เจ้าหน้าที่เคลียร์ป่าพรุฮูแตยือลอ หลังปิดล้อมปะทะกว่าครึ่งเดือน

เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงสามารถควบคุมพื้นที่ป่าพรุ ในหมู่บ้านฮูแตยือลอ จังหวัดนราธิวาส ได้เรียบร้อยแล้ว หลังเสร็จสิ้นปฏิบัติการปิดล้อมกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบเป็นเวลา 17 วัน โดยในการปฏิบัติการดังกล่าว มีฝ่ายเจ้าหน้าที่เสียชีวิต 4 นาย ส่วนฝ่ายผู้ก่อความไม่สงบเสียชีวิต 6 ราย โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวในวันศุกร์นี้

การปฏิบัติการปิดล้อมผู้ก่อความไม่สงบในครั้งนี้ เริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 28 กันยายน 2564 โดยกองกำลังร่วมทหาร ตำรวจ และพลเรือน กว่าหนึ่งพันนาย ได้ร่วมปิดล้อมพื้นที่ป่าพรุ และบริเวณรายล้อมชั้นต่าง ๆ โดยมีการปะทะโดยตรงในพื้นที่ป่าพรุเป็นระยะ ๆ จนถึงวันพุธที่ผ่านมา และนอกจากนั้น ฝ่ายผู้ก่อความไม่สงบยังได้ลอบวางระเบิด และลอบยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ผลัดเปลี่ยนกำลังในปฏิบัติการปิดล้อมอีกด้วย

ในวันศุกร์นี้ พ.อ. เกียรติศักดิ์ ณีวงษ์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) ภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวว่า หลังจากปฏิบัติการเริ่มขึ้น กลุ่มผู้ก่อรุนแรงได้อยู่ในวงล้อมของเจ้าหน้าที่แต่ไม่ยอมมอบตัว แม้ว่าผู้นำศาสนาและครอบครัวจะได้ช่วยเจรจาแล้วก็ตาม

"เจ้าหน้าที่เคลียร์พื้นที่เสร็จแล้ว ไม่พบคนร้าย ไม่พบอะไรอีก พร้อมทั้งได้ถอนกำลังออกจากพื้นที่ และได้ส่งคืนพื้นที่ให้พี่น้องประชาชนเข้าไปทำมาหากินได้ปกติ" โฆษกฯ กล่าวกับเบนาร์นิวส์

อย่างไรก็ตาม นางกายะ (สงวนนามสกุลเพื่อความปลอดภัย) อายุ 56 ปี ซึ่งเป็นแม่ค้าในพื้นที่บ้านฮูแตยือลอ เผยว่า หลังเจ้าหน้าที่ถอนกำลังกลับไป หมู่บ้านมีบรรยากาศใกล้ปกติแล้ว แต่ชาวบ้านยังมีความกังวล

“ชาวบ้านก็กลัวระแวงไปหมด ไม่รู้ว่าเขาจะมาจับใครไปอีก ไม่รู้เจ้าหน้าที่ยังจับตาดูอยู่หรือไม่ เพราะช่วงที่จัดพิธีศพให้คนที่เสียชีวิต มีคนมาเยอะ” นางกายะ กล่าวกับเบนาร์นิวส์

ด้าน นายอิสมะแอ (สงวนนามสกุลเพื่อความปลอดภัย) เยาวชนในพื้นที่กล่าวว่า มี “นักรบ” ได้ออกมาร่วมพิธีศพของผู้เสียชีวิตโดยไม่เกรงกลัวเจ้าหน้าที่ และบอกว่า สำหรับชาวบ้านแล้ว ฝ่ายเจ้าหน้าที่แพ้ในการปฏิบัติการครั้งนี้ เพราะชาวบ้านหลายร้อยคนต่างสดุดีฝ่ายผู้เสียชีวิต

“ชาวบ้านจำนวนไม่น้อยมองว่า ปฏิบัติการนี้ รัฐแพ้อย่างชัดเจน และเรียกผู้เสียชีวิตว่า นักรบปาตานี เชื่อว่าหากเจ้าหน้าที่ใช้วิธีปราบปรามจะไม่มีทางสำเร็จ เพราะถ้ามีคนเสียชีวิตก็จะมีคนใหม่ขึ้นมาแทน” นายอิสมะแอ กล่าวกับเบนาร์นิวส์

จากวิดีโอคลิปที่กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบได้ส่งผ่านทางเพื่อนสมาชิกขบวนการต่อมายังเบนาร์นิวส์ ปรากฏการยิงโต้ตอบกันอย่างต่อเนื่อง และกลุ่มผู้ก่อการได้กล่าวสรรเสริญอัลลอฮ์ และตะโกนคำว่า “ฮัลลอฮ์อูอักบาร์”

ลำดับเหตุการณ์

ในส่วนลำดับเหตุการณ์นั้น พ.อ. เกียรติศักดิ์ ระบุว่า ในวันที่ 28 กันยายน นี้ เจ้าหน้าที่ทหารพรานถูกยิงเสียชีวิตหนึ่งรายในการปะทะโดยตรงในป่าพรุฮูแตยือลอ และเจ้าหน้าที่ตำรวจถูกวางระเบิดที่บริเวณช่องเขา ริมถนนสายศรีสาคร–จะแนะ ในนราธิวาส เสียชีวิต 2 นาย คือ ร.ต.ท. ธีระศักดิ์ เครือคำ รวมถึง ส.ต.อ. ปริวัตร อุดม และยังได้รับบาดเจ็บสาหัสอีก 4 นาย

ในวันถัดมา คนร้ายใช้อาวุธปืนซุ่มยิงเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษเดลต้า กองกำลังตำรวจตระเวนชายแดน 44 ที่เดินทางกลับจากการสนับสนุนการปิดล้อมเพื่อกลับที่ตั้งในจังหวัดยะลา ได้รับบาดเจ็บอีก 2 นาย

ในวันที่ 3 ตุลาคม นี้ ร.ท. กฤษณะ เพ็ชรจำรัส อายุ 38 ปี ตำแหน่งผู้ช่วยนายทหารฝ่ายยุทธการ กรมทหารพรานที่ 45 ถูกยิงเสียชีวิตในการปะทะที่ป่าพรุ ขณะกำกับการปิดล้อม ส่วนคนร้ายถูกยิงตายในเวลาต่อมา จากนั้นคนร้ายอีก 2 รายถูกยิงตายในวันที่ 7 และ 13 ตุลาคม 2564

เหตุการณ์เหล่านี้เป็นกลุ่มเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังจากที่เฟซบุ๊กเพจ BRN Barisan Revolusi National ซึ่งเชื่อว่า มีความสัมพันธ์กับขบวนการบีอาร์เอ็น ได้โพสต์ข้อความให้หน่วยกำลังในพื้นที่ป้องกันตนเองตามยุทธศาสตร์การรบ เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2564 หลังจากที่กลุ่มบีอาร์เอ็นประกาศหยุดการปฏิบัติการ เมื่อเดือนเมษายน 2563

สำหรับคนร้ายที่เสียชีวิต ประกอบด้วย 1. นายอับดุลเลาะห์ อูแล 2. นายบารูวัน กือจิ 3. นายอัฏฮาร์ ยูกะ 4. นายอัซซัน สามะ 5. นายมะสะกรี อูแล และ 6. นายซูเฟียน ยูโซ๊ะ โดยทั้งหมดเป็นผู้มีหมายจับคดีความมั่นคง

ตั้งแต่เดือนมกราคม 2547 ซึ่งนับเป็นการปะทุของสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ระลอกใหม่ มีผู้ที่ถูกยิงหรือถูกวางระเบิดเสียชีวิตกว่า 7,000 คน สำหรับการเจรจาระหว่างคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขในจังหวัดชายแดนภาคใต้กับทางกลุ่มบีอาร์เอ็นแบบตัวต่อตัวนั้น ได้สะดุดลงเพราะการระบาดของโควิดในเดือนมีนาคมปีนี้ แต่ทั้งสองฝ่ายยังพูดคุยผ่านทางออนไลน์ในระดับเทคนิค ตามการบอกกล่าวของแม่ทัพภาคที่ 4