เรือบรรทุกน้ำมันระเบิดที่สมุทรสงคราม

นนทรัฐ ไผ่เจริญ และวิลาวัลย์ วัชรศักดิ์เวช
2023.01.17
กรุงเทพ
เรือบรรทุกน้ำมันระเบิดที่สมุทรสงคราม เจ้าหน้าที่ดับเพลิงระงับเพลิงไหม้ หลังจากเกิดเหตุระเบิดบนบรรทุกน้ำมัน สมูธซี 22 ที่อู่ต่อเรือ บริษัท รวมมิตรด็อคยาร์ด จำกัด ในจังหวัดสมุทรสงคราม วันที่ 17 มกราคม 2566
ป้องกันภัยจังหวัดสมุทรสงคราม

ในช่วงเช้าของวันอังคารนี้ เกิดเหตุระเบิดและเกิดเพลิงลุกไหม้เรือบรรทุกน้ำมันที่จอดอยู่ที่ท่าเรือในจังหวัดสมุทรสาคร โดยผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครยืนยันว่า ผู้เสียชีวิตจากเหตุดังกล่าว 2 ราย อยู่ในขั้นตอนการระบุอัตลักษณ์อย่างเป็นทางการ และยังมีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บและสูญหายอีกหลายราย 

ด้านรักษาการอธิบดีกรมเจ้าท่ากล่าวว่า ยังไม่สามารถสรุปสาเหตุได้ในขณะนี้ แต่ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและคาดว่าจะได้ข้อสรุปการเกิดเหตุภายใน 10 วัน

นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม และกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสมุทรสงคราม ระบุว่า เมื่อเวลาประมาณ 09.20 น. เหตุระเบิดและเพลิงไหม้เรือสมูธซี 22 เกิดขึ้นขณะที่ช่างเชื่อมซ่อมบำรุงอยู่ที่อู่ต่อเรือ บริษัท รวมมิตรด็อคยาร์ด จำกัด ริมฝั่งแม่น้ำแม่กลอง ต.แหลมใหญ่ อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ ในเวลาประมาณ 15.00 น. หลังจากระดมฉีดโฟมเพื่อดับเพลิง 

หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่หน่วยต่าง ๆ ได้เร่งค้นหาและให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยทั้งบนเรือและในแม่น้ำแม่กลอง 

“พบคนตายแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิสูจน์อัตลักษณ์สองรายที่เสียชีวิต ต้องรอพิสูจน์หลักฐานว่าเป็นต่างด้าวหรือคนไทย... คนที่บาดเจ็บเป็นแรงงานที่เป็นช่างเชื่อม” นายสมนึก ผวจ. สมุทรสงคราม กล่าวกับผู้สื่อข่าวในตอนเย็นวันอังคารนี้ และระบุว่ามีลูกเรือทั้ง 17 คน แต่ไม่ได้รับบาดเจ็บใด ๆ

ในเบื้องต้น โรงพยาบาลสมเด็จพระพุทธเลิศหล้าระบุผู้เสียชีวิตได้เพียงว่า ชื่อนายทุย สัญชาติเมียนมา อายุ 36 ปี ส่วนอีกรายยังไม่ทราบชื่อ นอกจากนั้น ยังมีผู้ไดรับบาดเจ็บชาวเมียนมาอีกจำนวนหนึ่ง ขณะที่กลุ่มนักกู้ภัยกล่าวว่ายังมีผู้สูญหายอย่างน้อย 5 ราย ณ เวลาห้าโมงเย็น

นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม รักษาการอธิบดีกรมเจ้าท่า กล่าวว่า ยังไม่สามารถสรุปสาเหตุได้ในขณะนี้ 

“กรมเจ้าท่าเองต้องรอผลการตรวจสอบเรื่องของเคสการเกิดอุบัติเหตุ เร็วไปที่จะสรุปในวันนี้ รายละเอียดชื่อหรือสัญชาติ ไม่สามารถยืนยันในขณะนี้”​ นายสรพงศ์กล่าว และระบุว่าหลังจากเกิดเหตุการณ์ กรมเจ้าท่าก็ได้สั่งปิดอู่ต่อเรือที่ได้รับการอนุญาตให้เป็นอู่ผู้ประกอบการต่อเรือเมื่อ ปี 2561 

นายสรพงศ์กล่าวว่า เรือสมูธซี 22 บรรทุกน้ำมันซึ่งมีน้ำมันเตาอยู่ประมาณ 3 หมื่นลิตร มีน้ำมันดีเซลสำหรับการขับเคลื่อนเรือประมาณ 2.5 พันลิตร มีการทำประกันเรือไว้ด้วยมูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งประเมินเบื้องต้นเชื่อว่าจะสามารถครอบคลุมความเสียหายทั้งหมดที่เกิดขึ้นได้ 

ขณะที่รองอธิบดีกรมเจ้าท่า กล่าวว่า เรือสมูธซี 22 บรรทุกน้ำมันที่มีจุดวาบไฟต่ำ แต่ยังต้องรอการตรวจสอบสาเหตุอย่างละเอียด

“ในการบรรทุกมีจุดวาบไฟที่ต่ำกว่า 60 องศาเซลเซียส มีความไวไฟ... เหตุผลที่สงสัยทำไมเกิดระเบิดขึ้นมาได้ ก็คงต้องมีการตั้งเชี่ยวชาญขึ้นมาสอบสวน ก็จะทราบผลภายในอีก 10 วัน” นายภูริพัฒน์ ธีระกุลพิศุทธิ์ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า ด้านปลอดภัย กล่าวกับผู้สื่อข่าว 

นายภูริพัฒน์กล่าวว่า เรือสมูธซี 22 ขนาด 2,998 ตันกรอส มีอายุการใช้งานมาเพียง 4-5 ปี อยู่ระหว่างการเตรียมซ่อมบำรุงขณะที่เกิดเหตุระเบิด 

เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเมืองสมุทรสงครามรายงานว่า บ้านเรือนของผู้ที่อาศัยในบริเวณใกล้เคียงได้รับความเสียหายหลายสิบหลังคาเรือน 

อุบัติเหตุครั้งนี้นับเป็นครั้งที่สองของบริษัท สมูธซี โดยก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2565 เรือบรรทุกน้ำมันสมูธซี 2 ขนาด 1,989 ตันกรอส ระเบิดขณะจอดอยู่ บริเวณท่าเรือ ซอยสุขสวัสดิ์ 45 จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งบรรทุกน้ำมันเบนซินแก็สโซฮอล์ 91 จำนวน 1.8 ล้านลิตร และดีเซล 1.3 ล้านลิตร ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย และเสียชีวิต 1 ราย 

ในวันเดียวกันนี้ ผศ.ดร. ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ อาจารย์ภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ แสดงความเห็นต่อกรณีดังกล่าวกับสื่อมวลชนว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจำเป็นต้องเร่งวางทุ่นดักจับน้ำมันเพื่อไม่ให้รั่วไหลปนเปื้อนสู่ชายฝั่งหรือหาดชายเลน เพราะอาจจะกระทบต่อวาฬบรูด้า ลูกปลาทู และหอย ซึ่งมีชุกชุมในบริเวณใกล้เคียง

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง