ศิลปินและนักอนุรักษ์รณรงค์ให้สังคมตื่นตัว จับตาคดีล่าเสือดำ
2018.03.19
กรุงเทพฯ
ประชาชน และนักอนุรักษ์ใช้กิจกรรมรณรงค์รวมตัวเคลื่อนไหว จัดกิจกรรมศิลปะ ตามพื้นที่ต่างๆ ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ในหลายรูปแบบ เพื่อเป็นการกระตุ้นให้สังคมตื่นตัวและให้ความสนใจในคดีเสือดำ การลักลอบล่าสัตว์ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า โดยนายเปรมชัย กรรณสูต และพวกอีกสามคน และติดตามการทำงานของระบบยุติธรรมอย่างใกล้ชิด ในการดำเนินคดีทางกฎหมายในกรณีนี้เป็นพิเศษ โดยเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา กลุ่มทีชาลล่า (ตั้งชื่อตามตัวละครหลักในภาพยนตร์เรื่อง แบล็คแพนเธอร์ซึ่งใช้เครื่องแต่งกายเลียนแบบเสือดำ) ซึ่งเป็นกลุ่มรณรงค์เฉพาะกิจได้มีการเล่นดนตรี และเสวนา ที่หน้าหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร
นักอนุรักษ์ นักเคลื่อนไหว และประชาชนบางกลุ่ม ยังคงรณรงค์เรียกร้อง แม้เวลาผ่านมากว่าหนึ่งเดือนแล้ว ขณะที่บนกำแพงหลายแห่งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ถูกใช้เป็นพื้นที่สำหรับการทำกราฟฟิตี้ (ศิลปะการพ่นสี) ภาพเสือดำ และสัตวป่าคุ้มครองอื่นๆ เพื่อรณรงค์เรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง แม้ภาพที่ศิลปินพ่นเอาไว้บนกำแพงสาธารณะหลายแห่งจะถูกพ่นทับ หรือลบทำลาย แต่บนกำแพงส่วนบุคคลบางแห่ง เช่น กำแพงโรงพยาบาลสัตว์ เพ็ทแอนด์อะควอติก ในซอยลาดพร้าว 71 ย่านรามอินทรา เจ้าของได้อนุญาตให้มีการพ่นสีเพ้นท์ภาพบนกำแพง เพื่อเรียกร้องความยุติธรรม และไม่ให้คนลืมเลือนกรณีการล่าสัตว์ป่า
และแม้ว่าล่าสุด นายเปรมชัยจะระบุผ่านสื่อมวลชนว่า “ผมไม่ได้ฆ่าเสือดำ” แต่หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์พิสูจน์แล้วว่า ชิ้นส่วนสัตว์ที่พบบริเวณเต็นท์ของนายเปรมชัยนั้น เป็นสัตว์ป่าคุ้มครองจริง โดยเฉพาะซากเสือดำ ไก่ฟ้าหลังเทาที่ถูกชำแหละ และถูกนำมาประกอบอาหาร
จากการเปิดเผยของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืชพบว่า ปัจจุบัน เสือดำ และเสือดาวเหลือประมาณ 100-130 ตัวในพื้นที่อุทยานแห่งชาติทุ่งใหญ่นเรศวร-ห้วยขาแข้ง ขณะที่องค์กรระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN) ระบุว่า เสือดำอาจเหลืออยู่ทั่วโลกเพียงไม่ถึง 2,500 ตัว ขณะที่ไก่ฟ้าหลังเทา ถือเป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์เช่นกัน