนคลองชัยพัฒนา ที่ต้องตกเป็นเหยื่อคมกระสุนในรอบห้าปีที่ผ่านมา โดยในทุกเหตุการณ์ ยังไม่การจับกุมคนร้ายได้แม้แต่คดีเดียว
ในคดีนี้ ร.ต.ท. ชวลิต ทองมา พนักงานสอบสวน สภ. ชัยบุรี ได้ให้สัมภาษณ์ ต่อสำนักข่าวเอเอฟพีว่า “นายใช่ถูกยิงสามนัดและเสียชีวิตในทันที” พร้อมกับกล่าวว่า เจ้าหน้าที่สอบสวนได้ให้น้ำหนักสาเหตุของการสังหารไปที่การเคลื่อนไหวต่อสู้เพื่อสิทธิทำกินในที่ดิน
สหพันธ์นานาชาติเพื่อสิทธิมนุษย์ (International Federation for Human Rights -- FIDH) รายงานว่า ผู้ถูกสังหารอีกสามรายคือ นางมณฑา ชูแก้ว นางปราณี บุญรักษ์ และนายสมพร พัฒนภูมิ
การเรียกร้องความยุติธรรมให้แก่ผู้เสียชีวิต
เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ สหพันธ์นานาชาติเพื่อสิทธิมนุษย์ เป็นหนึ่งในกลุ่มเคลื่อนไหวที่ได้ส่งจดหมายเปิดผนึกไปยังพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลจับกุมตัวผู้ร้ายในทั้งสี่คดี มาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมโดยเร็วที่สุด
โดยเนื้อหาในจดหมายมีว่า “ชาวบ้านยังคงถูกคุกคามโดยการใช้กำลังขับไล่ออกจากพื้นที่ และเผชิญกับความรุนแรงโดยกลุ่มที่มีอาวุธที่มีความเชื่อมโยงกับบริษัท จิวกังจุ้ย พัฒนา จำกัด”
“นับตั้งแต่มีการประกาศกฎอัยการศึก ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2557 เราได้ประจักษ์ต่อการยกระดับและการขยายตัวของการละเมิดสิทธิมนุษยชนในประเทศไทย ทั้งในพื้นที่ชนบทและตัวเมือง แต่ละชุมชนได้รับผลกระทบจากการถูกลิดรอนทั้งทางเศรษฐกิจและการเมือง และอยู่ในภาวะล่อแหลมต่อการถูกกระทำโดยการใช้กำลังขับไล่ออกจากพื้นที่และถูกจำกัดการเข้าถึงพื้นที่ป่า ถือว่าเป็นการคุกคามสิทธิพื้นฐานในการดำเนินชีวิตและเกียรติภูมิของมนุษย์”
องค์กรฟอรั่มเอเชีย ยังได้ร่วมลงนามในหนังสือเปิดผนึกฉบับนี้ด้วยเช่นกัน รวมทั้ง ได้ออกแถลงการณ์ร่วมกับมูลนิธิศักยภาพชุมชนประณามการสังหารนายใช่อย่างโหดเหี้ยม
“การกระทำที่น่าละอายนี้ เป็นหนึ่งในหลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ที่ใช้คุกคามข่มขู่ชุมชนที่ต้องต่อสู้เพื่อปกป้องที่ดินทำกินของตนเองและชีวิตความเป็นอยู่จากการบุกรุกของระบบการเกษตรเชิงอุตสาหกรรม ที่ทำลายล้างธรรมชาติในจังหวัด” เอเวอร์ลีน บาเลสเซอร์ราโน ผู้อำนวยการบริหารของฟอรั่มเอเชีย กล่าวในจดหมาย
เอเวอร์ลีน กล่าวเพิ่มเติมว่า “เหตุการณ์ทั้งหมด เป็นเหมือนการจงใจฆ่าและทำร้ายผู้ที่ปกป้องสิทธิมนุษย์ของตน อย่างเป็นระบบ ซึ่งเราไม่ควรต้องทนกับสิ่งเหล่านี้ รัฐบาลไทย ควรที่จะสืบสวนอย่างครอบคลุมถี่ถ้วน เพื่อที่จะนำตัวผู้ร้ายมาลงโทษให้ได้ อันจะเป็นการรักษาไว้ซึ่งความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมายบ้านเมือง หากรัฐบาลล้มเหลวต่อการนำตัวผู้ร้ายในคดีสังหารนายใช่ บุญทองเล็ก มาลงโทษ ถือว่าเป็นการส่งเสริมการอยู่เหนือกฎหมายให้ขยายวงกว้างขวางยิ่งขึ้น“