ผู้สมัคร ส.ส. รุ่นใหม่หวังเรียกคะแนนจากกลุ่มผู้ประท้วง

แฮร์รี่ เพิร์ล และ นนทรัฐ ไผ่เจริญ
2023.05.10
ปทุมธานี
ผู้สมัคร ส.ส. รุ่นใหม่หวังเรียกคะแนนจากกลุ่มผู้ประท้วง ชลธิชา “ลูกเกด” แจ้งเร็ว หนึ่งในเจ็ดผู้รับสมัครเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคก้าวไกล โบกมือให้ชาวจังหวัดปทุมธานี ในวันที่ 9 พฤษภาคม 2566
แฮรี่ เพิร์ล/เบนาร์นิวส์

หลายปีก่อน ชลธิชา “ลูกเกด” แจ้งเร็ว ฝ่าดงแก๊สน้ำตาและกระสุนยางในแนวหน้าของการประท้วง เพื่อเรียกร้องให้มีการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์และแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับทหาร และในการเลือกตั้งคราวนี้ เธอลงสมัครรับเลือกตั้งผ่านวิถีทางประชาธิปไตยและหมายมั่นที่จะแก้ไขระบบเหล่านั้น 

ลูกเกด ซึ่งเป็นตัวยุทธศาสตร์ที่สำคัญในขบวนการเยาวชนผู้ประท้วงรัฐบาลในช่วงปี 2562-63 ลงสนามในนามพรรคก้าวไกลในการเลือกตั้งที่จะมาถึงในวันอาทิตย์นี้ โดยได้เสนอนโยบายความเท่าเทียมทางเศรษฐกิจ เสรีภาพทางการเมือง และยุติการครองอำนาจของทหาร  

ลูกเกดขึ้นท้ายรถกระบะที่ประดับประดาไปด้วยป้ายหาเสียงของพรรค ตะลุยไปขอคะแนนเสียงจากประชาชนในย่านนิคมอุตสาหกรรมนวนคร ปทุมธานี เพื่อให้ช่วยสนับสนุนแนวทางของเธอในวันเลือกตั้งใหญ่นี้ เธอใช้ไมโครโฟนพูดคุยกับประชาชนที่ร้านอาหาร ร้านช่าง และตลาดตามข้างทาง ซึ่งได้รับการตอบรับด้วยการชูมือสามนิ้ว ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการต่อสู้ในหนังเดอะฮังเกอร์เกมส์

ลูกเกดในวัยสามสิบปี เป็นหนึ่งในผู้รับสมัครเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) หน้าใหม่ที่หมายมั่นในการรวมพลังของกลุ่มผู้ประท้วงเพื่อเปลี่ยนแปลงการเมืองไทย

ผลโพลทำนายการเลือกตั้งหลาย ๆ สำนักบ่งชี้ว่าพรรคก้าวไกลมีคะแนนนิยมเป็นอันดับสองในสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งมีแนวโน้มจะได้ร่วมรัฐบาลและยุติการครองอำนาจของทหารที่มีมานานเก้าปี ขณะที่พรรคเพื่อไทยที่มีแพทองธาร ชินวัตร ลูกสาวของอดีตนายกรัฐมมตรี ทักษิณ ชินวัตร เป็นตัวชูโรง มีคะแนนนำเป็นอับดับหนี่ง

“ถ้าลูกเกดได้เป็น ส.ส. ก็อยากจะผลักดันให้สิ่งที่ภาคประชาสังคมเรียกร้อง เสียงจากผู้คนตามท้องถนนและจากผู้ประท้วงให้กลายเป็นกฎหมาย เป็นนโยบาย” ลูกเกด กล่าวในขณะที่พักดื่มกาแฟที่ร้านสตาร์บัคส์ในปทุมธานี เขตเลือกตั้งที่มี ส.ส. 7 ที่นั่ง 

“ลูกเกดเชื่อว่าเราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงประเทศของเราด้วยการประท้วงแต่เพียงอย่างเดียว เราต้องเคลื่อนไหวทั้งบนท้องถนนและทำงานผ่านระบบสภา”

ประชาชนรุ่นใหม่ ๆ มีความชื่นชอบในนโยบายของพรรคที่หาเสียงในการเลือกตั้ง เช่น การลดการผูกขาดอำนาจและการปฏิรูปมาตรา 112 ซึ่งในการเลือกตั้งครั้งนี้ มีประชาชนในเจนแซดและเจนวายมีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงมากกว่า 41 เปอร์เซ็นต์ ตามตัวเลขของกรมการปกครอง

ด้านนักวิเคราะห์กล่าวว่า การใช้โซเชียลมีเดีย และการชูหัวหน้าพรรคก้าวไกล พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ วัย 42 ปี ศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยฮาเวิร์ด ในการหาเสียงเป็นที่ถูกใจของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งรุ่นใหม่อย่างยิ่ง

นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์รายหนึ่ง กล่าวว่า การที่พรรคก้าวไกลให้สัญญาว่าจะแก้ไขกฎหมายหมิ่นสถาบันกษัตริย์ เป็นหนึ่งในเหตุผลหลักที่เธอจะลงคะแนนเสียงให้พรรคก้าวไกล

“ฉันคิดว่าพิธาจะทำให้ชีวิตฉันดีขึ้น... ฝั่งพรรคอนุรักษ์นิยมยังมีทัศนคติทางการเมืองแบบเดิม ๆ มันเลยทำให้ประเทศก้าวหน้าไปไม่ได้” ไททาเนียม ภัยปลอด วัย 20 ปี กล่าวกับเบนาร์นิวส์

นอกจากลูกเกดแล้ว ยังมีปิยรัฐ จงเทพ หรือโตโต้ อีกคนหนึ่งที่เคยเป็นนักเคลื่อนไหวแล้วหันมาลงเลือกตั้ง เขาได้กล่าวว่าผู้ที่มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงครั้งแรกในคราวนี้ไม่ได้เรียนรู้สิ่งอื่นใดนอกจากชีวิตที่ตกอยู่ใต้อิทธิพลของ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา

“คนที่มีสิทธิ์เลือกตั้งครั้งแรกในครั้งนี้ คือ 18 ปี เขาเกิดมาในยุคที่มีรัฐประหาร 2 ครั้ง หมายความว่า กว่าครึ่งของชีวิตเขาอยู่ภายใต้รัฐบาลทหาร เขาเติบโตมาพร้อมกับแรงกดทับจากรัฐบาล ดังนั้นในการเลือกตั้งเขาจึงน่าจะอยากลิ้มรสของประชาธิปไตยเต็มใบ” ปิยรัฐ กล่าวกับเบนาร์นิวส์

230510-th-activist-election2.jpg

ไททาเนียม ภัยปลอด นักศึกษาวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่าเธอจะลงคะแนนให้พรรคก้าวไกล ในวันเลือกตั้งที่จะมาถึง 14 พ.ค.นี้ รังสิต จังหวัดปทุมธานี วันที่ 9 พฤษภาคม 2566 (นนทรัฐ ไผ่เจริญ/เบนาร์นิวส์)

พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้มีความจงรักภักดีในสถาบันพระมหากษัตริย์ ได้เป็นผู้นำประเทศสองสมัยภายหลังจากการทำรัฐประหารในปี 2557 ได้กดดันเสรีภาพตามระบอบประชาธิปไตย และได้บริหารประเทศที่ธนาคารโลกระบุว่ามีความไม่เท่าเทียมกันมากที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก

สำหรับเยาวชนไทยแล้ว ความไม่เท่าเทียมกันทางเศรษฐกิจมีความเกี่ยวพันเป็นอย่างยิ่งกับระบบการเมืองที่ไม่เป็นประชาธิปไตย นักวิเคราะห์กล่าว

“พวกเขามองว่าการโปรโมตสิทธิเสรีภาพ จะช่วยให้รัฐบาลรื้อโครงสร้างงบประมาณให้แก่พวกเขาด้วย” ฐิติพล ภักดีวานิช อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี กล่าวกับเบนาร์นิวส์

ลูกเกดซึ่งถูกฟ้องร้องในคดีอาญา 28 คดี ในจำนวนนั้นเป็นคดีหมิ่นสถาบันสองคดี กล่าวว่า การปรับปรุงด้านสวัสดิการสังคมและความเท่าเทียมทางเศรษฐกิจจะเกิดขึ้นไม่ได้หาก “ปราศจากการพูดคุยถึงการปฏิรูปทางการเมือง”

“หากเราลดงบประมาณทางทหารหรือสถาบัน แล้วนำมาสร้างรัฐสวัสดิการ เกดคิดว่าประชาชนไทยอีกจำนวนมากจะมีสภาพชีวิตที่ดีขึ้น” เธอกล่าว

ขณะที่ผลโพลแสดงให้เห็นกว่าพรรคก้าวไกลกำลังมาแรง พรรรคก้าวไกลยังคงต้องร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคอื่นซึ่งน่าจะเป็นพรรคเพื่อไทย เพื่อที่จะทำให้ความตั้งใจของชลธิชาเข้าใกล้ความเป็นจริง

แต่ยังมีนักวิเคราะห์อีกหลายคนที่ทำนายว่าทหารจะยังคงสามารถเกาะเกี่ยวอำนาจไว้ได้ไม่โดยทางใดก็ทางหนึ่งเพราะรัฐธรรมนูญ ปี 2560 ให้อำนาจ ส.ว. ที่ทหารเลือกมา 250 คน ร่วมเลือกนายกรัฐมนตรีกับสภาผู้แทนราษฎรที่มีสมาชิก 500 คน ดังนั้นพรรคที่ร่วมกันตั้งรัฐบาลต้องมีเสียงอย่างน้อย 376 เสียง

นักสังเกตการณ์รายอื่น ๆ ยังหยิบยกความเป็นไปได้ว่าจะมีการยุบพรรคก้าวไกลหรือพรรคเพื่อไทยหลังการเลือกตั้ง

พรรคอนาคตใหม่ซึ่งเป็นพรรคก่อนหน้าพรรคก้าวไกล ถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรค เพราะทำผิดกฎหมายเลือกตั้งเมื่อปี 2562 ส่วนนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค ถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นเวลาสิบปี

เมื่อเบนาร์นิวส์ถามว่า ชลธิชายังจะมีความหวังอย่างไรท่ามกลางความท้าทายของกฎหมายรัฐธรรมนูญ เธอตอบอย่างไม่ลังเลว่า

“ถ้าเราไม่มีความฝันที่ยิ่งใหญ่ เราก็จะนิ่งเงียบและไม่ทำอะไรเลย และจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรในประเทศชาติได้ สำหรับคนรุ่นลูกเกด เรารู้สึกว่าเราไม่มีทางเลือกนอกจากต้องลุกขึ้นสู้เพื่ออนาคตของเรา”

ช่องแสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นโดยการกรอกแบบฟอร์มด้วยอักษรธรรมดา ความเห็นจะได้รับการอนุมัติ ตามเงื่อนไข Terms of Use ความคิดเห็นจะไม่แสดงในทันที อาร์เอฟเอจะไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อเนื้อหาในข้อคิดเห็นนั้นๆ กรุณาให้เกียรติต่อความคิดเห็นของบุคคลอื่น และยึดถือข้อเท็จจริง