คนร้ายบุกยิงครูสอนศาสนาเสียชีวิต ในบ้านพัก อำเภอหนองจิก

มารียัม อัฮหมัด
2021.08.12
ปัตตานี
คนร้ายบุกยิงครูสอนศาสนาเสียชีวิต ในบ้านพัก อำเภอหนองจิก ญาติเฝ้าศพนายอับดุลเลาะ บือราเฮง หลังถูกยิงในบ้านพัก ในหมู่ที่ 3 ต.คอลอตันหยง อ.หนองจิก ปัตตานี ระหว่างรอเจ้าหน้าที่ วันที่ 12 สิงหาคม 2564
เบนาร์นิวส์

พันตำรวจเอก คมกฤช ศรีสงค์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธร หนองจิก กล่าวว่า ได้เกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนบุกยิงครูสอนศาสนาเสียชีวิตที่บ้านพัก ในอำเภอหนองจิก ปัตตานี ในวันพฤหัสบดีนี้ โดยเชื่อว่ามีความเชื่อมโยงกับฝ่ายก่อความไม่สงบที่ตอบโต้เจ้าหน้าที่หลังจากการวิสามัญฆาตกรรมแกนนำคนสำคัญเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

พ.ต.อ. คมกฤช เปิดเผยว่า ในเวลา 12.00 น. ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงคนเสียชีวิตในบ้านพัก พื้นที่หมู่ที่ 3 ต.คอลอตันหยง อ.หนองจิก จึงได้นำกำลังไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ

“ในที่เกิดเหตุพบนายอับดุลเลาะ บือราเฮง ถูกยิงด้วยอาวุธปืนเอ็ม.-16 ที่ศีรษะและลำตัวรวม 3 นัด เสียชีวิตบนแคร่ ในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนตกอยู่ 5 ปลอก” พ.ต.อ. คมกฤช กล่าว

จากการสอบสวนทราบว่า คนร้ายเป็นชายสองคน แต่งกายคล้ายผู้หญิงบุกเข้าไป แล้วใช้ปืนสงครามยิงใส่นายอับดุลเลาะ ก่อนหลบหนีออกไปด้วยรถมอเตอร์ไซค์ฮอนด้าดรีมสีเขียว คนขับใส่เสื้อกีฬาแขนสั้นสีแดงนุ่งผ้าโสร่งลาย คนซ้อนท้ายใส่ผ้าคลุมสีดำ ปืนพกสั้นขนาด .38 ซุปเปอร์ของผู้ตายหายไป พ.ต.อ. คมกฤช กล่าวเพิ่มเติม

หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต. พิชญ์วุฒิ สงวนสมบัติศิริ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี เปิดเผยแก่สื่อมวลชนว่า ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวบรวมพยานหลักฐาน และติดตามไล่ล่าตัวคนร้ายมาลงโทษแล้ว

“เบื้องต้นเชื่อว่าการก่อเหตุครั้งนี้อาจเป็นการสร้างสถานการณ์ของกลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่ เพราะผู้ตายเป็นครูสอนศาสนา และโฆษกโครงการพาคนกลับบ้าน ประจำ อ.หนองจิก และเชื่อว่าอาจเชื่อมโยงกับเหตุปะทะวิสามัญ นายรอซารี หลำโซะ แกนนำระดับปฏิบัติการที่มีหมายจับ 9 หมาย ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญฆาตกรรม เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา” พล.ต.ต. พิชญ์วุฒิ กล่าว

สำหรับ นายรอซาลี เป็นคู่แฝดกับนายซอบรี หลำโสะ ซึ่งเสียชีวิตจากการปะทะในพื้นที่ ต.คอลอตันหยง อ.หนองจิก เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2562 และเป็นน้องชายของ นายบูคอรี หลำโสะ (ยังไม่ถูกจับกุม) มีภูมิลำเนาดั้งเดิมอยู่ที่ บ.ควนหรัน ต.เปียน อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา ทั้งสามคนเป็นทีมปฏิบัติการสำคัญของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง ที่ถูกเรียกขานว่า 'ทีมปัตตานี' ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาก่อเหตุรุนแรงใหญ่บ่อยครั้ง

หลังจากการวิสามัญฆาตกรรม ได้มีเหตรุนแรงมาอย่างต่อเนื่อง โดยในวันที่ 3 ส.ค. ได้เกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนและระเบิดโจมตีเจ้าหน้าที่ทหารพราน ที่ฐานชั่วคราวริมแม่น้ำสุไหงโก-ลก ในอำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส ทำให้มีเจ้าหน้าที่เสียชีวิต 1 นาย และบาดเจ็บ 4 นาย สองวันถัดมา คนร้ายยิงอดีตกำนันตำบลช้างเผือกเสียชีวิต ในอำเภอจะแนะ จังหวัดนราธิวาส

และเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมานี้ คนร้ายได้วางระเบิด หมู่ใหญ่พิพัฒน์ ปราบชมพู ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่กองร้อยอาสารักษาดินแดน อำภอสุไหงปาดี ในสวนยางพารา ในพื้นที่บ้านควน ต.สุไหงปาดี นราธิวาส จนขาขาด และมีคนร้ายอีกชุดใช้ปืนลูกซองยิงเจ้าหน้าที่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน บ้านบูแกะกลูโก ต.กาตอง อ.ยะหา จ.ยะลา ได้รับบาดเจ็บที่แขนขวา

ด้าน รศ.ดร. สามารถ ทองเฝือ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ให้ทัศนะต่อเบนาร์นิวส์ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในห้วงเวลานี้ เป็นการก่อความไม่สงบของฝ่ายขบวนการ ซึ่งยังมีแผนปฏิบัติการเป็นปกติอยู่เช่นเดิม แม้ว่าจะมีการแพร่ระบาดของโควิดก็ตาม

อย่างไรก็ตาม พันเอก เกียรติศักดิ์ ณีวงษ์ โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ ต้องนำข้อมูลหลาย ๆ ส่วนมาประกอบ ทั้งนี้ต้องรอผลพิสูจน์และการสอบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ก่อน ในส่วนเจ้าหน้าที่มีการจัดกำลังอย่างเต็มที่เพื่อเฝ้าระวัง ที่สำคัญเจ้าหน้าที่ต้องไม่ประมาท  

คนร้ายลอบวางระเบิดชุดปฏิบัติการทหาร-ตำรวจ รือเสาะ นราธิวาส แต่ไร้คนเจ็บ

ในช่วงเช้าวันเดียวกันนี้ ร.ต.อ. ปธาน หวังทอง รองสารวัตรสอบสวน สภ.รือเสาะ จ.นราธิวาส เปิดเผยว่า เกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดโจมตีชุดปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ทหาร-ตำรวจ-อาสารักษาดินแดน ขณะปฏิบัติการ บนถนนชุมชนศรีทักษิณ ม.2 ต.รือเสาะออก เมื่อเวลา 09.30 น. ซึ่ง ร.ต.อ. ปธาน ระบุเบื้องต้นเชื่อว่าผู้ก่อเหตุเป็นแนวร่วมผู้ก่อความไม่สงบหวังสังหารเจ้าหน้าที่

ร.ต.อ. ปธาน ระบุว่า เหตุเกิดขณะที่ เจ้าหน้าที่ชุด“ปฏิบัติการไตรมิตร” ซึ่งประกอบด้วย กองร้อยทหารพรานที่ 4611 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.รือเสาะ และเจ้าหน้าที่กองร้อยอาสารักษาดินแดน อ.รือเสาะ รวม 15 นาย กำลังใช้จักรยานยนต์ 3 คัน รถกระบะ 1 คัน และรถยนต์หุ้มเกราะ 1 คัน เคลื่อนขบวนเพื่อไปตั้งจุดสกัดลอย ที่กุโบร์ชุมชนศรีทักษิณ แต่ก่อนถึงจุดหมาย 180 เมตร คนร้ายไม่ทราบจำนวนแฝงตัวอยู่ในป่ารกริมทาง ใช้วิทยุสื่อสารจุดชนวนระเบิดที่ตั้งไว้ในพุ่มไม้ริมรั้วลวดหนามของชาวบ้าน

“โชคดีรัศมีระเบิดหักเหขึ้นท้องฟ้า ทำให้ไม่มีใคร ๆ ได้รับบาดเจ็บ ในที่เกิดเหตุพบเศษระเบิดแสวงเครื่อง ซากถังแก๊ส 25 ก.ก. วงจรวิทยุสื่อสาร เศษเหล็กตัดสั้น ห่างไปประมาณ 40 เมตร รถยนต์หุ้มเกราะถูกคราบดินและเศษไม้ กระเด็นไปติดอยู่ที่หลังคาและตัวถัง” ร.ต.อ. ปธาน กล่าว

อย่างไรก็ตาม นายกัสตูรี มะโกตา ประธานพูโล เปิดเผยถึงเหตุที่เกิดขึ้นทางเฟซบุ๊กว่า “เหตุระเบิดไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับพูโล แต่ก็ขอชื่นชมที่ (ผู้ก่อเหตุ) มีความพยายามอย่างต่อเนื่องในการต่อต้านอาณานิคมไทย การต่อสู้อันบริสุทธิ์นี้จะยังคงได้รับการอำนวยความสะดวกจากอัลลอฮ์”​

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง