คาร์บอมบ์แฟลตตำรวจนราธิวาส ตายหนึ่ง เจ็บหลายสิบคน

เจ้าหน้าที่ในสามจังหวัดชายแดนใต้ กล่าวในวันอังคารนี้ว่า ได้เกิดเหตุระเบิดคาร์บอมบ์แฟลตตำรวจ ในเขตเทศบาลเมืองนราธิวาส ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิต 1 นาย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 31 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นครอบครัวของตำรวจที่อาศัยอยู่ในแฟลตแห่งนี้

เจ้าหน้าที่กล่าวว่า แฟลตตำรวจดังกล่าวอยู่ใกล้กับโรงเรียนนราสิกขาลัย ในเขตเทศบาลนราธิวาส ซึ่งมีเจ้าหน้าที่และครอบครัวอาศัยอยู่ประมาณห้าสิบชีวิต

พ.ต.อ. เจฟฟรีย์ ไศลมานกุล ผู้กำกับการสถานีตำรวจจังหวัดนราธิวาส กล่าวกับผู้สื่อข่าวหลังเกิดเหตุว่า จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งไว้บริเวณแฟลตตำรวจ ทราบว่ามีคนร้ายมากกว่าหนึ่งคนร่วมทำงานด้วยกัน

“คนร้ายใส่เสื้อคอปกสีเทา ใส่กางเกงขายาวสีดำหรือสีกรมท่า ใส่เข็มขัดสนามพกอาวุธสั้นที่เอว ใส่ถุงมือสีดำ ตัดผมรองทรง รถที่เอามาตั้งเป็นรถกระบะดีแม็กซ์สีดำ 4 ประตู หลังจากนั้นมีชายอีกคนขับรถจักรยานยนต์รุ่นเวฟสีแดง ใส่เสื้อลายสก๊อตช์ กางเกงสีน้ำเงินใส่หมวกกันน็อค จอดรถจักรยานยนต์ ติดเครื่องยนต์มารับหน้าแฟลตแล้วขี่รถหลบหนีไป” พ.ต.อ. เจฟฟรีย์ กล่าว

เจ้าหน้าที่ซึ่งตรวจสอบพื้นที่ กล่าวว่า ในเบื้องต้นคาดว่าระเบิดที่ใช้เป็นระเบิดแสวงเครื่องที่ประกอบใส่ไว้ในถังแก๊สหุงต้ม หนัก 50 ก.ก. แล้ววางไว้ในรถกระบะ ขับมาจอดอยู่ที่บริเวณกึ่งกลางลานถนน ภายในแฟลตตำรวจ อานุภาพของระเบิดได้ทำลายรถกระบะทั้งคัน ชิ้นส่วนรถยนต์ เศษชิ้นส่วนของถังแก๊สหุงต้ม และเหล็กเส้นตัดสั้น ได้กระเด็นไปตกที่ต่าง ๆ ในรัศมีกว่า 200 เมตร

สำหรับผู้เสียชีวิต คือ ร.ต.อ. สุทธิรักษ์ หลงไหม รอง สวป.สภ.เมืองนราธิวาส และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกอย่างน้อย 31 คน หนึ่งในจำนวนนั้นเป็นเด็กอายุเพียงหนึ่งขวบ คือ ด.ช. ธเนศวร ชนะพันธ์

ทั้งหมดถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ ซึ่งเจ้าหน้าที่พยาบาล ระบุว่า มีอาการรุนแรงสองถึงสามราย

ด้าน พล.ต.ต. ปราบพาล มีมงคล รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 กล่าวว่า ทหารจากค่ายจุฬาภรณ์, ชุดอีโอดี, มูลนิธิกู้ภัย และพนักงานดับเพลิงระดมรถดับเพลิงราวสิบคัน เข้าที่เกิดเหตุเพื่อดับเปลวเพลิงที่ลุกไหม้รถยนต์ รถจักรยานยนต์ และอาคารแฟลตตำรวจ ซึ่งได้รับความเสียหายอย่างยับเยิน ขณะที่ผู้อำนวยการโรงเรียนนราสิกขาลัย สั่งการให้ครูและนักเรียนทุกคนอยู่ภายในห้องเรียนเพื่อความปลอดภัย

เจ้าหน้าที่สงสัยกลุ่มก่อความไม่สงบ

เหตุการณ์ครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากเหตุที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงยิง นายมะนาเซ ไซร์ดี เสียชีวิตในการปะทะในพื้นที่บ้านดอนรักจะรัง ในอำเภอหนองจิก ปัตตานี เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2565 นี้ นายมะนาเซ มีหมายจับ 6 หมาย และต้องสงสัยว่าร่วมก่อเหตุลอบวางเพลิงร้านสะดวกซื้อ และวางระเบิดปั๊มน้ำมัน 17 จุด ในสามจังหวัดชายแดนใต้ เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2565

ในเบื้องต้น เจ้าหน้าที่เชื่อว่ากลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้อยู่เบื้องหลังการวางระเบิดครั้งนี้

“ส่วนประเด็นและสาเหตุ อย่างที่ทุกคนทราบ คนร้ายมีความพยายามมาตลอด ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นเหตุที่เคยเกิดขึ้นมาตลอดต่อเนื่องหลายปี เกิดซ้ำ ๆ มาตลอด นับตั้งแต่เหตุปล้นเต็นท์ที่นาทวี แล้วนำไปก่อเหตุปล้นรถส่งของที่เมืองยะลา และปล้นรถขยะ ไปก่อเหตุลักษณะแบบนี้” พ.อ. เกียรติศักดิ์ ณีวงษ์ โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวกับผู้สื่อข่าว

“ยังมองได้ด้วยว่ากลุ่มก่อความไม่สงบก็ต้องการล้างแค้นให้กับสมาชิกกลุ่มที่ถูกจับกุมและถูกวิสามัญหลายคนในช่วงนี้” เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ซึ่งไม่สามารถเปิดเผยชื่อได้นายหนึ่งกล่าวเสริม

ด้าน อุสตาซ อานัส อับดุลเราะห์มาน หัวหน้าคณะพูดคุยสันติภาพของกลุ่มบีอาร์เอ็น ไม่ขอแสดงความเห็นใด ๆ เมื่อเบนาร์นิวส์ได้สอบถามเกี่ยวกับเหตุการณ์ระเบิดครั้งนี้

หลังเกิดเหตุยังไม่มีกลุ่มก่อความไม่สงบกลุ่มใด ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายบีอาร์เอ็น หรือพูโล ออกมาแสดงความรับผิดชอบ ทั้งนี้ คณะพูดคุยเพื่อสันติสุขของบีอาร์เอ็นและของรัฐบาลไทย มีกำหนดเจรจากันในมาเลเซียเป็นครั้งที่ 6 แต่ต้องเลื่อนออกไปเพราะมาเลเซียมีการเลือกตั้งใหญ่เมื่อสุดสัปดาห์นี้

ศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ภาคใต้ ระบุว่า นับตั้งแต่การปะทุของการต่อสู้แบ่งแยกดินแดนครั้งใหม่ เมื่อเดือนมกราคม 2547 เป็นต้นมาจนถึงเดือนมีนาคม 2565 มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์รุนแรงกว่า 7,344 คน และบาดเจ็บ 13,641 คน มีทั้งผู้นับถือศาสนาพุทธและอิสลาม