กองทัพภาคสี่เปิดกิจกรรมปั่นรวมใจไทยครั้งที่สอง
2017.03.09
ปัตตานี

ในวันพุธ (9 มีนาคม 2560) แม่ทัพกองภาคที่ 4 เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการปั่นรวมใจไทย 2 หลังจากเกิดเหตุการณ์สะเทือนขวัญยิงครอบครัวเด็กนักเรียนแปดขวบเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยหวังว่าจะสื่อสารออกไปว่า พื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ยังคงมีความปลอดภัยและสร้างความสามัคคีของประชาชนทุกศาสนา
พิธีเปิดโครงการ “ปั่นรวมใจ 2 ตอนจังหวัดชายแดนภาคใต้ กินดี อยู่ได้ เข้าใจกัน” จัดขึ้นที่สโมสร พล.ร.15 ค่ายสมเด็จพระสุริโยทัย อ.หนองจิก จ.ปัตตานี โดยมีพล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาค 4 เป็นประธานในพิธี ซึ่งได้เชิญชวนผู้ที่สนใจเข้าร่วมปั่นจักยานบนเส้นทางหลักในพื้นที่เมืองต้นแบบ “สามเหลี่ยม มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” ประกอบด้วย อ.หนองจิก จ.ปัตตานี อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส และ อ.เบตง จ.ยะลา
"กิจกรรมครั้งนี้ เพื่อให้พี่น้องได้เห็นว่าสามารถมาในพื้นที่นี้ได้จริงและปลอดภัย อีกทั้งประชาชนก็สามารถอยู่ได้" พล.ท.ปิยวัฒน์ กล่าว
พล.ท.ปิยวัฒน์ ให้ข้อมูลว่า ตลอดเส้นทางที่ขบวนรถจักรยานที่มีนักปั่นจักรยานหลักจำนวน 40 คน ผ่านไปในแต่ละพื้นที่นั้น จะมีการจัดกิจกรรมต่อเนื่อง ทั้งการจัดเสวนา ในรูปแบบเวทีชาวบ้าน การจัดกิจกรรมสาธารณประโยชน์ต่างๆ เพื่อนำเสนอวิถีชีวิต ศาสนา วัฒนธรรม ควบคู่ไปกับการดำเนินงานของภาครัฐในการแก้ไขปัญหา และส่งเสริมสนับสนุนช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพให้การดำเนินงานด้านการติดต่อสื่อสาร การสร้างความเข้าใจอันดีที่จะส่งผลให้ประชาชน นักลงทุน นักท่องเที่ยวทั้งจากในและนอกพื้นที่ได้เกิดความเชื่อมั่น ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญในการส่งเสริมสนับสนุนและเอื้ออำนวยต่อการขับเคลื่อนเมืองต้นแบบ “สามเหลี่ยม มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” ให้เกิดเป็นรูปธรรม
กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า จึงได้ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคประชาสังคม ภาคเอกชน และทุกภาคส่วน จัดโครงการปั่นรวมใจไทย 2 ในวันที่ 9-18 มีนาคม 2560 รวมระยะเวลา 10 วัน โดยจะมีนักปั่นจักรยานหลัก จำนวน 40 คน พร้อมด้วยนักปั่นในพื้นที่ ร่วมกันปั่นจักรยานไปตามเส้นทางในพื้นที่เมืองต้นแบบ “สามเหลี่ยม มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน”
สำหรับกิจกรรมปั่นจักยานรวมใจไทยครั้งแรก ที่ กอ.รมน.4 จัดขึ้นนั้น เกิดขึ้นในระหว่างวันที่ 25 สิงหาคม ถึง 1 ตุลาคม 2558 โดยได้ร่วมกับภาคประชาสังคม ภาคเอกชน และภาคส่วนต่างๆ เป็นตัวแทนประชาชนชาวไทยนำความรักความห่วงใยส่งไปยังพี่น้องในจังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วยการปั่นจักรยานเริ่มต้นจากจุดเหนือสุดของประเทศไทยบริเวณด่านผ่านแดนถาวรแม่สาย อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ไปยังจุดใต้สุดที่บริเวณ ด่านผ่านแดนเบตง อำเภอเบตง จังหวัดยะลา รวมระยะทางทั้งสิ้น 3,188 กิโลเมตร ใช้เวลารวมทั้งสิ้น 38 วัน
"ผลการจัดงานปั่นรวมใจไทยครั้งที่ 1 ทำให้สามารถสร้างช่องทางการสื่อสารที่ดีทั้งทางตรงและทางอ้อมให้ประชาชนในประเทศได้รับรู้สภาพความเป็นอยู่ วิถีชีวิต รับทราบและเข้าใจปัญหาและแนวทางการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ อีกทั้งยังสามารถสร้างมิตรภาพความรักให้เกิดขึ้นในหมู่พี่น้องชาวไทยทุกศาสนิก ทั้งคนที่อาศัยอยู่ในและนอกพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้เป็นอย่างดี จึงเกิดกิจกรรมครั้งที่ 2 ในวันนี้" พล.ท.ปิยวัฒน์ กล่าวเพิ่มเติม
นางอิสมาแอ สาแลยีงอ ชาวจังหวัดปัตตานี กล่าวว่า จากเหตุการณ์ยิงครอบครัวเด็กนักเรียนแปดขวบเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ชาวพุทธในพื้นที่อำเภอรือเสาะโกรธเคือง และขอให้ทางการใช้มาตรการเฉียบขาดต่อคนร้าย แต่ในขณะเดียวกัน กลับมีกลุ่มผู้ไม่หวังดี กุข่าวลวงว่าชาวไทยพุทธจะแก้แค้นชาวมุสลิม ตนจึงคิดว่าโครงการนี้จะช่วยสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง
“ปัญหาในพื้นที่ตอนนี้ เราต้องร่วมกันสร้างความเข้าใจกับคนในพื้นที่และคนนอกพื้นที่ เพื่อความสงบของทุกคนในบ้านเรา โดยเฉพาะตอนนี้ที่มีกระแสของคนพุทธและคนมุสลิม กิจกรรมนี้ก็สามารถทำให้คนในพื้นที่ได้เข้าใจว่าเกิดอะไร สาเหตุจริงไม่ใช่เป็นเรื่องขัดแย้งการเมืองอย่างที่หลายกลุ่มสรุป ก็คิดว่า กิจกรรมนี้สามารถเป็นสื่อกลางสร้างความเข้าใจได้ดี” นางอิสมาแอ กล่าวแก่เบนาร์นิวส์