ทหารเรือเร่งเคลียร์น้ำมันดิบรั่วในทะเลย่านมาบตาพุด

ท่อส่งน้ำมัน บ. สตาร์ ปิโตรเลียม รั่วกว่าแสนลิตรเมื่อคืนวันอังคาร
วิลาวัลย์ วัชรศักดิ์เวช
2022.01.26
กรุงเทพฯ
ทหารเรือเร่งเคลียร์น้ำมันดิบรั่วในทะเลย่านมาบตาพุด เครื่องบินลาดตระเวนของกองทัพเรือบินสำรวจสถานการณ์น้ำมันรั่ว ใกล้นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยอง วันที่ 26 มกราคม 2565
กองทัพเรือ

ในวันพุธนี้ กองทัพเรือส่งอากาศยานขึ้นสนับสนุนการขจัดคราบน้ำมัน หลังจากที่เกิดเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากท่อส่งน้ำมันใต้ทะเล ใกล้กับนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยอง ประมาณ 128 ตัน หรือ 160,000 ลิตร ซึ่งเจ้าหน้าที่เกรงว่าจะส่งผลกระทบย่านท่องเที่ยวในจังหวัด หากไม่สามารถควบคุมการปนเปื้อนได้

ท่อส่งน้ำมันของบริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) ได้เกิดการรั่วไหลขึ้น เมื่อตอนสามทุ่มของวันอังคาร ก่อนที่บริษัทจะสามารถอุดรอยรั่วได้หลังเที่ยงคืน เจ้าหน้าที่ฝ่ายสื่อสารของบริษัทฯ กล่าวในแถลงการณ์ในวันนี้

ด้าน พลเรือโท ปกครอง มนธาตุผลิต โฆษกกองทัพเรือ กล่าวว่า กองทัพเรือได้ส่งเครื่องบินลาดตระเวน เฮลิคอปเตอร์ และเรือรบ เพื่อสำรวจพื้นที่และบรรเทาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

“นอกจากนั้นได้จัดเฮลิคอปเตอร์ปราบเรือดำน้ำขึ้นบินตรวจสอบทิศทางการรั่วไหลของคราบน้ำมัน รวมถึงนำสารเคมี DASIC international SLICKGONE ขึ้นไปโปรยบริเวณพื้นที่เกิดเหตุ หน้าท่าเรือมาบตาพุด” โฆษกกองทัพเรือ ระบุในเอกสารแถลงข่าว

ในการนี้ กรมควบคุมมลพิษได้ใช้แบบจำลอง Oil Map ในการทำนายการเคลื่อนที่ของคราบน้ำมันในทะเล ซึ่งแบบจำลองนี้ แสดงให้เห็นว่ากลุ่มน้ำมันตังกล่าวอาจเคลื่อนตัวเข้าสู่ชายฝั่งทะเลบริเวณหาดแม่รำพึง ถึงบริเวณอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญในเมืองระยอง ในตอนเย็นของวันศุกร์นี้ หากไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้

ด้านบริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) ระบุในเอกสารแถลงการณ์ของบริษัทว่า กรณีน้ำมันดิบรั่วไหลบริเวณทุ่นผูกเรือน้ำลึกแบบทุ่นเดี่ยวกลางทะเล หรือจุดขนถ่ายน้ำมันในทะเล (SPM) ซึ่งอยู่ห่างจากชายฝั่งท่าเรือมาบตาพุดไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ประมาณ 20 กิโลเมตร เมื่อเวลา 21.06 น. ของวันที่ 25 มกราคม 2565

แถลงการณ์ ยังระบุด้วยว่า บริษัทฯ ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและสมาคมอนุรักษ์สภาพแวดล้อมของกลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมัน (IESG) ในการช่วยเหลือน้ำยาขจัดคราบน้ำมัน และอุปกรณ์ขจัดคราบน้ำมัน และบริษัทฯ ได้ประสานงานจาก บริษัท Oil Spill Response Limited (OSRL) ณ ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งขณะนี้กำลังส่งผู้เชี่ยวชาญเดินทางมาให้ความช่วยเหลือโดยทันที

“ขณะนี้ บริษัทฯ สามารถควบคุมปริมาณคราบน้ำมันให้อยู่ในวงจำกัด และยังคงมีปริมาณน้ำมันอยู่ในทะเลประมาณ 5.3 ตัน สำหรับการดำเนินงานของโรงกลั่นน้ำมัน บริษัทฯ ยังสามารถเดินเครื่องด้วยความปลอดภัยได้ตามปกติ” บ. สตาร์ ปิโตรเลียม รายงานความคืบหน้า ในเวลา 19.00 น. ของวันพุธ และระบุว่า จากการคำนวณแรงดัน (Pressure Balance) พบว่ามีปริมาณน้ำมันดิบรั่วไหลอยู่ที่ประมาณ 20-50 ตัน

นายสมภพ พัฒนอริยางกูล โฆษกกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุ ทางบริษัทฯ ได้ดำเนินการใช้น้ำยาและอุปกรณ์เพื่อขจัดคราบน้ำมันอย่างเร่งด่วน รวมทั้งได้เร่งประสานหน่วยงานในพื้นที่ ได้แก่ ศูนย์เฝ้าระวังและควบคุมสิ่งแวดล้อม (EMCC), ศูนย์บัญชาการตอบโต้สถานการณ์ฉุกเฉินและกระจายข่าว, ชุมชนกลุ่มประมงใกล้เคียง, ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ในการช่วยกันดำเนินการเพื่อลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมให้มากที่สุด

นอกจากนั้น นายสมภพ กล่าวอีกว่า กรมธุรกิจพลังงานได้ติดตามสถานการณ์และตรวจสอบปริมาณน้ำมันสำรอง พบว่าเหตุการณ์ดังกล่าวไม่กระทบต่อการจัดหาน้ำมันเพื่อรองรับการใช้ของประเทศอย่างแน่นอน รวมถึงมอบหมายให้พลังงานจังหวัดระยองติดตามสถานการณ์และประสานงานในพื้นที่ ซึ่งในภาพรวมประเทศไทยมีกำลังการกลั่นน้ำมันประมาณ 1.25 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในส่วนของโรงกลั่น SPRC มีกำลังการกลั่นประมาณ 175,000 บาร์เรลต่อวัน”

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง