คอบร้าโกลด์ 2023 ปิดฉากด้วยการฝึกยิงอาวุธจริง

การฝึกซ้อมรบร่วมคอบร้าโกลด์ 2023 ปิดฉากลงในช่วงเช้าของวันศุกร์นี้ ด้วยการฝึกดำเนินกลยุทธ์ด้วยกระสุนจริง โดยมีทหารสหรัฐ ไทย มาเลเซีย สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย กว่า 600 นาย ร่วมฝึกที่ศูนย์การทหารปืนใหญ่ ในจังหวัดลพบุรี

พล.อ. เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และ พล.ต. สตีเฟน จี สมิธ (Stephen G. Smith) ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 7 ของสหรัฐอเมริกา เดินทางมายังศูนย์การทหารปืนใหญ่ อ.พัฒนานิคม เพื่อชมการสาธิตการฝึกดำเนินกลยุทธ์ด้วยกระสุนจริง (CALFEX) โดยมีผู้แทนผู้บัญชาการทหารสูงสุดมิตรประเทศ และผู้แทนผู้บัญชาการเหล่าทัพ

กองทัพบกสหรัฐใช้ยานเกราะสไตรเกอร์ ขณะที่กองทัพบกไทยใช้ยานเกราะแบบ บีทีอาร์-3 ที่จัดหามาจากยูเครน ร่วมเข้าตีเป้าหมายจำลองเพื่อสถาปณาความมั่นคงในขั้นสุดท้าย โดยมีปืนใหญ่วิถีโค้งทั้งของไทยและสหรัฐ จรวดหลายลำกล้อง HIMARS ยิงสนับสนุนการปฏิบัติการ และมีการสนับสนุนทางอากาศใกล้ชิดด้วยเฮลิคอปเตอร์ AH-64 อาปาเช่ของสหรัฐ และการโจมตีทางอากาศ F-16 ของจากทั้งสองประเทศ     

“การฝึกดำเนินกลยุทธ์ด้วยกระสุนจริง ประกอบด้วยกำลังพลและยุทโธปกรณ์จากกองทัพไทย กองทัพสหรัฐอเมริกา กองทัพสิงคโปร์ กองทัพมาเลเซีย และกองทัพอินโดนีเซีย ยอดผู้เข้าร่วมการฝึก 609 นาย กิจกรรมการฝึก ประกอบด้วย การโดดร่มแทรกซึมเบื้องสูง การซุ่มยิง การบินขัดขวางทางอากาศ การยิงเตรียมและการยิงสนับสนุนของปืนใหญ่ การเจาะช่องเปิดเส้นทางของทหารช่าง การเคลื่อนที่ประกอบการยิง” กองอำนวยการฝึกคอบร้าโกลด์ ระบุ

กองอำนวยการฝึกคอบร้าโกลด์ ชี้ว่า การฝึกคอบร้าโกลด์ที่ผ่านมานับว่าประสบผลสำเร็จเป็นอย่างสูง ในการพัฒนาขีดความสามารถกำลังพลของประเทศที่เข้าร่วมการฝึก และเป็นศูนย์รวมการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางวิชาการ หลักนิยม และเทคโนโลยีทางทหาร รวมทั้งเพิ่มพูนประสบการณ์ให้กับกำลังพลของกองทัพไทยและกองทัพมิตรประเทศในปฏิบัติการร่วมสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการที่จะเสริมสร้างความร่วมมือและความสัมพันธ์อันดีระหว่างกัน

ด้าน พ.ท. ไบเรน ฟริโก้ ฝ่ายสื่อสารมวลชนของกองพลทหารราบที่ 7 กล่าวกับเบนาร์นิวส์ว่า การฝึกเป็นไปตามเป้าประสงค์

“กองพลทหารราบที่ 7 มาที่นี่เพื่อสร้างการประสานงาน สร้างความร่วมมือ และแสดงความพร้อมของเรา ซึ่งผมคิดว่าเราทำได้สำเร็จและจะสามารถให้การสนับสนุนพาร์ทเนอร์และพันธมิตรในภูมิภาคนี้ได้ เราได้ฝึกร่วมกันมากับทหารไทยและได้สร้างความเป็นหุ้นส่วนและความสัมพันธ์ระหว่างกัน ซึ่งเรามีร่วมกับประเทศไทยมาอย่างยาวนาน” พ.ท. ไบเรน กล่าว

กำลังพลทหารไทยเตรียมต้อนรับผู้บังคับบัญชา หลังจากที่การฝึกคอบร้าโกลด์ 2023 ปิดฉากลง วันที่ 10 มีนาคม 2566 (นนทรัฐ ไผ่เจริญ/เบนาร์นิวส์)

การฝึกร่วมผสมทางทหารคอบร้าโกลด์ ซึ่งกองทัพไทยและกองกำลังสหรัฐอเมริกา ภาคพื้นอินโด-แปซิฟิก ร่วมกันเป็นเจ้าภาพครั้งนี้ จัดขึ้นเป็นทางการระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 10 มีนาคม 2566 โดยมี 7 ชาติหลัก เข้าร่วมฝึกในภารกิจทางทหาร คือ ไทย, สหรัฐอเมริกา, สิงคโปร์, ญี่ปุ่น, อินโดนีเซีย, เกาหลีใต้ และมาเลเซีย และมีกำลังพลเกือบหนึ่งหมื่นคนเข้าร่วมการฝึกบนภาคพื้นดินและภาคพื้นทะเล เป็นฝ่ายไทย 2,601 นาย เป็นกำลังฝ่ายสหรัฐประมาณ 6,000 คน ในจำนวนนี้ เป็นเป็นกำลังพลที่ร่วมการฝึกทางบกกว่า 3.8 พันคน มากที่สุดในรอบสิบปี

สำหรับการฝึกสำคัญในปีนี้ สามารถแบ่งได้เป็น 3 การฝึกหลักคือ 1. การฝึกปัญหาที่บังคับการ (Command Post Exercise : CPX) เป็นการฝึกอำนวยการยุทธ์ของกำลังรบขนาดใหญ่ เพื่อรองรับภัยคุกคามทุกรูปแบบในทุกมิติ คือ ทางบก ทางทะเล ทางอากาศ ทางด้านไซเบอร์ และทางอวกาศ โดยเป็นปีแรกที่มีการฝึกด้านอวกาศ

โครงการช่วยเหลือประชาชน (Humanitarian Civic Assistance: HCA) ได้แก่ การก่อสร้างอาคารเอนกประสงค์สำหรับโรงเรียนในพื้นที่การฝึก และการฝึกการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและบรรเทาภัยพิบัติ และ 3. การฝึกภาคสนาม (Field Training Exercise - FTX) ของกองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ มีการฝึกการยุทธ์สะเทินน้ำสะเทินบก การกระโดดร่มทางยุทธศาสตร์ การอพยพพลเรือนจากพื้นที่ความขัดแย้ง และการฝึกดำเนินกลยุทธ์ด้วยกระสุนจริง

การฝึกคอบร้าโกลด์ เป็นการฝึกร่วมผสมทางทหารที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในปีนี้ จะจัดขึ้นในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ลพบุรี ระยอง ชลบุรี และฉะเชิงเทรา โดยมีการฝึกสะเทินน้ำสะเทินบก ที่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ในวันที่ 3 มีนาคม 2566 รวมถึงการฝึกดำเนินกลยุทธ์ด้วยกระสุนจริง ที่ อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี ในวันที่ 10 มีนาคม 2566