'ผู้กำกับโจ้' มอบตัวแล้วที่ชลบุรี ระบุไม่ได้ตั้งใจฆ่า
2021.08.26
กรุงเทพฯ

พล.ต.อ. สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) และคณะผู้บังคับบัญชา แถลงข่าวในค่ำวันพฤหัสบดีนี้ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถควบคุมตัว พ.ต.อ. ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือผู้กำกับโจ้ อดีตผู้กำกับการ สภ.เมืองนครสวรรค์ และลูกน้องอีก 6 ราย ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีซ้อมทรมานผู้ต้องหาคดียาเสพติดจนเสียชีวิตได้ครบทุกรายแล้ว โดยผู้กำกับโจ้ระบุไม่ได้ตั้งใจฆ่า
ในตอนเย็นของวันพฤหัสบดีนี้ พ.ต.อ. ธิติสรรค์ เข้ามอบตัวกับ พล.ต.ต. เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 6 อดีตผู้บังคับบัญชา ซึ่งได้เดินทางไปรับตัว ผกก.โจ้ ที่หลบไปอยู่ที่จังหวัดชลบุรี และยืนยันว่าการกระทำดังกล่าวไม่ได้ต้องการเรียกรับเงินจากผู้ตายตามที่เป็นข่าว
พ.ต.อ. ธิติสรรค์ เปิดเผยแก่สื่อมวลชนผ่านโทรศัพท์ระหว่างการแถลงข่าวว่า ตนตัดสินใจเข้ามอบตัวเพื่อรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้น
“ผมยอมรับว่า สิ่งที่กระทำไปไม่ถูกต้อง ผมสั่งลูกน้องให้ทำเอง ผมทำเพื่อต้องการทำงาน เรื่องเงินไม่มี… ชีวิตผมรับราชการมาไม่เคยมีทุจริตเรื่องเงิน” พ.ต.อ. ธิติสรรค์ กล่าว
พ.ต.อ. ธิติสรรค์ กล่าวอีกว่า ตามปกติ ตนเองจะไม่ลงไปสอบสวนผู้ต้องหาด้วยตนเอง แต่ในกรณีนี้ ตนต้องการสอบถามหาที่ซ่อนยาเสพติดจากผู้ต้องหา คือ นายจิระพงศ์ ธนะพัฒน์ อายุ 24 ปี ซึ่งพบว่าในโทรศัพท์ของเขามีภาพยาไอซ์ 1 กิโลกรัม และมียาบ้าประมาณ 2 หมื่นเม็ด แต่ผู้ต้องหาไม่ยอมบอกความจริง
“ไม่อยากให้เขาเห็นหน้าผม… ผมยอมรับผิดทุกประการ ผมไม่มีเจตนาฆ่าน้อง ผมทำงานเพื่อประชาชน เพื่อไม่ให้ลูกหลานติดยาเสพติด” พ.ต.อ. ธิติสรรค์ ตอบคำถามผู้สื่อข่าวถึงสาเหตุที่ใช้ถุงพลาสติกคลุมศีรษะนายจิระพงศ์
ด้าน พล.ต.ต. เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 6 เปิดเผยรายละเอียดการมอบตัวว่า พ.ต.อ. ธิติสรรค์ ได้โทรศัพท์มาหาเมื่อเวลาห้าทุ่มของวันพุธ โดยกล่าวว่า อยากจะฆ่าตัวตาย แต่ตนเองได้ปลอบใจให้ ผกก.โจ้ คลายความทุกข์ จากนั้น ผกก.โจ้ จึงให้ตนเองไปรับตัวที่ สภ. แสนสุข จังหวัดชลบุรี เมื่อเวลา 16.00 น. ของวันพฤหัสบดีนี้
ด้าน พล.ต.อ. สุวัฒน์ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้เป็นการยืนยันว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ไม่ได้ต้องการปกป้องผู้กระทำผิด
“ฝ่ายสอบสวน ซึ่งนำโดยท่านรองสุชาติ ธีระสวัสดิ์ ได้ออกหมายจับเป็นข้าราชการทั้งหมด 7 คน ซึ่งตอนนี้อยู่ในการควบคุมของพนักงานสอบสวนแล้ว 5 คน ซึ่งผู้กำกับโจ้ก็อยู่ที่นี่ (กรุงเทพฯ) ส่วนคนที่ 7 (ร.ต.ท. ธรณินทร์ มาศวรรณา) กำลังขึ้นเครื่องบินมาจากจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เราพยายามทำเพื่อให้สังคมเห็นว่า เราไม่เคยปกป้องคนกระทำผิด เราเอาทุกคนเข้ามาสู่กระบวนการยุติธรรม (แม้) มันอาจจะไม่ได้ช่วยให้สิ่งที่สูญเสียไปมันดีขึ้น” พล.ต.อ. สุวัฒน์ กล่าว
ส่วนรายชื่อผู้ต้องหาทั้ง 7 ราย ประกอบด้วย 1. พ.ต.อ. ธิติสรรค์ 2. พ.ต.ต. รวีโรจน์ ดิษทอง 3. ร.ต.อ. ทรงยศ คล้ายนาค 4. ดต. วิสุทธิ์ บุญเขียว 5. ดต. ศุภากร นิ่มชื่น 6. ส.ต.ต. ปวีกรณ์ คำมาเร็ว และ 7. ร.ต.ท. ธรณินทร์ มาศวรรณา เบื้องต้น ทั้งหมดถูกตั้งข้อหาเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยทรมาน
การเปิดโปงเหตุการณ์ซ้อมทรมาน เริ่มมาจากเฟซบุ๊กเพจ “ทนายคลายทุกข์” ได้เปิดเผยในวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่า ได้รับการร้องเรียนจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจชั้นผู้น้อยว่า เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2564 เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองนครสวรรค์ได้จับกุมผู้ต้องหาในคดียาเสพติด 2 ราย และตำรวจได้ซ้อมทรมาน นายจิระพงศ์ ธนะพัฒน์ อายุ 24 ปี หนึ่งในผู้ต้องหาเพื่อเรียกรับเงิน 2 ล้านบาท แลกกับการไม่ดำเนินคดี แต่นายจิระพงศ์ ได้เสียชีวิตระหว่างการถูกทรมาน
ต่อมาในวันอังคาร เฟซบุ๊กเพจ “ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ” ได้เผยแพร่วิดีโอเหตุการณ์ดังกล่าวซึ่งเผยให้เห็น ชาย 5 คน ใช้กำลังทรมานชาย 1 คน นำมาสู่การสั่งให้ พ.ต.อ. ธิติสรรค์ ออกจากราชการไว้ก่อน
เจ้าหน้าที่ตำรวจยึดถุงพลาสติกคลุมศีรษะชายคนหนึ่ง ที่จังหวัดนครสวรรค์ เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2564 ภาพนิ่งตัดจากวิดีโอ ในโซเชียลมีเดีย (ยูทูบ/ษิทรา ทนายความ/รอยเตอร์)
ผู้กำกับโจ้ หรือ โจ้เฟอร์รารี่ 'ยึดรถหรูนำเข้า 368 คัน'
พ.ต.อ. ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ โจ้ อดีต ผกก. สภ. เมืองนครสวรรค์ อายุ 39 ปี เป็นที่รู้จักในหน้าสื่อครั้งแรกเมื่อปี 2557 หลังมีข่าวบันเทิงระบุว่า คบหาดูใจกับ น.ส. พิชญ์นาฏ สาขากร หรือเมย์ นักแสดงและนางแบบ ก่อนที่หลังจากนั้นมีข่าวว่าเลิกรากันไปเมื่อฝ่ายหญิงทราบว่า พ.ต.อ. ธิติสรรค์ เคยแต่งงานและมีบุตรแล้ว พ.ต.อ. ธิติสรรค์ ถูกสื่อเรียกว่า “โจ้ เฟอร์รารี่” จากการครอบครองรถยนต์เฟอร์รารี่ และรถสปอร์ตหลายคันมูลค่าหลายสิบล้านบาท
ด้านการศึกษา พ.ต.อ. ธิติสรรค์ จบการศึกษาจากโรงเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 41 และโรงเรียนนายร้อยตำรวจ รุ่นที่ 57 บรรจุเป็นข้าราชการตำรวจ ตำแหน่งรองสารวัตร เมื่อ 1 กุมภาพันธ์ 2547
ในระหว่างที่รับราชการในจังหวัดนราธิวาส ในปี พ.ศ. 2554 ถึง 2560 พ.ต.อ. ธิติสรรค์ จับกุมรถยนต์นำเข้าผิดกฎหมายถึง 368 คัน โดยในวันเดียวกันนี้ นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยผ่านรายการ “เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand” ว่าผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการจับกุม แต่ละคันจะได้รับส่วนแบ่งรางวัลนำจับประมาณ 55 เปอร์เซ็นต์ โดยกรมศุลกากรได้นำรถ 363 คันออกประมูลได้เงินถึงหนึ่งพันล้านบาท
ซึ่งอธิบดีกรมศุลกากรไม่ได้เปิดเผยรางวัลส่วนแบ่งของ พ.ต.อ. ธิติสรรค์
ส่วนตัว พ.ต.อ. ธิติสรรค์เอง มีรถยนต์หรูไว้ในครอบครองอย่างน้อย 29 คัน โดยหนึ่งในรถที่ พ.ต.อ. ธิติสรรค์ เคยครอบครอง เป็นรถยนต์ลัมโบร์กินี ที่อยู่ระหว่างการดำเนินคดีหลีกเลี่ยงภาษีกับผู้นำเข้า แต่ พ.ต.อ. ธิติสรรค์ ไม่มีความผิดเพราะเป็นเพียงผู้ซื้อและครอบครอง ตามคำกล่าวของอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ
ในขณะเดียวกัน องค์กรฮิวแมนไรท์วอทช์ หน่วยงานด้านสิทธิมนุษยชนของสหรัฐฯ ได้ออกแถลงการณ์ ว่าเหตุการณ์ที่ พ.ต.อ. ธิติสรรค์ ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องนั้นไม่ใช่เป็นเหตุการณ์เดียวที่เพิ่งเกิดขึ้น “เริ่มต้นในปี 2546 ภายใต้การนำของนายทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ที่ตำรวจได้มีการปฏิบัติการ “สงครามปราบปรามยาเสพติด” ที่ฉาวโฉ่ ซึ่งส่งผลให้มีผู้ต้องสงสัยคดีค้ายาเสพติด อย่างน้อย 2,819 ราย เสียชีวิต โดยส่วนใหญ่ดูเหมือนจะถูกวิสามัญฆาตกรรม
“การกระทำของตำรวจที่ได้เห็นกันอีกครั้งหนึ่ง การซ้อมทรมานและสังหารผู้ต้องสงสัยในคดียาเสพติด ควรจะเป็นการปลุกกระตุ้นให้รัฐบาลตั้งคณะกรรมการสอบสวนและดำเนินคดีที่เป็นอิสระ กับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่กระทำความผิด เพื่อนำความยุติธรรมมาสู่ประชาชน” แบรด อดัมส์ ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียของฮิวแมนไรท์วอทช์กล่าว
สำหรับความหวังที่จะนำมาสู่ความยุติธรรมนั้น แบรด กล่าวว่า “จำเป็นต้องมีความอิสระเต็มที่ในการสอบสวนและดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไทย”
มารียัม อัฮหมัด ในปัตตานี ร่วมรายงาน