ทหารยิงคนร้ายตายเป็นรายที่ 5 ในการปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ ที่นราธิวาส
2021.10.08
ปัตตานี

เจ้าหน้าที่ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เปิดเผยในวันศุกร์ นี้ว่า เจ้าหน้าที่ยิงคนร้ายเสียชีวิตอีก 1 ราย เมื่อวานนี้ ในการดำเนินยุทธการปิดล้อมต่อเนื่องกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ ที่ป่าพรุเสม็ด ในพื้นที่บ้านฮูแตยือลอ จังหวัดนราธิวาส มาเป็นเวลา 11 วัน ขณะที่ชาวบ้านทำพิธีฝังศพผู้ตายแบบซาฮีด ซึ่งเป็นการพลีชีพเยี่ยงนักรบตามหลักศาสนาอิสลาม
นับตั้งแต่กองกำลังผสมทหาร-ตำรวจ เข้าปิดล้อมพื้นที่ป่าพรุเสม็ดดังกล่าว มาเป็นเวลา 11 วัน โดยเริ่มจากวันที่ 28 กันยายนนี้ พันเอก เกียรติศักดิ์ ณีวงษ์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในประเทศ ภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน. ภาค 4 ส่วนหน้า) และเจ้าหน้าที่ตำรวจนราธิวาส กล่าวว่า เจ้าหน้าที่สามารถยึดศพและยืนยันอัตลักษณ์ของคนร้ายได้ 5 คน
ส่วนเจ้าหน้าที่ทหารเสียชีวิตจากการปะทะโดยตรง 2 นาย และเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิต อีก 2 นาย เพราะโดนวางระเบิดหลังสับเปลี่ยนกำลัง
“ตอนนี้ จากการปฏิบัติการเปิดยุทธการณ์ป่าฮูแตยือลอ กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบถูกวิสามัญ จำนวน 5 ราย นับจากศพที่สามารถนำส่งตรวจสอบพิสูจน์อัตลักษณ์ได้ และส่งศพให้ครอบครัวทำพิธีทางศาสนา” พันเอก เกียรติศักดิ์ กล่าวในวันศุกร์นี้
พ.อ. เกียรติศักดิ์ กล่าวว่า ผู้เสียชีวิตรายล่าสุด คือ นายมะสะกรี อูแล อายุ 43 ปี เป็นผู้ก่อเหตุรุนแรงรายสำคัญที่มีความเคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่อำเภอบาเจาะ มีหมาย ป.วิอาญาจำนวน 7 หมาย เช่น เหตุประกบยิงนางนิตยา แก่นเรือง และบุตรสาว เสียชีวิต เมื่อวันที่ 11 ส.ค. 2561 เป็นต้น
"เมื่อวานนี้ (วันพฤหัสบดี) มีปะทะอีกตอนเที่ยงเศษ ฝั่งคนในป่าก็ได้เสียชีวิตอีก วันนี้เข้าไปเอาศพออกมา และส่งมอบให้ญาตินำไปทำพิธี” พ.อ. เกียรติศักดิ์ กล่าวแก่เบนาร์นิวส์ในวันนี้
พ.อ. เกียรติศักดิ์ หลังจากที่เคลียร์พื้นที่ได้แล้ว เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องรวมทั้งชุดพิสูจน์หลักฐานได้เข้าไปนำร่างผู้เสียชีวิตออกจากที่เกิดเหตุ และดำเนินการพิมพ์ลายนิ้วมือ พิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล ก่อนส่งมอบให้ญาตินำร่างผู้เสียชีวิตไปประกอบพิธีทางศาสนา
พ.อ. เกียรติศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมถึงความคืบหน้าของเหตุการณ์ว่า ยังไม่ทราบแน่ชัดว่ายังเหลือคนร้ายอีกกี่คน “เพราะป่ามันกว้าง ยังไม่แย่ใจด้วยว่าจะใช้เวลาอีกกี่วันจะสามารถยึดพื้นที่ทั้งหมดได้”
ทั้งนี้ ในตอนบ่ายของวันศุกร์นี้ ญาติของผู้เสียชีวิตและชาวบ้าน ซึ่งเจ้าหน้าที่ประมาณว่ามีราว 500 คน ได้ทำพิธีฝังศพนายมะสะกรี แบบซาฮีด หรือนักรบ ที่กูโบร์ดูกูสุเหร่า บ้านดูกูสุเหร่า ม.7 ต.บาเจาะ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นสุสานเดียวกันที่ฝังผู้ก่อความไม่สงบที่เสียชีวิต 4 ศพ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ส่วนชาวบ้านต่างตะโกน “อัลเลาะฮ์ ฮูอักบา” ด้วยความขุ่นเคืองฝ่ายรัฐ
ญาติรายหนึ่งของนายมะสะกรี ซึ่งใช้ชื่อว่า นางมือยือ (สงวนนามสกุลเพื่อความปลอดภัย) กล่าวว่า ชาวบ้านมีความรู้สึกสับสนกับการให้ข่าวจำนวนผู้เสียชีวิตของทางเจ้าหน้าที่
“ชาวบ้านทุกคนยอมรับได้ถ้าเขาตาย เพราะรู้อยู่แล้วว่าถ้ามีการปะทะจริง ต้องมีการสูญเสีย แล้วการตายในซาฮีด ก็เป็นแนวทางที่เขาเลือกอยู่แล้ว เพียงแค่ต้องการศพกลับมาทำพิธี ถ้าเขาตาย แต่ที่ผ่านมาตลอด เจ้าหน้าที่ไม่มีการมาบอกชาวบ้านเลยว่า สรุปข้อเท็จจริงตายกี่คน ปล่อยให้ชาวบ้าน หาข่าวไปทั่ว จนไม่รู้อันไหนจริงอันไหนไม่จริง” นางมือยือกล่าว
ส่วนสาเหตุของตัวเลขที่สับสนนั้น พ.อ. เกียรติศักดิ์ กล่าวว่า เกิดมาจากสภาพพื้นที่ที่มีการปะทะนั้นเป็นป่ารก ขนาดกว้างถึง 90 ไร่ และมีการยิงกันอยู่ ทำให้ยากต่อการระบุว่าคนร้ายตายจริงหรือไม่ ซึ่งบางครั้งเจ้าหน้าที่ใช้กล้องความร้อนในการตรวจสอบประกอบกับการตรวจการณ์ด้วยสายตา
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 28 กันยายนนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธร จังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า คนร้ายเสียชีวิต 1 ราย และทหารพรานเสียชีวิต 1 นาย ในการปะทะที่ป่าพรุเสม็ดในพื้นที่บ้านฮูแตยือลอ แต่ไม่ได้ระบุชื่อคนร้ายที่ตาย และต่อมา มีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่กลับจากภารกิจปิดล้อมถูกวางระเบิดรถยนต์ตาย 2 นาย และบาดเจ็บ 4 นาย บนถนนสายศรีสาคร-จะแนะ ต.ช้างเผือก อำเภอจะแนะ
จากนั้น ในวันที่ 3 ตุลาคม พ.อ. เกียรติศักดิ์ ระบุว่าคนร้ายถูกยิงตาย 6 คน แต่ในภายหลังมีการส่งมอบศพเพียง 4 ศพ ในล่าสุด คนร้ายถูกยิงตายอีกหนึ่งราย เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 7 ต.ค.นี้
ตั้งแต่ มกราคม 2547 ซึ่งนับเป็นการปะทุของสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ระลอกใหม่ มีผู้ที่ถูกยิงหรือถูกวางระเบิดเสียชีวิตกว่า 7,000 คน
ส่วนการเจรจาระหว่างคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขในจังหวัดชายแดนภาคใต้กับทางกลุ่มบีอาร์เอ็นแบบตัวต่อตัวนั้น ได้สะดุดลงเพราะการระบาดของโควิดในเดือนมีนาคม ปีนี้ แต่ทั้งสองฝ่ายยังพูดคุยผ่านทางออนไลน์ในระดับเทคนิก ตามการบอกกล่าวของแม่ทัพภาคที่สี่