ดีเอสไอยุติปฎิบัติการค้นวัดพระธรรมกาย แม้จะไม่พบพระธัมมชโย
2017.03.10
ปทุมธานี

ในวันศุกร์ (10 มีนาคม 2560) นี้ พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ แถลงยุติปฎิบัติการปิดล้อมและตรวจค้นวัดพระธรรมกาย เพื่อหาตัวพระไชยบูลย์ สุทธิผล หรือพระธัมมชโย อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ผู้ต้องหาคดีฟอกเงินและรับของโจรแล้ว หลังใช้เวลาค้นหา 23 วัน เนื่องจากเป็นที่มั่นใจแล้วว่าพระธัมมชโยได้หลบหนีออกจากวัดไปแล้ว และหากสถานการณ์กลับสู่ความสงบจะเสนอคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)ให้ยกเลิกคำสั่งตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญ (ชั่วคราว) พ.ศ.2557 ที่ให้พื้นที่วัดและบริเวณโดยรอบเป็นพื้นที่ควบคุม
“ได้เข้าตรวจค้นโซนเอและบี และอาคารบุญรักษาซึ่งมีข่าวว่าขุดคูคลองอะไรต่างๆ ทั้งสามส่วน ตรวจสอบก็ยังไม่พบบุคคลตามหมายจับ ก็สรุปได้ว่าบุคคลที่เราตามตัวเป็นบุคคลหลบหนีตามหมายจับ ฉะนั้นอายุความ 15 ปี เราก็จะติดตามสอบสวนต่อไป กรมสอบสวนคดีพิเศษก็จะจัดชุดติดตาม ด้านตรวจคนเข้าเมืองเราก็ได้ประสานแล้ว หากคนที่มีหมายจับหลบหนีออกทางด่านชายแดนต่างๆ ก็ต้องถูกจับกุม” พ.ต.อ.ไพสิฐกล่าวในการแถลงข่าว
“ทางวัดเองก็ยินยอมว่าการชุมนุมที่ตลาดกลางคลองหลวงจะยกเลิกตอนนี้ ประตูต่างๆ ทางวัดก็จะไม่ปิดกั้น จะเคลียร์พื้นที่ให้วัดกลับสู่สภาพเดิม เจ้าหน้าที่จะยังคุมกำลังที่ประตูทางเข้าต่างๆ เพื่อรักษาความปลอดภัย ถ้าสถานการณ์กลับสู่ปกติ ก็จะเสนอให้ยกเลิกพื้นที่ควบคุม” อธิบดีดีเอสไอระบุ
พ.ต.อ.ไพสิฐเพิ่มเติมว่า หลังจากนี้ การดำเนินคดีกับพระธัมมชโย ดีเอสไอ และสำนักงานตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี จะได้จัดชุดสอบสวนติดตามจับกุมตัว โดยหากเจ้าหน้าที่พบตัวผู้กระทำผิด ก็จะได้นำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
ในวันเดียวกัน พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ได้แถลงผลการประชุมคณะกรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) เรื่องการถอดสมณเพศ หรือให้ปาราชิกขาดจากความเป็นพระ ในกรณีที่มีการประพฤติผิดละเมิดพระธรรมวินัยจนเป็นอาจิณของพระธัมมชโย ซึ่งมี สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เป็นประธาน และใช้ระยะเวลาการประชุมกว่า 1 ชั่วโมงว่า การดำเนินการจะมีขั้นตอนเริ่มจากเจ้าคณะปกครอง
“พศ. ได้เสนอให้ใช้กฎ มส. ฉบับที่ 21 ข้อ 3 กรณีพระภิกษุประพฤติล่วงละเมิดพระธรรมวินัยเป็นอาจิณ โดยมีขั้นตอน คือ จะต้องเสนอเรื่องไปที่เจ้าคณะปกครอง คือ เจ้าคณะหน กลาง เจ้าคณะภาค เจ้าคณะจังหวัด เจ้าคณะอำเภอ และเจ้าคณะตำบล ตามลำดับ ก่อนจะมีการวินิจฉัยให้สละสมณเพศ” พ.ต.ท.พงศ์พรกล่าว
