คนร้ายโจมตีอาสาฯ และ ชรป. บาดเจ็บรวมสองนาย ในนราธิวาส-ยะลา

เจ้าหน้าที่ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้กล่าวในจันทร์นี้ว่า ได้เกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดและยิงเจ้าหน้าที่รัฐในสองเหตุการณ์ในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส และจังหวัดยะลา จนได้รับบาดเจ็บรวมสองนาย นับเป็นการทำร้ายเจ้าหน้าที่ที่มีมาอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่เจ้าหน้าที่วิสามัญฆาตกรรมแกนนำกลุ่มก่อความไม่สงบคนสำคัญเมื่อต้นเดือนสิงหาคมนี้  

ทั้งนี้ องค์กรเอ็นจีโอด้านสิทธิมนุษยชน เชื่อว่าความรุนแรงที่เกิดขึ้นในพื้นที่เป็นเพราะฝ่ายก่อความไม่สงบโต้ตอบรัฐ และได้เสนอแนะให้เจ้าหน้าที่เลือกใช้สันติวิธีในการแก้ไขปัญหา

ในเหตุการณ์แรก พ.ต.ท. ชากร ชูช่วย สารวัตรสอบสวน สภ.สุไหงปาดี จังหวัดนราธิวาส กล่าวแก่ผู้สื่อข่าวว่า หมู่ใหญ่พิพัฒน์ ปราบชมพู ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่กองร้อยอาสารักษาดินแดน อำภอสุไหงปาดี เหยียบกับระเบิดภายในสวนยางพารา ในพื้นที่บ้านควน ม.6 ต.สุไหงปาดี จนขาขาด ขณะที่ภรรยาได้บาดเจ็บเล็กน้อย ส่วนลูกสาวปลอดภัย

พ.ต.ท. ชากร ระบุว่า จากการสอบสวนทราบว่า ครอบครัวของหมู่ใหญ่พิพัฒน์ทั้งสามคนได้ขี่รถจักรยานยนต์สองคันออกจากบ้านเพื่อเดินทางไปเก็บขี้ยางพาราในสวนของตนเอง และขณะที่ได้แยกย้ายกันเดินเก็บขี้ยางพาราอยู่ในสวนนั้น หมู่ใหญ่พิพัฒน์ได้เหยียบกับระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายได้นำไปฝังไว้จนได้รับบาดเจ็บ

“หมู่ใหญ่พิพัฒน์ ข้อเท้าด้านซ้ายขาด ส่วนภรรยาที่เดินเก็บขี้ยางพาราห่างกันประมาณ 10 เมตร ถูกสะเก็ดระเบิดที่บริเวณใบหน้าเลือดอาบ ส่วนลูกสาวที่แยกย้ายไปเก็บขี้ยางห่างจากจุดเกิดเหตุปลอดภัย” พ.ต.ท. ชากร กล่าวแก่ผู้สื่อข่าว และกล่าวเพิ่มเติมว่า บุตรสาวเป็นผู้โทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อขอความช่วยเหลือ

ด้าน นายอนิรุทร บัวอ่อน นายอำเภอสุไหงปาดี ซึ่งได้ลงพื้นที่พร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยต่าง ๆ กล่าวว่า ตนเชื่อว่ากลุ่มก่อความไม่สงบได้หันมาเล็งเป้าหมายเจ้าหน้าที่ของรัฐ

“เหตุที่เกิดขึ้นเชื่อว่าเป็นฝีมือการกระทำของผู้ก่อเหตุรุนแรง โดยมีเป้าหมายแอบลักลอบนำระเบิดไปฝังไว้เพื่อดักสังหารเจ้าหน้าที่ เนื่องจากกลุ่มคนร้ายทราบว่าสวนยางพาราดังกล่าวเป็นของ อส.อ.สุไหงปาดี ได้สั่งกำชับไปยังกำลังพลทุกหน่วยทุกจุด อย่าตั้งอยู่ในความประมาท ทั้งการปฏิบัติหน้าที่และใช้ชีวิตส่วนตัว เพราะอาจจะตกเป็นเป้าของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงได้ทุกเมื่อ” นายอนิรุทร กล่าวแก่ผู้สื่อข่าว

ในอีกเหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้นในอำเภอยะหา จังหวัดยะลา พ.ต.อ. สายูตี กาเต๊ะ ผกก.สภ.ยะหา กล่าวว่า ในประมาณเวลาสิบโมงเช้าของวันจันทร์นี้ เกิดเหตุคนร้ายยิงนายนิแม วอเด็ง ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านบ้านบูแกะกลูโก ต.กาตอง อ.ยะหา จ.ยะลา ด้วยปืนลูกซองได้รับบาดเจ็บที่แขนขวา ก่อนถูกนำส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชอำเภอยะหา จังหวัดยะลา ล่าสุดอาการปลอดภัย

พ.ต.อ. สายูตี กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้เก็บรวมรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุโดยละเอียด พร้อมทั้งเข้าตรวจค้นบ้านของผู้ต้องสงสัยในหมู่บ้าน คาดสามารถควบคุมตัวได้เร็ว ๆ นี้

หลังจากการที่เจ้าหน้าที่ได้ยิงนายรอซาลี หลำโสะ หนึ่งในกลุ่มสามพี่น้องที่เจ้าหน้าที่ระบุว่าเป็นแกนนำทีมปฏิบัติการที่สำคัญของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง ที่เรียกขานกันว่า "ทีมปัตตานี" เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2564 นี้ ในวันถัดมา ได้เกิดการยิงทหารพรานที่ฐานชั่วคราวริมแม่น้ำสุไหงโก-ลก ในอำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส ทำให้มีเจ้าหน้าที่เสียชีวิต 1 นาย และบาดเจ็บ 4 นาย

จากนั้นอีกสามวันถัดมา เกิดเหตุคนร้ายยิงอดีตกำนันตำบลช้างเผือก ในอำเภอจะแนะ จังหวัดนราธิวาส ด้วยอาวุธสงครามจนเสียชีวิต นอกจากนั้นยังมีเหตุการณ์รุนแรงที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตอีกจำนวนหนึ่ง เช่น การยิงปั๊มป์น้ำมันปตท. ในอำเภอบันนังสตา ยะลา และการยิงหน่วยบริการประชาชนตำรวจทางหลวงในอำเภอหนองจิก เป็นต้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ระดับสูงรายหนึ่งระบุว่า เป็นการแก้แค้นของกลุ่มขบวนการ

ในเรื่องนี้ นางสาวพรเพ็ญ คงขจรเกียรติ ผู้อำนวยการมูลนิธิผสานวัฒนธรรม องค์กรเอ็นจีโอด้านสิทธิมนุษยชน กล่าวว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ช่วงนี้น่าจะเป็นปฏิกิริยาโต้ตอบของฝ่ายก่อความไม่สงบในพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องเลือกสันติวิธีเพื่อแก้ไขปัญหา

“ตั้งข้อสังเกตว่าเป็นปฏิกิริยาโต้ตอบของการใช้ความรุนแรงโดยรัฐ ในการฆ่าสังหารบุคคลที่มีหมายจับอาญาตามข้อกล่าวหาของฝ่ายทหาร หมายจับเหล่านี้แม้ออกจากศาล แต่ปัจจุบันอาจขาดการตรวจสอบตามมาตรฐานในคดีอาญาปกติ... ทหารในนามรัฐบาลต้องเลือกสันติวิธีจึงจะสามารถยืนอยู่บนหลักการการใช้กฎหมายที่เป็นธรรมได้” นางสาวพรเพ็ญ กล่าวกับเบนาร์นิวส์

ในก่อนหน้านี้ รศ.ดร. สามารถ ทองเฝือ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ให้ทัศนะต่อเบนาร์นิวส์ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในห้วงเวลานี้ ถือว่ายังเป็นการก่อเหตุอย่างปกติ เพราะฝ่ายขบวนการก่อความไม่สงบยังมีแผนปฏิบัติการเป็นปกติอยู่เช่นเดิม แม้ว่าจะมีการแพร่ระบาดของโควิดก็ตาม