“แอม ไซยาไนด์” เจอข้อหาฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน พบเสียชีวิต 13 ราย
2023.04.28
กรุงเทพฯ

พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เปิดเผยในวันศุกร์นี้ว่า ได้ตั้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนสองคดี กับ สรารัตน์ รังสิวุฒาภรณ์ หรือ ”แอม ไซยาไนด์” หลังพบพยานหลักฐานยืนยันว่าแอมเชื่อมโยงกับการวางยาพิษไซยาไนด์ฆ่าผู้อื่น 13 ราย เพื่อหวังทรัพย์
“แอม” สรารัตน์ รังสิวุฒาภรณ์ วัย 36 ปี ซึ่งกำลังตั้งครรภ์ ถูกจับกุมที่กรุงเทพฯ เมื่อวันอังคารพร้อมของกลางเป็นขวดไซยาไนด์ หลังจากที่เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ญาติของผู้เสียชีวิตรายหนึ่ง ในจังหวัดราชบุรี เข้ายื่นหนังสือเพื่อร้องขอให้ทางตำรวจสอบสวนกลางช่วยสืบสวนข้อเท็จจริง
โดย พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ กล่าวว่า เหยื่อของแอมทั้งหมดมีความเกี่ยวข้องเป็นเพื่อนหรือคนรู้จักของแอม และมีความเกี่ยวพันกันเรื่องเงิน เป็นเจ้าหนี้ของแอม ไม่ว่าจะอยู่ในวงแชร์เดียวกัน หรือมีการยืมเงินกัน
พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ กล่าวกับสื่อมวลชนว่า ปัจจุบันแอม ถูกตั้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน 2 คดี คือ คดีการเสียชีวิตของ น.ส. ศิริพร ขันวงษ์ หรือก้อย เมื่อวันที่ 14 เมษายน 2566 และการเสียชีวิต พ.ต.ต. หญิง นิภา แสนจันทร์ หรือสารวัตรปู เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2566 ปัจจุบัน ถูกฝากขังอยู่ที่ทัณฑสถานหญิงกลางในระหว่างรอการดำเนินคดี
“วันนี้ พบผู้เสียชีวิตอีก 1 ราย เป็นรายที่ 13 ในพื้นที่ของ สภ.โพรงมะเดื่อ จังหวัดนครปฐม เหตุเกิดเมื่อปี 63... วันนี้ พยานหลักฐานก็มัดมากขึ้น เหตุผลที่เรามองว่าเสียชีวิตเพราะแอม คือเขามีเรื่องเงินทองกับแอมมันมีความเชื่อมโยงอยู่ ทั้งหมดเป็นเรื่องเงินทั้งหมด” พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ กล่าว
“นิติเวชยืนยันว่าเป็นไซยาไนด์ เป็นตัวเดียวกับที่พบในศพ พนักงานสอบสวนได้ออกหมายจับแล้ว ตั้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา โดยไตร่ตรองไว้ก่อน เป็นอีกหนึ่งความผิด” พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ กล่าวเพิ่มเติม
ด้าน น.ส. ธันย์นิชา เอกสุวรรณวัฒน์ ทนายความของ น.ส. สรารัตน์ เปิดเผยว่า เตรียมหลักทรัพย์ 4 แสนบาท เพื่อขอประกันตัว น.ส. สรารัตน์ แล้ว แต่โดยส่วนตัวไม่ต้องการให้ น.ส. สรารัตน์ ได้ประกันตัว เพื่อให้ตำรวจสามารถดำเนินการได้อย่างเต็มที่
“ไม่ต้องการให้ประกันตัว ต้องการให้กองปราบทำงานรวบรวมพยานหลักฐาน โดยจะอ้างไม่ได้เลยว่าแอมไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน” น.ส. ธันย์นิชา กล่าว
คดีของ “แอม ไซยาไนด์” เป็นที่สนใจของสื่อ และถูกเรียกว่าฆาตกรต่อเนื่อง หลังจากที่ น.ส. ศิริพร ขันวงษ์ หรือก้อย เสียชีวิต เมื่อวันที่ 14 เมษายน 2566 ขณะไปปล่อยปลาที่ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี โดยญาติของก้อยติดใจการเสียชีวิต จึงได้มีการไปแจ้งความ กระทั่งพบเบาะแสว่า คนที่อยู่กับก้อยในวันที่เสียชีวิตคือ แอม
หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบพยานหลักฐาน ได้ขอหมายจับจากศาลอาญา ที่ 1285/2566 ลงวันที่ 25 เมษายน 2566 เพื่อจับกุมแอม และเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวแอม ในข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน” พร้อมของกลางเป็นขวดไซยาไนด์ ที่ศูนย์ราชการ ถนนแจ้งวัฒนะ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา จากการสืบประวัติพบว่าแอมเป็นอดีตภรรยาของรองผู้กำกับ สภ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี
หลังจากควบคุมตัวแอม และมีการเปิดเผยข้อมูลสู่สาธารณะ ญาติของผู้เสียชีวิตจำนวนหนึ่งทยอยมาให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ ได้รับหน้าที่ควบคุมคดีนี้ และเชื่อมโยงหลักฐานจากที่ต่าง ๆ พบว่า แอมอาจเกี่ยวข้องกับการวางยาฆ่าผู้อื่นเพื่อหวังทรัพย์ รวมแล้วถึง 13 ราย ตั้งแต่ปี 2563 จนถึงปี 2566 ในพื้นที่นครปฐม ราชบุรี กาญจนบุรี เพชรบุรี อุดรธานี และบึงกาฬ โดยล่าสุดพบผู้รอดชีวิตรายหนึ่ง
อย่างไรก็ดี พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า ได้พูดคุยกับคนที่เชื่อว่าถูกแอมวางยา แต่รอดชีวิตมาได้ คือ นางกานติมา แพสะอาด หรือ ปลา โดยปลารู้จักกับแอมผ่านสามี และแอมได้ยืมเงิน 2.5 แสนบาทจากปลาในเดือนกันยายน 2565 จากนั้นแอมได้ส่งยาสมุนไพรมาให้ปลากิน ซึ่งทำให้ปลา “หายใจไม่ออก มือแข็งเกร็ง” แต่ได้รับการช่วยเหลือจากแพทย์ทันเวลา ทำให้รอดชีวิต
เจ้าหนี้ของแอม กลายเป็นเหยื่อเสียชีวิต
ด.ต. นิติพนธ์ นุชิต สามีของ น.ส. สาวิตรี บุตรศรีรักษ์ หนึ่งในผู้เสียชีวิต 13 ราย ระบุว่า แอมติดหนี้ น.ส. สาวิตรี มากกว่า 1 แสนบาท
“เขาส่งยาลดน้ำหนักมาให้ พอดีได้ยินว่า (น.ส.สาวิตรี) อยากจะลดความอ้วน เขาก็เลยส่งยาลดความอ้วนมาให้ บอกว่ายาอย่างนี้ดีมาก ผมก็ได้ฟัง แล้วก็ไม่ได้คิดอะไร สภาพศพ (น.ส.สาวิตรี) ที่เห็นก็คือ เลือดออกปาก ริมฝีปาก-ปลายเล็บมือเป็นสีเขียว เขาจะเล่าว่าพี่แอมชอบมายืมเงิน” ด.ต. นิติพนธ์ กล่าวกับสื่อมวลชนเมื่อวันพุธที่ผ่านมานี้
ตำรวจระบุว่า การเสียชีวิตของเหยื่อทั้งหมดอาจมาจากสารไซยาไนด์ ซึ่งทำให้เกิดภาวะหัวใจเต้นผิดปกติรุนแรง และนำไปสู่การหัวใจวาย ซึ่งเหยื่อทั้งหมดที่เชื่อมโยงกับแอม ล้วนแล้วแต่เสียชีวิตจากอาการหัวใจล้มเหลว
สามี (สงวนชื่อ-นามสกุล) ของนางจันทร์รัตน์ วงศ์ไกรสิณ ที่เชื่อว่า ภรรยาของตนเสียชีวิตจากการถูกแอมวางยา เมื่อเดือนสิงหาคม 2565 ที่ชะอำ จ.เพชรบุรี กล่าวกับสื่อมวลชนเมื่อพุธที่ 26 เมษายน ที่ผ่านมาว่า ภรรยามีความเกี่ยวข้องทางการเงินกับแอม ได้ร่วมลงทุนปล่อยเงินกู้ และให้แอมเป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งตนเองเป็นผู้โอนเงินแทนภรรยาไป 7 หมื่นบาท ตามที่ตกลงกันไว้ สิ้นเดือนสิงหาคม 2565 จะต้องได้รับส่วนแบ่งดอกเบี้ยจากการปล่อยเงินกู้งวดแรก
“ทางคุณหมอก็บอกว่าไม่สามารถช่วยได้แล้ว ผลคือ หัวใจล้มเหลว ตอนนั้น ผมไม่ได้ติดใจการตาย เพราะคิดว่าภรรยาผมเสียเพราะโรค สิ้นเดือนที่แฟนผมเสีย ก็คือเดือนแรกที่แอมต้องให้เงิน แต่ก็คือไม่ได้แล้ว เพราะแฟนผมเสีย” สามี ของนางจันทร์รัตน์ กล่าว
“ผมไม่คิดว่ามันมีเรื่องเกินมนุษย์ที่จะทำกัน ผมไม่คิดว่าจะมีเคสที่เลวร้ายอย่างนี้อยู่ในโลก”