พ.ต.ท.พงศ์พร ระบุว่า การให้สละสมณเพศสามารถดำเนินการได้ 2 แนวทาง คือ 1. หากพบตัวพระภิกษุรูปนั้น ให้ดำเนินการสละสมณเพศภายในสามวัน 2. หากไม่พบพระภิกษุหรือพระภิกษุรูปนั้นไม่ยอมรับผิด ให้ดำเนินการปิดประกาศคำวินิจฉัย ณ ที่พำนักอาศัย และถือว่าทราบคำวินิจฉัยดังกล่าวแล้ว ต้องสละสมณเพศภายในสามวันเช่นกัน
ปฎิบัติการค้นหาตัวพระธัมมชโย และปิดล้อมวัดพระธรรมกายของเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ตำรวจ และทหาร เกิดขึ้นเนื่องจากพระธัมมชโยซึ่งถูกฟ้องร้องในคดีฟอกเงินและรับของโจร ไม่ยอมเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียกหลายครั้ง โดยการเข้าตรวจค้นครั้งนี้ เริ่มต้นขึ้นในวันที่ 16 ก.พ. 2560 หลังจากที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ใช้อำนาจตามมาตรา 44 รัฐธรรมนูญ (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ.2557 ออกคำสั่งควบคุมพื้นที่วัดพระธรรมกาย และห้ามบุคคลภายนอกเดินทางเข้าไปในเขตวัดเพิ่มเติม โดยเจ้าหน้าที่กว่า 4 พันนายได้กระจายกำลังค้นหาในส่วนต่างๆของวัด จนกระทั่งเวลาผ่านไป 23 วัน เป็นที่แน่ชัดว่า พระธัมมชโยไม่ได้อาศัยอยู่ในวัด จึงประกาศยุติปฎิบัติการ
คดีฟอกเงินและรับของโจรของพระธัมมชโย
ในเดือนมีนาคม 2559 นายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานกรรมการดำเนินการสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ถูกตัดสินลงโทษจำคุก 32 ปี แต่ศาลลดโทษลงกึ่งหนึ่งเหลือ 16 ปี ฐานยักยอกทรัพย์และจัดการทรัพย์ผู้อื่นโดยมิชอบ เป็นเงินกว่า 22 ล้าน ซึ่งจากการตรวจสอบเส้นทางการเงินของคดีนี้แล้ว พบว่ามีเงินบางส่วนเชื่อมโยงกับวัดพระธรรมกาย
ดีเอสไอ ตรวจสอบว่าพระธัมมชโย และเครือข่ายวัดพระธรรมกาย รับเช็คจากสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น รวม 21 ครั้ง เป็นเงิน 1,205,160,000 บาท โดยไม่มีมูลหนี้กับสหกรณ์ฯ และเมื่อวันที่ 13 มิ.ย. 2559 เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษส่งสำนวนคดีฟอกเงินและรับของโจรของพระธัมมชโยให้พนักงานอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ โดยพนักงานอัยการมีความเห็นสั่งฟ้องพระธัมมชโย ในความผิดฐานฟอกเงินและรับของโจร
ทั้งนี้ ดีเอสไอได้สรุป จำนวนคดีทั้งหมดที่หน่วยงานรัฐฟ้องร้องดำเนินคดีกับวัดพระธรรมกาย โดยระบุว่ามีทั้งสิ้น 346 คดี เป็นการฟ้องร้องเอาผิดกับพระธัมมชโย พระลูกวัดพระธรรมกาย มูลนิธิวัดพระธรรมกาย และลูกศิษย์วัดพระธรรมกาย ในข้อหาต่างๆ เช่น ความผิดที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน การบุกรุกพื้นที่ป่า และพื้นที่สาธารณะ เป็นต้น โดยออกหมายจับแล้วทั้งหมด 24 หมายจับ ในนั้น เป็นหมายจับเฉพาะของพระธัมมชโย 16 หมายจับ มีผู้เข้ามอบตัวแล้ว 3 ราย