ตำรวจเร่งสอบกรณี ปืนเอเค 28 กระบอกหายจากคลัง ที่นราธิวาส

มารียัม อัฮหมัด
2021.05.25
นราธิวาส และปัตตานี
ตำรวจเร่งสอบกรณี ปืนเอเค 28 กระบอกหายจากคลัง ที่นราธิวาส เจ้าหน้าที่ตำรวจกู้ศพจากซากระบะ ที่ผู้ต้องสงสัยก่อความไม่สงบเผาจนเหลือแต่โครงรถ ในอำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี วันที่ 24 เมษายน 2564
เอเอฟพี

ในวันอังคารนี้ พ.ต.อ.ศุภกร พึ่งรศ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองนราธิวาส กล่าวแก่เบนาร์นิวส์ว่า กำลังเร่งสืบสวนกรณีที่ ปืนเอเค 102 จำนวน 28 กระบอก หายออกไปกองคลังกองร้อยอาสาสมัครรักษาดินแดง อำเภอเมืองนราธิวาสที่ 2 โดยระบุว่า ผลการตรวจสอบเบื้องต้น ไม่ใช่การปล้นปืน และขณะนี้กำลังรวบรวมข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

พ.ต.อ.ศุภกร เปิดเผยว่า นายมะยูโซ๊ะ กูเดะ ปลัดอำเภอเมืองนราธิวาส ได้เข้ามาร้องทุกข์เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2564 ให้ดำเนินคดีกับคนร้ายในกรณีที่ อำเภอเมืองนราธิวาสพบว่า เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2564 อาวุธปืนเอเค 102 จำนวน 28 กระบอก ได้สูญหายไปจากคลัง เบื้องต้นสภ. เมืองนราธิวาส จึงได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ

“หลังจากที่เราได้รับคำร้องทุกข์มาเมื่อสัปดาห์ก่อน ได้ไปตรวจสอบที่กองคลังกองร้อยอาสาสมัครรักษาดินแดง ขณะนี้ กำลังเร่งไล่ไทม์ไลน์ของปืนแต่ละกระบอกว่าถูกเบิกจ่ายใช้งานอย่างไร เพื่อรวบรวมข้อมูลดำเนินการต่อ โดยเราจะมุ่งสอบกับทางอำเภอเป็นหลักว่า ใครเป็นคนเบิกไปใช้งาน จากการตรวจสอบ พบว่า ปืนดังกล่าวมีประวัติในการเบิกจ่ายแต่ไม่พบตัวปืนจริง และทราบว่า ปืนไม่ได้หายในทีเดียว รวมถึงไม่ใช่ลักษณะของการโดนปล้น” พ.ต.อ.ศุภกร กล่าวเพิ่มเติม

ทั้งนี้ กองคลังกองร้อยอาสาสมัครรักษาดินแดง อำเภอเมืองนราธิวาสที่ 2 สถานที่เก็บปืนจำนวนดังกล่าว ตั้งอยู่ที่ เลขที่ 2 ม.8 ต.ลำภู อ.เมืองนราธิวาส โดยคดีนี้ ร.ต.อ.วรกิต กี่ตระกูล รอง สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองนราธิวาส เป็นผู้รับคำร้องในคดีอาญา ที่ 262/2564

พล.ต.ต.นรินทร์ บูสะมัญ ผู้บัญชาการตำรวจภูธร จ.นราธิวาส กล่าวแก่เบนาร์นิวส์ว่า หลังการร้องทุกข์ครั้งนี้ จังหวัดนราธิวาสจะดำเนินการล้างระบบเบิกจ่ายปืนทั้งหมด เพื่อความสะดวกในการตรวจสอบในอนาคต

“หลังจากนี้ เราจะรีเซ็ตระบบบัญชีปืนทั้งหมดของจังหวัด เพื่อให้สามารถตรวจสอบได้ว่า ใครเป็นคนเบิกจ่ายไป เจ้าหน้าที่นำไปใช้ หรือหายไปจากระบบธุรการ โดยกรณีนี้ หากตรวจสอบได้ว่า ปืนที่หายเป็นปืนที่เจ้าหน้าที่เบิกไปปฏิบัติหน้าที่แล้วถูกคนร้ายยึดระหว่างการปะทะ ก็ถือว่า ไม่ผิดปกติ แต่ถ้าเป็นการหายไปจากระบบธุรการแสดงว่า มีคนยักยอกออกไป ก็จะได้ดำเนินคดี แต่ขณะนี้กำลังให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตรวจสอบทั้งหมด ซึ่งคาดว่าเร็วๆนี้จะได้ข้อมูลเพิ่มเติม” พล.ต.ต.นรินทร์ กล่าว

ขณะที่ เจ้าหน้าที่ทหารซึ่งปฏิบัติการในพื้นที่ (สงวนชื่อและนามสกุล) รายหนึ่ง เปิดเผยต่อเบนาร์นิวส์ว่า ผู้ต้องหาคดีความมั่นคง เคยระบุว่า ได้รับปืนสำหรับใช้ก่อเหตุจาก อส. จึงเชื่อว่า กรณีปืนหายดังกล่าวอาจเกิดจากการยักยอกปืนในคลัง โดยเจ้าหน้าที่เอง

“จากการสอบสวนผู้ต้องหาคดีความมั่นคงที่ถูกจับกุมคดีลอบโจมตีฐาน ชคต. ผู้ต้องหาให้การสารภาพว่า อาวุธปืนดังกล่าวได้มาจาก อส.ที่นำมาให้ ไม่ได้มาจากการก่อเหตุแล้วขโมยมา และเมื่อตรวจสอบที่กองร้อย อส.เมือง ปรากฏว่า อาวุธปืนอาก้าที่อยู่ในความดูแลหายไปร่วม 28 กระบอก ซึ่งเชื่อว่าน่าจะมีคนในเกี่ยวข้อง ต้องเป็นคนที่ใกล้ชิด และดูแลคลังอาวุธปืน ที่นำอาวุธปืนออกมาจากคลังเรื่อยๆ” เจ้าหน้าที่รายดังกล่าว ระบุ

ด้าน เจ้าหน้าที่ อส. รายหนึ่ง(สงวนชื่อและนามสกุล) ชี้ว่า การตรวจสอบปืนที่หายไปน่าจะสามารถทำได้จากบัญชีเบิกจ่าย

“ปืนทุกกระบอกของ อส. ที่เบิกใช้ มีเลขรหัสประจำกาย อส. ทุกกระบอก เมื่อปฏิบัติหน้าที่จบก็ต้องส่งคืนคลังอำเภอ พร้อมเซ็นต์ส่ง ถ้าปืนหาย ก็สามารถหาที่มาที่ไปได้ไม่ยากโดยเช็คจากเลขรหัส และปืนต้องคืนคลัง ห้ามเอากลับบ้านโดยเด็ดขาด นอกจาก อส.บางรายที่จะได้รับพิจารณาเป็นกรณีพิเศษ เช่น ตกอยู่ในภาวะเสี่ยง เคยถูกลอบทำร้าย หรือเป็นเป้าหมายของกลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่ ก็จะได้รับอนุญาตให้นำปืนกลับไปใช้ป้องกันตัว” เจ้าหน้าที่ อส. รายนี้ กล่าว

“เคยคุยกับเพื่อน อส. พบว่า อส. บางคนเอาปืนไปจำนำ โดย อส. ที่เอาปืนไปจำนำอาจติดการพนัน ติดยา หรือเพื่อแลกผลประโยชน์บางอย่าง และ ทหาร ตำรวจ ก็มีการจำนำปืนเช่นกัน ซึ่งถ้าปืนถูกนำไปใช้ก่อเหตุ เจ้าหน้าที่ก็น่าจะรู้จากการตรวจรหัส เชื่อว่า หากตรวจคลังของอำเภออื่น ๆ ก็จะพบว่า มีปืนหายเหมือนกัน” เจ้าหน้าที่ อส. รายเดิม กล่าวเพิ่มเติม

ในปี 2547 เคยเกิดเหตุ กลุ่มคนร้ายบุกปล้นปืนจากกองพันพัฒนาที่ 4 ค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ หรือ ค่ายปิเหล็ง ใน อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส ทำให้ปืน 413 กระบอกหายไป รวมถึงเจ้าหน้าที่ทหาร 4 นายถูกยิงเสียชีวิต ต่อมาเหตุการณ์ครั้งนี้ กลายเป็นจุดเริ่มต้นของสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ระลอกใหม่

ขณะที่ฝ่ายความมั่นคงเปิดเผยว่า นับตั้งแต่ปี 2547 พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เคยเกิดเหตุคนร้ายปล้น ชิงอาวุธปืน ประจำกายของทหาร ตำรวจ อส. ข้าราชการกลุ่มอื่น และประชาชน รวมแล้วอย่างน้อย 1,965 กระบอก และเจ้าหน้าที่สามารถติดตามคืนได้เพียง 900 กว่ากระบอก

ก่อนหน้านี้ ปี 2555 เคยเกิดเหตุคนร้ายขโมยปืนออกจาก คลังของหน่วย ตชด. ที่ 24 จ. อุดรธานี 885 กระบอก ปี 2562 เกิดเหตุคนร้านปล้นปืนพกในคลัง สน.ทองหล่อ 11 กระบอก, ปืนจากคลัง สภ.ท่าหิน จ. ลพบุรี 49 กระบอก และปืนจากคลังกองกำกับการสืบสวนสอบสวน สภ.พระนครศรีอยุธยา 11 กระบอก และปี 2564 มีปืนหายจาก สภ.เสาหิน อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน 24 กระบอก

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง